onsdag 8 mars 2023

ใบตองแห้ง: วันนักข่าวตกฐานันดร

2023-03-07 23:04

5 มีนาวันนักข่าว เรามาไกลลิบจากยุคกุหลาบ สายประดิษฐ์, อิศรา อมันตกุล ไม่ได้หมายถึงแค่จริยธรรม อุดมการณ์ ที่ยังมีอยู่รายบุคคล แต่ประเด็นสำคัญคือ ความเป็นสถาบัน ความเป็นฐานันดรที่ 4 กำลังเสื่อมสลาย

นักข่าว ทั้งข่าวหนังสือพิมพ์ ข่าววิทยุโทรทัศน์ ไม้ได้มีอิทธิพลกำหนดประเด็นการเมืองสังคมอีกต่อไป กลายเป็นรายการอย่าง “โหนกระแส” มีอิทธิพลเหนือนักข่าว ต้องตามทำข่าว “โหนกระแส”

เราอยู่ในยุคที่ประชาชนทุกคนเป็นสื่อได้ ซึ่งมีทั้งข้อดีและมุมกลับ เรามีสื่อจำนวนมาก ตั้งแต่นักข่าวมีสังกัด นักข่าวอิสระ ไปจนยูทูบเบอร์ กูรู อินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งบางครั้งมีอิทธิพลเหนือ “สื่อกระแสหลัก” ด้วยซ้ำ

ดูอย่างชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ทีไลฟ์ที คนดูคนตามมากกว่าสำนักข่าวหลัก ท้าชนศาสดาสื่อ ผู้ล้มรัฐบาลเลือกตั้งมาแล้ว

จึงเป็นเรื่องขำๆ พ.ร.บ.จริยธรรมสื่อจะสะเออะเข้าไปควบคุม กูรู อินฟลูฯ แยกสื่อแท้สื่อเทียม จะให้มีองค์กรวิชาชีพดูแลกันเองแบบสมาคมนักข่าวสมัยโบราณ

ปัดโธ่ เอาแค่นักข่าวหลักทุกวันนี้ก็คุมกันไม่ได้ สมาคมนักข่าวมีหลายสาย ข่าวบันเทิง ข่าวกีฬา ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวตำรวจ ข่าวตลาดหุ้น ข่าวพระเครื่อง (มีกูรูพระเครื่องเป็นกูรูตลาดหุ้นด้วย)

จะควบคุมอย่างไรในเมื่อประชาชนทุกคนมีเสรีภาพแสดงความคิดเห็น โดยไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสื่อ วิชาชีพสื่อไม่ต้องมีความสามารถเฉพาะ แบบหมอวิศวะ แค่มีความถนัดทางภาษา รู้และสามารถถ่ายทอดข่าวที่ทำ (เช่นการเมือง, กีฬา) ได้อย่างตรงประเด็น สั้น เข้าใจง่าย บางครั้งต้องให้แบ๊กกราวด์ จากนั้นก็แสดงความเห็น ซึ่งคนอ่านคนดูจะวินิจฉัยเอง มีเหตุผลหรือไม่

โลกยุคออนไลน์ทำสื่อตายเพราะ “แหล่งข่าว” ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ออกมาโพสต์เอง ไม่ต้องรอสื่อถ่ายทอด เช่น โควิด ติดตามอ่านแพทย์สถาบันต่างๆ เพียงแต่บางคนก็ฟอกวัคซีนจีนจนเสียเครดิตเหมือนกัน

สื่อไทย Disrupt ก่อนชาวโลกตั้งแต่สื่อหลักเป็นปากเสียงคนชั้นกลางอนุรักษ์ เชียร์ม็อบพันธมิตรออกบัตรเชิญรัฐประหาร แล้ว 3 นายกสมาคมสื่อได้เป็น สนช.

สื่อกำเนิดมาคู่กับหลักเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย กลับหนุนเผด็จการ แล้วจะเหลือจิตวิญญาณสื่ออย่างไร ระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ หน้าที่สื่อคือ “เลือกข้างเสรีภาพ” เพราะเป็นลมหายใจของวิชาชีพสื่อ

รัฐประหาร 2 ครั้ง ครั้งหลัง 5 ปีมาพร้อมกับโลก Disrupt ที่เขย่าโลกของสื่อกระแสหลักอย่างรุนแรง สื่อถูกปิดกั้นเสรีภาพ ขณะที่ “ประชาชนทุกคนเป็นสื่อได้” เสรีภาพในการสื่อสารเคลื่อนย้ายไปอยู่ในโลกออนไลน์

ไม่ใช่แค่นั้น โฆษณาซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ การค้าขาย การตลาด ก็เคลื่อนย้ายไปอยู่ในโลกออนไลน์ สื่อหนังสือพิมพ์ตาย กลายเป็นฉบับออนไลน์ ซึ่งทำลายอิทธิพลของสื่อในการกำหนดประเด็นทางการเมืองสังคม

คนนอกวงการอาจไม่เข้าใจ แต่ถ้าชี้ให้ดูหน้าหนังสือพิมพ์จะเห็น 5-6 ข่าว ตั้งแต่ข่าวใหญ่ถึงข่าวเล็ก นั่นมาจากการกำหนดโดยหัวหน้าข่าว บรรณาธิการ ซึ่งวิชาชีพสื่อมวลชนโดยเฉพาะสื่อหัวขาวดำ จะเน้นประเด็นสำคัญ เรื่องที่เป็นหลักการ ที่ส่งผลสะเทือนทางการเมืองสังคม ที่อาจไม่ใช่ “ข่าวขาย” หรือข่าวที่คนสนใจเสมอไป

แต่ทุกวันนี้ไม่มีแล้ว เพราะข่าวออนไลน์แข่งกันที่ยอดวิว ข่าวดารา ข่าวดราม่า ข่าวผัวเมีย มีคนอ่านมากกว่าฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ

พูดจริงๆ นี่เป็นดาบสองคม สื่อกำหนดประเด็นแล้วพาลงเหวหนุนรัฐประหาร แต่พอกำหนดด้วยยอดวิวมันก็กลายเป็นสื่อขายข่าวคลิกเบต โดยไม่ต้องสนใจด้วยว่า สื่อสำนักนั้นสร้างสมเครดิตความน่าเชื่อถือมายาวนานเพียงไร สำนักข่าวตั้งใหม่ ที่พาดหัวหวือหวาโดยไม่รับผิดชอบ สามารถเรียกคลิกเบตมากกว่าไทยรัฐมติชนได้ง่ายๆ

ขณะที่การกลั่นกรอง สมัยก่อนจากนักข่าวถึงรีไรเตอร์ หัวหน้าข่าว กว่าจะลงตีพิมพ์ ผ่านความรับผิดชอบหลายชั้น ทุกวันนี้พรึ่บเดียว DNA เด็กหายกระจายไปทั่ว ฆ่าคนทั้งเป็น ขายสังคมจิตทรามเหยียดประณามแม่วัยรุ่น สะใจคนดีย์

เราอยู่ในดาบสองคม การที่สื่อหมดอิทธิพลชี้นำ ประชาชนทุกคนเป็นสื่อได้ เป็นเรื่องดี ต้องต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ไม่ให้รัฐใช้อำนาจปิดกั้น ซึ่งทุกวันนี้ก็ใช้อยู่ ทั้งรัฐทั้งทุน ใช้การฟ้องปิดปาก ใช้กฎหมายหมิ่นประมาทไปจน 112,116 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

แต่โลกออนไลน์ ในยุคอัลกอริธึม ปิดกั้นการมองเห็น เห็นเฉพาะสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น ก็เป็นอันตรายอีกด้าน ทั้งการปลุกความเกลียดชังทางการเมือง ตั้งแต่พวก QAnon คลั่งทรัมป์ มาถึงสื่อดันทุรังคลั่งตู่ สังคมออนไลน์ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นที่ซ่องสุมของพวก Conspiracy ด้านต่างๆ เช่นสาวก UFO หรือพวกที่เชื่อว่าไซออนนิสต์กำหนดทุกอย่างในโลกนี้

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เลือกตั้งฟิลิปปินส์ ลูกมาร์กอสกลับมาชนะ พลิกภาพพ่อตัวเองในโลกโซเชี่ยลจากเผด็จการเป็นผู้สร้างความเจริญรุ่งเรือง

ในทางตรงข้าม ผู้นำพรรคกรีนซึ่งเป็นสตรี ก็โดน IO รัสเซียโจมตีด้วยเฟกนิวส์ ทำภาพเปลือยตัดต่อแล้วหาว่าเธอเคยเป็น Sex Worker จนคะแนนตกเป็นที่สาม

ครบรอบปี รัสเซียบุกยูเครน คนไทยยังแยกข้าง สนับสนุน Conspiracy รัสเซียจำเป็นต้องป้องกันตัวเองด้วยการรุกรานเข่นฆ่าข่มขืน แต่นั่นยังไม่เท่าครบรอบปีแตงโมตกน้ำตาย คนไทยสนใจมากกว่าภัยสงครามนิวเคลียร์

นั่นคืออิทธิพลของฐานันดรที่ 4 ในวันนี้ สื่อกระแสหลักคุมกระแสสื่อไม่ได้อีกต่อไป

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7541916

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar