fredag 17 april 2020

ขอโทษ ! (?) "การขอโทษ-ยอมรับผิด" หรือ "ทำไมการเมืองไทย ติดแหง็ก ไม่ไปไหนสักที"

 
Image may contain: 1 person, text
พล.อ.ประยุทธ์ ขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจปมเยียวยา 5 พัน ยืนยันแจกครบ 3 เดือนแน่
.
“เมื่อวาน (15 เม.ย.) ต้องขอโทษด้วย ผมไม่ได้มีเจตนาให้เข้าใจอย่างนั้น แต่ผมต้องการให้เข้าใจว่ามันใช้เงินกันยังไง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่แน่นอนและจะไม่ให้เงินอีกแล้วทำนองนี้”
.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกมาขอโทษสังคมที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ หลังระบุในระหว่างการแถลงข่าวว่างบประมาณจ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชน 5 พันบาท/เดือน เหลือ “จ่ายได้แค่เดือนเดียวก่อน” จากมติคณะรัฐมนตรี (...
See More
General. Oh, my God. Prayut. Sorry that I'm not comfortable. The Knot Heals 5 thousand. Confirm that I will give . " yesterday (15 Apr. Oh, my God. ) I'm sorry. I don't mean to understand that, but I want to understand how it's spending money, but it doesn't mean uncertain and I won't give money anymore . General. Oh, my God. Prayut Chan Ocha, Prime Minister and minister. Defense came out to apologize to the society that caused discomfort after stating during the press conference that the budget paid to heal the people 5 thousand baht / month. There is only one month left to "pay for a month before" from the cabinet resolutions (Khor. ) TAKE ACTION AT LEAST 3 months to reduce the impact of independent occupation from covid epidemic-19 . Recently, the prime minister has returned by confirming that he will pay for sure for 3 months. If the situation gets better quickly, it can solve all levels after 3 months. There is no need to earn money here. Everyone can go to earn. . " thank you and sorry for making me insecure. Be confident. I have come all the time. Rest assured, ministry of finance is confident. All my staff try to do their best. Sometimes it's difficult. Easy, instant. I'm sorry, but it's a measure to be The most careful because it's government money. There must be checked later. I don't want problems later. I know that everyone is in trouble and in trouble at the same time. But it has to gradually confirm for 3 months. Okay " Pol. Oh, my God. Prayut says . The Prime Minister also stated that he is considering labor assistance in and outside the social security system, including farmers are ready to ask for the people to help reduce the epidemic of cowid-19 because the ministry of health says that if 14 days, the infected-19 is reduced. So we can take some control . " must see where to unlock, but not all of them. The infected numbers are increasing. It will be difficult to pull down. If you unlock some business to move, there are some careers, you need to cooperate here. If you call for all open, numbers. More infected, who can be responsible, so we are responsible for many things because it is an irregular situation " Pol. Oh, my God. Prayut says
Translated
 
"การขอโทษ-ยอมรับผิด" goo.gl/nPkzaS หรือ "ทำไมการเมืองไทย ติดแหง็ก ไม่ไปไหนสักที"
Somsak Jeamteerasakul updated his status.

"การขอโทษ-ยอมรับผิด"
อันนี้ เรียกว่า เป็นอะไรที่นึกขึ้นมาในใจ หลังจากฟังคุณ แมน ปกรณ์ และคุณไผ่ ดาวดิน Pai Jatupat (และปฏิกิริยาผู้ฟัง) พูดที่ มธ อันที่จริง รวมไปถึงบางส่วนที่คุณ "อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ" กับคุณ บ.ก.ลายจุด สมบัติ บุญงามอนงค์ กำลังพูดอยู่นาทีนี้ด้วย (และปฏิกิริยาผู้ฟัง)* - กรณีคุณ "อี้" มีประเด็นอื่นที่สำคัญ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องสถาบันฯที่ผมจะหาโอกาสพูดถึงต่างหาก
*[กระทู้นี้ เขียนเสร็จ ขณะที่การอภิปรายของคุณ "อี้ แทนคุณ" เพิ่งเริ่ม ปรากฏว่า ตอนหลัง เกิดความ "วุ่ยวาย" จนต้องยุติไปกระทันหัน - อันที่จริง สิ่งที่เกิดขึ้น ทั้่งสิ่งที่ "อี้" พูด และ "ปฏิกิริยา" ของผู้ฟัง ส่วนสำคัญมากเป็นปัญหาเดียวกับที่ผมพูดถึงนี้เลย เรียกว่าเขียนไว้ล่วงหน้าก่อนจะเกิด "ความวุ่นวาย" ซึ่งสะท้อน-ยืนยันปัญหานี้ให้เห็นชัดๆ]
ความจริง นี่เป็นประเด็นที่เมื่อสักเดือน-สองเดือนก่อน ผมเขียนในทวิตเตอร์ แต่ไม่ได้เขียนที่เฟซบุ๊ค (ปกติ ผมเขียนเฟซบุ๊คเป็นหลัก ทวิตลิงค์ให้มาอ่านที่นี่ แต่ตอนนั้น ผมเขียนทวิตโดยตรงเลย และไม่ได้ลิงค์กับเฟซบุ๊ค)
ผมคิดว่า ทุกวันนี้ ที่การเมือง โดยเฉพาะในระดับประชาชนทั่วไปทั้งสองฝั่ง มัน "ติกแหง็ก" อยู่กับที่ คือ กองเชียร์ทั้งสองฝ่าย พร้อมจะพูดถึงความผิด "ของอีกฝ่ายหนึ่ง" และจะมีปัญหามากๆกับการที่ "อีกฝ่ายหนึ่ง" ("พวกมรึง") ไม่เคยยอมรับ "ความผิด" ของตน (ในปริบทเช่นนี้ ผมเห็นด้วยอยู่ที่คุณ "แมน" และคุณ "ไผ่" มา "ขอโทษ" ถึงความผิดในอดีต - ปัญหาคือ ผมคิดว่า #ในปริบทหลังจากวิกฤติสิบปีณวันนี้ นี่เป็นอะไรที่ "ไม่พอ" แล้ว ถ้าไม่พูดถึงปัญหาที่กำลังพูดนี้)
ผมเคยเขียนๆไปอยู่เหมือนกัน ขอเขียนอีกครั้งว่า จนทุกวันนี้ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-และส่วนใหญ่ที่สุดของกองเชียร์ ("เสื้อแดง") ก็ไม่เคยยอมรับว่า พรบ.เหมาเข่งผิด ไม่เคย "ขอโทษ" ในความผิดนี้ สองปีเศษมานี้ ผมเจอ "เซเลป" ชื่อดังฝ่ายเสื้อแดงนับสิบคน ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะยอมรับว่าเหมาเข่งผิด ไม่มีเลยจริงๆ แม้แต่คนที่ยังพูดดังๆทุกวัน (ผ่านคลิปใต้ดินบ้าง อะไรบ้าง) ว่า ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
แน่นอน พันธมิตร กปปส กองเชียร์ รปห ก็ไม่เคยยอมรับว่า รปห ผิด ฯลฯ แต่พวกนี้ ไม่มีปัญหาอย่างหนึ่งที่ฝ่ายเสื้อแดงที่ผมพูดมี คือพวกนี้ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยอ้างประชาธิปไตยเป็นหลัก นั่นคือพวกนี้ ไม่มีปัญหาเรื่อง "ความคงเส้นคงวา"
เรื่องนี้มันขยายไปได้อีกหลายประเด็น การชุมนุมพันธมิตร การปิดเมืองของ กปปส ไปถึงปัญหาเรื่องการใช้อาวุธในหมู่เสื้อแดง
และสำหรับกรณีฝั่งทีสนับสนุนการเลือกตั้ง (ซึ่งกว้างกว่า "เสื้อแดง" - ผมกำลังนึกไปถึง "ดาวดิน" และกลุ่มอย่าง NDM ฯลฯ) ปัญหานี้ มันจะโยงกับประเด็นสำหรับอนาคตด้วยว่า "การเลือกตั้ง" ทีเชียร์หรือดีเฟนด์นั้น จะแก้ปัญหาการเลือกตั้งแบบที่เกิดขึ้นภายใต้ทักษิณ (และในบางระดับภายใต้ยิ่งลักษณ์ เช่นกรณีเหมาเข่ง) อย่างไร? ซึ่งมีปัญหาแน่นอน ในเรื่องการตรวจสอบ ถ่วงดุลย์ (ที่ไม่ใช่อาศัย "อำนาจนอกระบบ" มาทำ) - สมัยก่อน 19 กันยา นั้น "รัฐบาลทักษิณ" (หรือ "ระบอบทักษิณ" ในคำสมัยนั้น) มีปัญหาเรื่องการรวบอำนาจ (วุฒิ และผ่านวุฒิ ไปที่ควบคุมเสียงในศาล รธน) จริง
ผมคิดว่า การเชียร์เลือกตั้ง โต้กับพวกที่เคยล้มเลือกตั้ง (กปปส พันธมิตร) ในปริบทขณะนี้ มันไม่เพียงพออย่างที่ทำกันอยู่ คือ จะต้องหาทาง"ตอบคำถาม"ในเรื่องภายใต้ระบบเลือกตั้ง จะสร้างมาตรการตรวจสอบ-ถ่วงดุลย์ที่เป็นจริงได้อย่างไร (โดยไม่อาศัยอำนาจทหารและ...)
ซึ่งในประเด็นนี้ ฝ่ายกองเชียร์ทักษิณ-เสื้อแดงส่วนใหญ่ที่สุด ก็ไม่พร้อมจะหาคำตอบเรื่องนี้ (คือขอแต่ให้เลือกตั้งชนะ แล้วทหารและ .. ไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการบริหาร ก็พอแล้ว ไม่ว่ารัฐบาลเลือกตั้งนั้น จะใช้อำนาจอย่างไร โดยไม่มีระบบตรวจสอบ-ถ่วงดุลย์ที่เหมาะสมหรือไม่ ยกไปให้ "สี่ปีเลือกตั้งใหม่" เท่านั้น)
ในความเห็นผม การเมืองไทยจะพ้นสภาวะ "ติดแหง็ก" แบบนี้ได้ #ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อมจะ "ก้าวข้าม" จุดที่ฝ่ายตัวเองส่วนใหญ่ยืนอยู่ #ในขณะนี้

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar