มวลชนแตกแยก
................................
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7789102
..............................
ส้มแดงทะเลาะกัน? เดี๋ยวก่อน สรุปอย่างนั้นไม่ได้ เพราะ “แดง” กว้างกว่า FC เพื่อไทย
คนเสื้อแดงเลือกก้าวไกลเยอะไป ไม่งั้นคงไม่ชนะเพื่อไทยทั้งเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง
:
“ด้อมส้ม” ก็ไม่ใช่คนเลือกก้าวไกลทั้งหมด
แต่เป็น FC ก้าวไกลในโลกออนไลน์ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะรุ่น
เติบโตพรวดพราดในวัฒนธรรม “ทัวร์ลง”
ถกเถียงร้อนแรงไม่มีละเว้น แม้แต่กับพรรคก้าวไกลเองหรือฝ่ายเดียวกันเอง
:
พูดให้ถูกจึงเป็น “ด้อมส้ม” กับ FC ที่รักหวงแหนจน “แบกพรรค” เพื่อไทย
.................................
ความขัดแย้งมีตั้งแต่เลือกตั้ง 62
บางคนโทษว่าเพราะเกิดพรรคอนาคตใหม่ “ตัดคะแนนกันเอง” ทำให้ประยุทธ์ได้ครองอำนาจอีกสี่ปี
ซึ่งยังเอามาทำสโลแกน “เลือกก้าวไกลได้ประยุทธ์” ยกเขตที่ 2
พรรคตัดคะแนนจน ส.ส.พปชร.ชนะ แล้วย้ายมารวมไทยสร้างชาติ
(แต่รอบนี้ก้าวไกลชนะขาด)
:
ในภาพรวมคือ เคยชินกับ “ระบอบประชาธิปไตยพรรคเดียว”
ทำใจไม่ได้ รับไม่ได้ ที่เกิดพรรคฝ่ายประชาธิปไตย 2 พรรคแข่งขันกันเอง (ซึ่งก้าวไกลโดดเด่นกว่าในสภา)
:
ในขณะเดียวกัน อนาคตใหม่ก้าวไกล ก็ช่วงชิงมวลชนด้วยวิถีต่อสู้ที่เข้มข้นกว่า
เช่น ธนาธร-ปิยบุตร แถลงไม่เห็นด้วยกับการเสนอชื่อแคนดิเดตพรรคไทยรักษาชาติ
:
คนเสื้อแดง คนเคยสู้ร่วมกับเพื่อไทย จำนวนไม่น้อยจึงข้ามมาอนาคตใหม่ก้าวไกล
โดยสิ่งหนึ่งที่ติดมาด้วยคือความผิดหวัง ความรู้สึกว่าเพื่อไทยสู้ไม่สุด หลังชนะเลือกตั้ง 54 จนดันทุรัง “นิรโทษสุดซอย”
:
คำว่า “สู้ไปกราบไป” ความหวาดระแวงการตัดสินใจของเพื่อไทย จึงฝังใจ FC ก้าวไกลส่วนใหญ่ตั้งแต่ต้น
โดยมาจากคนเสื้อแดงที่ผิดหวัง ไม่ใช่แค่ “สลิ่มกลับใจ” เกลียดทักษิณ
:
ธนาธรฟีเวอร์ ยังทำให้เกิดติ่งส้ม โตพรวดพราดยึดครองโลกออนไลน์ ไม่ใช่แค่ฟาดฟันสลิ่ม แต่ยังห้าวเป้งถกเถียง FC เพื่อไทย
ด้วยวัฒนธรรมไม่ละเว้น ไม่เห็นแก่หน้าว่า “สู้มาก่อน“
...................................
ความขัดแย้งที่สั่งสมมาปะทุเมื่อผลเลือกตั้งพลิกถล่มทลาย ก้าวไกลได้ที่ 1 เพื่อไทย “แพ้” ได้ที่ 2 อย่างเหลือเชื่อ
:
ปัญหาที่ตามมาคือ ขณะที่ “ด้อมส้ม” ตีปีกดีอกดีใจ FC
เพื่อไทยรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจต่อความพ่ายแพ้ ทั้งที่ “สู้มาก่อน”
รู้สึกถูกก้าวไกลข่มว่าเหนือกว่า
และยิ่งกระพืออารมณ์ผ่านการแย่งชิงเก้าอี้ประธานสภา
:
ประเด็นสำคัญคือ ไม่ตกผลึกว่าชัยชนะของก้าวไกล “ความพ่ายแพ้” ของเพื่อไทยเกิดจากอะไร
............................
เพื่อไทยเป็นพรรค Mass เดินแนวทาง Compromise ไม่ว่าจะเกี่ยวกับทักษิณกลับบ้านหรือไม่ก็ตาม
เพื่อไทยเชื่อว่าต้องหาเสียงเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ดึงคนข้างมาก
เพื่อชนะเลือกตั้งเข้าไปต่อรอง แก้ปัญหาประชาธิปไตยทีละเปลาะ
เพราะอำนาจอนุรักษ์แข็งเกินไป ชนตรงๆ ไม่ได้
:
ในขณะที่ก้าวไกลเป็นตัวแทนคนหนุ่มสาวห้าวเป้ง
หาเสียงปฏิรูปโครงสร้าง รื้อระบบราชการ ทหารตำรวจ ล้างทุนผูกขาด
เปรียบเหมือนหัวหมู่ทะลวงฟัน ดูเหมือน Extreme อินดี้
เชื่อกันว่าจะได้เสียงไม่มาก แค่เป็นพลังกดดัน เหมือน อ.จอน อึ๊งภากรณ์ เรียกร้องให้ช่วยกันเลือกก้าวไกลเป็นพรรคอันดับสอง
:
ที่ไหนได้ ความอัดอั้นเหลืออดต่ออำนาจกดทับ ทำให้คนเลือกก้าวไกลทะลุ 14.4
ล้านเสียง ประกอบกับเพื่อไทยแพ้ภูมิใจไทยพลังประชารัฐในภาคอีสาน
:
นี่คือเงื่อนไขปัจจัย ซึ่งไม่ใช่ความผิดของใคร แนวทางเพื่อไทยน่าจะถูกด้วยซ้ำ แต่ Voters ไม่ซื้อ
:
มันไม่ใช่เพราะเพื่อไทยโดนใส่ร้าย โดน IO โจมตี อย่างที่เชื่อในหมู่ FC
คนเชื่อแนวโน้มจับมือพลังประชารัฐ เพราะเพื่อไทยเดินแนว Compromise มาตลอด
ทั้งยังปรากฏ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ภรรยาเพื่อนป้อม กว่าจะปฏิเสธ
:
ถ้าว่าก้าวไกลโจมตี ประเด็นที่ทรงพลังที่สุดคือ การตั้งคำถามว่า
จะปล่อยให้ประเทศวนอยู่ระหว่างรัฐประหาร กับทักษิณ-เพื่อไทยที่สู้ไม่สุด
หรือจะลองทางเลือกใหม่
:
นั่นไม่ใช่โจมตีให้ร้าย แต่เสนอทางเลือกให้ประชาชน แหวกวงล้อมแลนด์สไลด์ ที่พยายามปิดจมูกก้าวไกล
.....................................
มวลชนทั้งสองพรรคที่เคยร่วมกันต่อสู้มาตั้งแต่ปี 49-53 ควรตระหนักว่า
แนวทางนโยบายก้าวไกลสรุปจากการต่อสู้ 17 ปี แบบทนไม่ไหวแล้วโว้ย
ต้องทะลุเพดานให้ถึงที่สุด
ขณะที่แนวทางเพื่อไทยซึ่งเชื่อว่าชนตรงๆ ไม่ได้ ประกอบกับข้อจำกัดของพรรค ของ ส.ส. ของทักษิณ
ทำให้ต้องเลือก Compromise เพดานต่ำ
:
ทั้งสองแนวทางมีความขัดแย้ง
ยิ่งเมื่อถูกกลไกรัฐประหารสืบทอดอำนาจ สกัดกั้นพิธา
ต้องส่งไม้ต่อให้เศรษฐา แล้วทักษิณกลับบ้าน ความขัดแย้งระหว่างมวลชนจะยิ่งรุนแรง
:
ประเด็นสำคัญนอกจากปัญหาท่าทีระหว่างกัน คือต้องไม่ลืมว่าต่อสู้มาเพื่ออะไร
สู้มาก่อน ตอนนี้จะอ้างความจำเป็นอ้างปากท้องเพื่อเป็นรัฐบาล ก็ทำได้
แต่อย่าบิดเบนหลักการประชาธิปไตย จนโจมตีว่าสิ่งที่ก้าวไกลเรียกร้องนั้นผิด
:
พูดง่ายๆ คุณ Pragmatism เลือกเพดานต่ำ ก็ทำไป
อย่ามาโจมตีคนมุ่งหวังเพดานสูงว่าดัดจริต
..............................
พูดตรงๆ ท่าทีสองฝ่ายแรง ด้อมส้มควรลดการมองแง่ร้าย
แต่อีกฝ่ายก็ไม่ควรตะแบงหลักการ ปลุกเกลียดชัง
กระทั่งสะใจพิธาไม่ได้เป็นนายกฯ ทั้งที่ทักษิณสมัครยิ่งลักษณ์ก็ถูกกระทำมาก่อน
:
ด้อมส้มอาจปากเสียรุมทัวร์ แต่อีกฝ่ายปลุกความเกลียดชัง
กระทั่งมองก้าวไกล “สลิ่มเฟสสอง” ทั้งที่แกนนำ ส.ส.จำนวนมากมาจากคนเคยสู้ด้วยกัน จากคนรุ่นใหม่ที่สู้หลังรัฐประหาร
:
เพื่อไทยจำเป็นต้องตั้งรัฐบาล จะแถไถอย่างไรก็ว่าไป
แต่อย่าโจมตีให้ร้ายก้าวไกลแบบทำลายหลักการ
เพื่อสร้างความชอบธรรมให้เพื่อไทยถีบก้าวไกล
:
นั่นต่างหาก สร้างความแตกแยกในหลักการประชาธิปไตย
lördag 29 juli 2023
มวลชนแตกแยก
Prenumerera på:
Kommentarer till inlägget (Atom)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar