måndag 15 september 2014

ลิเกจักรๆ วงศ์ๆ. ตอน " ลิเกสอนลิเก "ออกโรงอีกแล้ว มันส์พะยะค่า.. ลิเกแก่หัวแถวผู้รับใช้ใกล้ชิดเจ้าของคณะลิเก ออกโรงสั่งสอนลิเกหนุ่มปลายแถวที่ข่าวลือว่าเป็นลูก"ของอดีตนางเอกลิเกคนงาม"ได้กับลุงเจ้าของคณะลิเกลวงโลก ลิเกแก่สอนลิเกหนุ่มไม่ให้พูดเรื่องจริงสาวใส้พวกลิเกด้วยกันให้คนเห็นเรื่องทุเรศๆของพวกคณะลิเกหลวงโลก. เชิญทัศนา....

"ม.จ.จุลเจิม"ติง"หม่อมโจ้" วิจารณ์ไมค์ไฮโซ ควรชะโงกดูก้นบึ้งจิตใจของ"ม.ล.ปนัดดา"-อย่าสับสนในตัวเอง
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 16:00:08 น.


คลิกอ่าน  http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1410767618


http://www.matichon.co.th/online/2014/09/14107676181410768131l.jpg
สืบเนื่องจากในระยะหลังมานี้ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร หรือ "หม่อมโจ้" มักจะแสดงความคิดเห็นในประเด็นเรื่อง การจัดซื้อไมโครโฟน ที่ห้องประชุมทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีราคาแพงเกินจริงอยู่หลายครั้ง ผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว
http://www.matichon.co.th/online/2014/09/14107676181410768135l.jpg







ด้วยประเด็นดังกล่าว ทำให้พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ "ท่านใหม่" ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Chulcherm Yugala” ถึงกรณีที่ "หม่อมโจ้" วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า
      
การที่มีราชตระกูลบางคน บางท่านถูกล้างสมอง ให้เชื่อในค่านิยมแบบคอมมูนิส หัวสี่เหลี่ยมที่ยังมุ่งมั่นในการที่จะโค่นล้มสถาบัน (Before) และเมื่อทำตามกระแสสังคมนั้น จนสู้ไม่ไหว และพ่ายแพ้ (After) ก็คือ ผู้คนใน Mental (พวกโรคจิตเสื่อม) ซึ่งถูกผลักไปอยู่ชายขอบ ให้เชื่อในค่านิยมแบบผิดๆ

อย่างเรื่องที่ออกมาโจมตี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล แบบ ตีวัวกระทบคราด ถึงสถาบัน ถึงบรรพบุรุษ ของท่าน......... โดยใช้พวกเรา พวกราชตระกูลบางคนเป็นเครื่องมือ ทั้งๆที่เรื่องดังกล่าว หน่วยงานที่จัดการเรื่องนี้ และต้องรับผิดชอบโดยตรง คือ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนละส่วนราชการ เป็นคนละหน่วยงานกับสำนักปลัดนายกรัฐมนตรี ที่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล เป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีหน่วยงานเดียว ในตอนหลังจากการแบ่งมอบงานของ คสช. และเพิ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย
ผมขอย้ำว่า ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล จึงไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องหรือต้องรับผิดชอบในการจัดซื้อจัดจ้าง และใช้งบประมาณในเรื่องนี้
เมื่อได้ตัวหน่วยงานที่รับผิดชอบจัดการเรื่องนี้แล้ว ก็เป็นเรื่องที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว จะต้องชี้แจงต่อสังคมว่าทำไมจึงไปมอบหมายให้กรมโยธาธิการ ซึ่งเป็นหน่วยงานของ กระทรวงมหาดไทยมาจัดการเรื่องนี้ ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกันเลย แต่ก็เป็นไปแล้ว
      
วันนี้ ผมขอพูดถึง ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร ด้วยความรัก และเป็นห่วง ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร น้องเป็นคนดี ถือหลักธรรมที่ตนเองยึดถือ คือ ความกล้าหาญบนความถูกต้อง


แต่ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร เวลานี้ตกอยู่ในความลวงของความจริง
ควรชะโงกดูก้นบึ้งของจิตใจมนุษย์บางคน เช่น ม.ล.ปนัดดา ดิศสกุล บ้างหรือยัง

ได้รับรู้ความจริง คืออะไร สิ่งที่ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร มองเห็นอยู่ในขณะนี้ เป็นความจริงหรือไม่ และจะรู้ได้อย่างไร ว่าอะไรคือความจริง และอะไรคือความลวง อย่าตกอยู่ในความลวงของความจริงจากผู้อื่น

โดยเฉพาะพวกอยากทำลายล้างสถาบัน ชีวิตของเรา เราเลือกเองได้ อย่าให้ใครมาขีดเส้น หรือ ระบายสี เพื่อให้เป็นไปตามที่เขาต้องการ
      
ปัจจุบันผมว่า ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร สับสนในตัวเอง จึงต้องการค้นหาตัวเองด้วยตัวเอง มีความมุ่งมั่นที่เป็นคำตอบ ครั้นได้พบแล้วก็ยังต้านว่า ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายอยู่ร่ำไป และอย่าเป็นแบบนางอัปสร ที่โดนเทวดาหลอกอสูรมาช่วยกวนน้ำอมฤต แล้วได้ของแถมออกมาเป็นนางอัปสร งานหลักของนางอัปสรก็ไว้สนองความใคร่พวกเทวดา (ที่พวกอมนุษ) หรือบางครั้งก็เอาไว้ยั่วพระฤษีให้ตบะแตก
      
พวกเราที่เกิดในราชตระกูลบางคน รวมถึง ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร ต้องระวังตัว อย่าเป็น "นางอัปสร" กันเลย ซึ่งนางอัปสร ล้วนเป็นหญิงที่มีรูปงามๆ และประดับด้วยเครื่องถนิมพิมพาภรณ์อย่างงาม แต่ทั้งเทวดา และอสูร ไม่รับไปเป็นคู่ครอง เพราะฉะนั้นพวก นางอัปสรจึงเลยตกอยู่เป็นของกลาง จึงได้นามว่า “สุรางคนา” (เมียเทวดาทั่วๆ ไป) และ “สุมทาตมชา” (สตรีผู้เต็มไปด้วยความมัวเมา หรือความเพลิดเพลิน)
      
ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และราชตระกูล บางท่าน บางคน ผมอยากยกอุทาหรณ์ อีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องกามนิต
      

กามนิต ที่แม้ได้สนทนากับพระพุทธองค์จนดึกดื่น ก็ยังไม่รู้จักพระองค์ เพราะยึดมั่นกับความคิดดั้งเดิมของตัวเองว่า จะไปกราบพระพุทธเจ้าที่กรุงราชคฤห์เท่านั้น พอเช้ามาก็รีบรุดเดินทางจากบ้านช่างหม้อ เพื่อไปสวนมะม่วงนอกกรุงราชคฤห์ตามที่ได้ข่าวมา ขณะที่เร่งเดินโดยไม่มองซ้ายขวา ตาจรดจ่อแต่หอคอยกรุงราชคฤห์เป็นที่สังเกต เวลานั้นมีโคบ้าตัวหนึ่งวิ่งมาอย่างรวดเร็ว ผู้คนตะโกนให้กามนิตระวังตัว ก็หาได้ยินไม่ เพราะในใจนั้นตื่นมุ่งไปเฝ้าพระพุทธเจ้าอย่างเดียว จนถูกโค ขวิดตาย........
      
พระพุทธองค์ได้กล่าวต่อสาวกต่อมาว่า      

“...กามนิตเป็นคนโง่ที่หลงผิดคล้ายเด็กที่ดื้อ บากบั่นหาเราเพื่อขอเป็นสาวกศึกษาหลักธรรม. ตถาคตเล็งเห็นอุปนิสัยแล้ว ก็แสดงธรรมพอเป็นปัจจัย แต่เขาแสดงความไม่พอใจใฝ่มุ่งในกามสุข (การเมืองสุข) เพียงยึดหน่วงเอาตถาคตเป็นอารมณ์ร่วมคู่ไปด้วย บัดนี้ ได้ไปเกิดในแดนสุขาวดี...”
      
สุดท้ายนี้ ผมขอเอาใจช่วย ม.ล.ปนัดดา ดิศสกุล และขอให้สัญญากับผมสิว่า จะไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะสิ้นหวังแค่ไหน ก็ตาม.......

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ครับ พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องการให้ทานว่า
      

       “คหบดี เธอมีข้าวอยู่กำมือ เธอจะเลือกหว่านในนาใด
       1. นาดี 2. นาปานกลาง 3. นาเลว
       เธอจงหว่านในนาที่ดีเถอะ
       เพราะเมล็ดพันธุ์ย่อมเติบโต แข็งแรง สมบูรณ์ ได้ผลผลิตดี”
      
ด้วยความเคารพ
ม.จ.จุลเจิม ยุคล







เป็นเรื่องที่น่าขำ สำหรับบทความของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ที่เขียนโดยระบุว่าข้าพเจ้า ‘สับสน’ ในกรณี








เกี่ยวกับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล


ทั้งที่จริงแล้วหาก ม.จ.จุลเจิม ยุคล ไม่ผลีผลาม แต่ตรวจสอบข้อมูลก่อนเขียน ย่อมทราบว่าโดยแท้จริงแล้วข้าพเจ้ามิเคยบ่งชี้เจาะจงบุคคลใดทั้งสิ้น
ในกรณีการประมาณการจัดซื้อไมโครโฟน ที่ทำให้เสียประโยชน์ของประชาชน โดยจะเป็นความผิดของผู้ใดนั้นเป็นเรื่องที่ต้องสอบสวน
ดังนั้น ความ ‘สับสน’ ที่มีอยู่ คงจะไม่มีในที่อื่นใดนอกจากในความคิดของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ผู้เดียว อันเป็นผลจากความเข้าใจผิดของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล หากมองในแง่ดีว่ามิได้กระทำด้วยเจตนา



อีกอย่างที่ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ควรทราบก็คือ "ผิดคือผิด" "ถูกคือถูก" "ไม่เกี่ยวไม่รับรู้ คือไม่เกี่ยวไม่รับรู้ " ต้องว่ากันตามมูลความจริง

เรื่องของสมบัติประชาชนจะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร มาอย่างไร ว่ากันตามมูลความจริง ไม่ใช่ว่าเป็นคนโน้นคนนี้ มาจากโน้นจากนี้ หรือเป็นพวกตน คือคนดีที่ไม่ต้องตรวจสอบ ยุคนี้มีประชาชนรู้ตื่นกันมาก ไม่ได้หลงงมงายในตัวบุคคลกันมาก ทุกคนต้องแสดงความโปร่งใสตรวจสอบได้ ใครจะผิด ใครจะถูก ใครจะไม่เกี่ยวไม่รับรู้ ต้องว่ากันไปตามมูล ไม่ใช่ตามตัวบุคคล
      

ข้าพเจ้ามิได้เคืองอะไรกับบทความของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล โดยหากมองในแง่ดีคงเป็นเพียงความเข้าใจผิด ความไม่รอบคอบของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล เอง
อย่างไรก็ตาม ขอแนะ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ว่าควรตรวจสอบในสิ่งที่จะเขียนให้ดีกว่านี้ สำหรับปัญญาชนที่รู้จักพิจารณาไตร่ตรองความจริง การกระทำนี้ย่อมดูเป็นการแต่งเรื่องใส่ความ หรือหากจะมองในแง่ดีก็เป็นเรื่องของผู้สูงอายุที่หลงหูเบา
      
ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar