söndag 16 februari 2020

ใบตองแห้ง: พังคู่ "ตู่-แดง"

2020-02-16 22:11
ประชาชนอยากเห็นอะไร อยากฟังคำพูดอย่างไร จากนายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก หลังโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ทหารคลั่งกราดยิงที่โคราช

ก็ไม่น่ามากมายอะไร แค่หนึ่ง อยากให้กองทัพแสดงความรับผิดชอบ เยียวยาญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ กับสอง อยากให้กองทัพยอมรับว่า เกิดความหละหลวมในมาตรการรักษาความปลอดภัย การเก็บรักษาอาวุธกระสุน การระงับเหตุในค่ายทหาร

เพราะมันเป็นเรื่องช็อก ที่ประชาชนได้รับรู้ว่า จ่าทหารคนเดียว หลังยิงผู้บังคับบัญชาตาย ก็บุกเข้าค่าย จี้ชิงปืนยามรักษาการณ์ บุกคลังอาวุธ ชิงรถจี๊ปมาขับชนคลังกระสุน ยิงทหารยามตายเจ็บ แล้วขับลอยนวลออกไปยิงประชาชน ที่วัด ที่ห้าง จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้กล้าหาญ
ช็อกเพราะอะไร เพราะประชาชนเชื่อมั่นในประสิทธิภาพกองทัพ ไม่ว่าพวกชังชาติไม่ชังชาติ ก็ไม่คาดคิดว่า “เขตทหารห้ามเข้า” จะเอาอาวุธกระสุนออกมาได้ง่ายขนาดนี้ จ่าคลั่งคนเดียว บุกตะลุยค่ายทหารยังกับสนามเด็กเล่น ไม่มีใครสกัดกั้นได้ ปล่อยให้ออกมาฆ่าคนตายเป็นเบือ ด้วยอาวุธกระสุนจากเงินภาษีประชาชน

อารมณ์สังคมจึงคาดหวัง จะเห็นการแสดงความเสียใจ ขอโทษ ยอมรับความผิดพลาด แสดงความรับผิดชอบ และแก้ไข เช่น จะยกเครื่องระบบรักษาความปลอดภัยในค่ายทหารใหม่หมด ปรับปรุงคลังแสงทั่วประเทศ ประกาศรับผิดชอบเยียวยาผู้เสียหายทุกราย ฯลฯ
เท่านั้นก็จบ แถมยังอาจของบกลาง มาจัดซื้อจัดจ้างวางระบบคลังอาวุธใหม่ อย่างเร่งด่วน ให้เปิดได้โดยใช้ลายนิ้วมือนายทหารผู้รับผิดชอบ 3 นาย ฯลฯ ไม่ใช่เพียงใช้ปืนลูกซองพลานุภาพสูงยิงกุญแจ ก็เอาเอ็ม 60 ออกไปได้

เท่านั้นก็จบ เพราะนี่คืออารมณ์สังคมแบบไทยๆ เป็นความรู้สึกร่วมของประชาชนทั่วไป ไม่ใช่พวกชังชาติ หรือมุ่งหมายจะเอามาโจมตีทางการเมือง อย่างที่ท่านปักจิตปักใจ คิดมากไป หรือเปล่า

คนไทยนะ เกิดความเสียหายก็จ่ายค่าทำขวัญ ยอมรับผิด แล้วรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องอย่างนี้อีก เท่านั้นก็หันหน้ามาคุยกันได้ เหมือนขับรถชนคนตาย ถ้าเศร้าเสียใจเคารพศพ ขอขมา เจรจาค่าทำขวัญก็จบ ไม่ใช่ไปยืนเล่นมือถือไม่รู้สึกรู้สา

จึงไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อภิรัชต์ จึงไม่เข้าใจอารมณ์สังคมแบบไทยๆ ทั้งที่อ้างความเป็นไทย ไม่ขาดปาก

ประชาชนทั้งประเทศกำลังเศร้าโศก ช็อก ก็ยิ่งช็อกหนักเข้าไปอีก เมื่อเห็นผู้นำไปชูมินิฮาร์ต พูดเหน็บทางการเมือง ซึ่งผิดกาลเทศะอย่างจัง ไหนว่าคนไทยต้องรู้จักกาลเทศะ ผู้นำฝรั่งยังไม่เคยทำ

ผบ.ทบ.หลั่งน้ำตา ขอโทษ แต่ฟังไปฟังมา ไม่มีการยอมรับว่า “เขตทหารห้ามเข้า” หละหลวม และไม่แสดงความรับผิดชอบ ตรงกันข้าม เหมือนตั้งการ์ดป้องกัน และปัดความรับผิดชอบ

“วินาทีที่ผู้ก่อเหตุลั่นไกสังหารประชาชนนั้น เขาคืออาชญากร ไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว” พูดอีกก็ถูกอีก แต่เมื่อรวมกับคำแถลงทั้งหมด มันมีนัยของการปัดความรับผิดชอบ

จึงมีคนถามกลับ วินาทีที่คนร้ายฆ่าข่มขืนเด็กสาวบนรถไฟ ก็ไม่ใช่พนักงานรถไฟอีกต่อไป เหตุไฉนจึงปลดผู้ว่าฯ และ การรถไฟฯ จ่ายเยียวยา 8.5 ล้าน

ถ้าทหารค้ายาบ้าก็อีกอย่าง แต่นี่เข้าไปปล้นรถจี๊ป อาวุธสงคราม โดยท่านพูดเหมือนเหตุสุดวิสัย บรรยายเป็นฉากๆ อาชญากรอานุภาพแรมโบ้ ค่ายทหารกระจุยกระจาย พลทหารถูกยิงตาย กองทัพก็เป็นผู้เสียหาย หน่วยเผชิญเหตุเอาปืนพกไล่ยิงแล้ว คนร้ายขับรถหนีออกพ้นค่าย จบ แจ้งตำรวจ

ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมแค่ยอมรับว่ากองทัพผิดพลาด หละหลวม แค่นี้จึงพูดออกจากปากไม่ได้ ทั้ง ผบ.ทบ
 ทั้งนายกฯ ซึ่งโบ้ยไปว่ากองทัพจัดระเบียบมาร้อยกว่าปีตั้งแต่รัชกาลที่ 5

บอกแล้วว่านี่เป็นความรู้สึกร่วมแบบไทยๆ แค่ให้ยอมรับแล้วแก้ไข ไม่ได้ไปถึงขั้นให้ต้องลาออก (เพียงแต่ถ้าลาออกถือเป็นการแสดงสปิริต ที่สังคมจะปรบมือยกย่อง อีก 2 ปีเป็น นายกฯ สบายๆ)

แต่เหมือนท่านกลับคิดมากไปว่า ถ้ายอมรับผิดแล้วจะเข้าทาง “พวกชังชาติ” กระแสวิพากษ์ความหละหลวมของกองทัพมาจาก “พวกชังชาติ” ไม่ยักเข้าใจว่ามันเป็นอารมณ์ร่วมสังคมไทยต่างหาก

ก็เลยหลั่งน้ำตา อย่าด่ากองทัพ ให้ด่า ผบ. แต่ไม่ลาออก วันรุ่งขึ้นยังจินตนาการความรู้สึกของสุนัขสงคราม ว่ารู้จักสำนึกบุญคุณกองทัพบก ยกมาเปรียบเทียบ ด่าพวกเล่นทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ค ไอจี ที่ “ชังชาติ”

จะบอกว่าประชาชนไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์กองทัพ หละหลวม ไร้ประสิทธิภาพ ใครพูดอย่างนั้นเป็นพวกชังชาติ ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณกองทัพ เทียบกับหมายังไม่ได้?

ย้อนกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น สังคมไทยๆ แค่ต้องการให้กองทัพยอมรับความผิดพลาด แสดงความรับผิดชอบ เท่านั้นก็พอใจ แต่พวกท่านไปกันใหญ่ กองทัพผิดไม่ได้ กองทัพ มีบุญคุณต่อประชาชน ต้องโทษไอ้พวกชังชาติ ปลุกกระแสด่ากองทัพ ฯลฯ

ช่างไม่เข้าใจ ไม่ตระหนักความรู้สึกประชาชนแม้แต่น้อย
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_3573467 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar