ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางไปยังนครเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จากนั้นระหว่างวันที่ 14-15 เมษายน จะเดินทางไปเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ด้านหลักของการเดินทางมายัง 2 ประเทศนี้ คือ การเดินทางมาทำบุญเนื่องในเทศกาลสงกรานต์

พลันที่ นายกษิต ภิรมย์ ตั้งคำถามต่อ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ต่อกัมพูชา ต่อกรณีการเดินทางไปในงานสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  เรื่องของงานบุญก็เริ่มมีสีสันทางการเมือง  รายละเอียดก็คือ ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางไปยังนครเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  จากนั้นระหว่างวันที่ 14-15 เมษายน จะเดินทางไปเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา  ด้านหลักของการเดินทางมายัง 2 ประเทศนี้ คือ การเดินทางมาทำบุญเนื่องในเทศกาลสงกรานต์  แต่ที่ทำให้งานบุญมากด้วยสีสันก็คือ การประกาศเดินทางเข้าร่วมของกลุ่มคนเสื้อแดง ประสานกับคำเชิญชวนจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เอง ตรงนี้แหละที่เป็น การเมือง   ที่เป็นการเมือง 1 เพราะว่าเป้าหมายหลักของงานเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกโค่นจากกระบวนการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549  1 เพราะว่าพรรคเพื่อไทยเปิดไฟเขียวให้ส.ส.พรรคเดินทางเข้าร่วม  มิใช่ว่า ส.ส.ธรรมดาอย่าง นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะมีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการตระเตรียมงาน หากแม้กระทั่ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็มีชื่อปรากฏในงานรดน้ำดำหัวที่นครเวียงจันทน์ ยิ่งกว่านั้น 1 หากศึกษารายละเอียดจากแผนงานที่สนามวัฒนธรรมเมืองเสียมเรียบ กัมพูชา ไม่เพียงแต่จะมีการแสดงทางวัฒนธรรมระหว่างกัมพูชา-ไทย อย่างที่เรียกว่าคอนเสิร์ต หากแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังจะสวมเสื้อแดงขึ้นเวทีปราศรัยอีกด้วย  นี่จึงยิ่งกว่าโฟนอิน ยิ่งกว่าการวีดิทัศน์   ประเด็นอยู่ที่ว่า ทางการของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทางการของกัมพูชา มองและประเมินเรื่องนี้อย่างไร  หากมองแบบ นายกษิต ภิรมย์ ก็เป็นเรื่องการเมืองแหงๆ  กระนั้น หากมองผ่านความสัมพันธ์ 2 ส่วนระหว่าง 1 รัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว    รัฐบาลกัมพูชา  นี่เป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศไทยไม่น่าจะประท้วง  ยิ่งหากมองผ่านความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผู้นำกัมพูชา กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  ยิ่งเห็นแต่ด้านอันสันถวมิตรสนิทสนมเป็นอย่างสูง   การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่งในทางการเมืองวัฒนธรรม  เพราะสายสัมพันธ์อันเป็นมิตรระหว่างไทยกับลาว เพราะสายสัมพันธ์อันเป็นมิตรระหว่างไทยกับกัมพูชา ในยุคที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เรื่องนี้ยากจะเกิดขึ้นได้ในยุคที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek16VTFOVEF4T1E9PQ==&sectionid=