måndag 23 april 2012

สุนัย จุลพงศธร:กรณีศึกษาปทุมธานีโชคดีที่แพ้ก่อน



โดย สส.ดร.สุนัย จุลพงศธร
ภาพการ์ตูนประกอบ อรุณ วัชระสวัสดิ์ จากมติชนรายวัน

         
การแพ้การเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส.และนายกฯอบจ.ที่สังกัดพรรคเพื่อไทยในจังหวัดปทุมธานีเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่จะยกระดับการเรียนรู้ถึงพัฒนาการทางการเมืองไทยของ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย 

และ ยกระดับการเรียนรู้ของขบวนการคนเสื้อแดงว่าการเมืองไทยได้เกิดการเปลี่ยน แปลงแล้ว และการเมืองไทยได้เข้าสู่กระบวนการแห่งเนื้อหาของประชาธิปไตยแล้วที่จะต้อง เอาประชาชนเป็นที่ตั้งและจะต้องนับถือประชาชนเป็นพระเจ้าที่เดินดินแทนพระ เจ้าที่อยู่บนฟ้า 

ผมจึงขอนำเหตุการณ์นี้เป็นกรณีศึกษา (Case Study) และขอบอกกับเพื่อนๆว่า เป็นเรื่องโชคดีที่แพ้ก่อนและสิ่งนี้คือความล้ำเลิศของระบอบประชาธิปไตยโดยมีข้อสังเกตดังนี้

1.ต้องยอมรับการตัดสินใจของพี่น้องปทุมธานี

ก่อน อื่นต้องยอมรับการตัดสินใจของพี่น้องชาวปทุมธานีก่อนว่าเขาพึงพอใจเช่นนั้น อย่าใช้ทัศนะของพรรคประชาธิปัตย์ หรือทัศนะพวกอำมาตย์ที่ไม่เคารพประชาชน 

จะ เห็นได้ว่าหากทุกครั้งที่พวกเขาแพ้เลือกตั้ง พวกเขาจะบอกว่าพรรคฝ่ายตรงข้ามที่ชนะเกิดจากการซื้อเสียงแล้วนำไปสู่การให้ ร้ายระบอบประชาธิปไตยทุกครั้งว่าเป็นธุรกิจการเมือง และจบลงที่รัฐประหารยึดอำนาจแล้วเริ่มต้นใหม่

การ ยอมรับนี้มิใช่เป็นการเสแสร้งแต่เป็นการยอมรับด้วยความจริงใจและน้อมรับผล การตัดสินใจมาศึกษาเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขการดำเนินการของพรรคและของขบวนการ คนเสื้อแดง       
2.ใช้ท่าทีศึกษาที่ถนอมรักกันในหมู่มิตรสหาย

เมื่อเกิดความพ่ายแพ้ก็เป็นธรรมชาติของปุถุชนที่จะเสียใจ ดังนั้น จึงเกิดภาวการณ์ทางความคิดสุดโต่ง 2 ด้านคือ 

พวกหนึ่งจะเกิดความเสียใจอย่างรุนแรงเลยเถิดไปถึงเกิดความหดหู่ใจแล้วตัดสินใจละทิ้งขบวนการจนเลิกที่จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป รวมถึงไปปลุกปั่นคนใกล้ชิดให้หดหู่ใจและละทิ้งแนวทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วย 

ส่วนอีกพวกหนึ่งจะเกิดความโกรธแค้นพวกเดียวกัน แล้วด่าทออย่างไม่ถนอมน้ำใจโดยขาดการศึกษาข้อมูลว่าอะไรเป็นอะไรอย่างมีเหตุผล

แต่อย่างไรก็ตามต้องถือว่า มวลชนด่าว่าเพราะมวลชนรัก

เมื่อรักมากห่วงมากจึงด่ามาก ส.ส.เพื่อไทยก็ต้องน้อมรับฟังก็คิดเสียว่าในเมื่อประชาธิปัตย์ด่าว่าในสภายังอดทนนั่งฟังได้ เมื่อมวลชนด่าว่าด้วยความรักก็ต้องทนฟังได้

ปกติผมไม่ชอบที่จะรับรองใคร แต่ในที่นี้ผมขอยืนยันว่าคุณสุเมธ ฤทธาคนี  เป็นส.ส.ที่ดีและมีความคิดกล้าต่อสู้คนหนึ่งในพรรคเพื่อไทย ที่ได้เคยแสดงบทบาทร่วมกับคนเสื้อแดงต่อต้านการบุกยึดสถานีถ่ายทอดดาวเทียม ของอำนาจเผด็จการทหารในรัฐบาลอภิสิทธิ์ สุเทพ 

เพียง แต่เป็นการก้าวพลาดครั้งสำคัญต่อการประเมินมวลชนและไม่ยอมรับฟังการทัดทาน ของผู้นำพรรคฯที่ห้ามไม่ให้ลาออกและผลจากการตัดสินใจผิดพลาดของคุณสุเมธนี้ เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง และจะเป็นผลร้ายต่อตัวคุณสุเมธอย่างรุนแรง ซึ่งถือเป็นบทลงโทษจากการประเมินมวลชนผิดพลาด

ประชาชนเปรียบดุจดังท้องทะเลหากชาวประมงผู้ใดประเมินทะเลผิดก็อาจจะสูญเสียชีวิตในพายุใหญ่ท่ามกลางความเงียบสงบของท้องทะเล

3.นักการเมืองต้องเห็นหัว(ใจ)มวลชน

คำว่าเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางกินความลึกซึ่งมาก ถ้าจะพูดอย่างภาษาชาวบ้านคือ ต้องเห็นหัว (ใจ) มวลชน

เมื่อชนะเลือกตั้งยกเขตจังหวัดปทุมธานีในการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมาอย่าได้คิดว่า มวลชนเป็นของเราความคิดเช่นนี้เป็นความคิดที่ผิดเพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของมวลชน มีแต่ความถูกต้องเป็นเจ้าของมวลชน มีแต่นโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อมวลชนเท่านั้นที่จะเป็นเจ้าของมวลชน

มวลชนเป็นผู้มีเหตุผล และเหตุผลของมวลชนมีภาวะผันแปรตลอดเวลา

มวล ชนจึงไม่ต่างจากพระเจ้าตัวจริงที่เดินดินและใครที่อ้างว่าเป็นเจ้าของมวลชน และทำอะไรตามใจตัวเองโดยปล่อยให้มวลชนอดอยากและหลอกลวงมวลชนไปวันๆ วันหนึ่งเขาจะรู้ความจริงดังคำกล่าวข้างต้นว่ามวลชนคือพระเจ้าและไม่มีใคร เป็นเจ้าของพระเจ้าได้นอกจากตัวพระเจ้าเอง

คำถามที่คุณสุเมธผู้ที่ลาออกจาก ส.ส.ไปสมัครนายกฯอบจ.แก้ไม่ตกคือ พวกผมเลือกคุณมาแล้วคุณลาออกทำไม ?

นักการเมืองทั้งหลายต้องรู้ว่าธรรมชาติแห่งมวลชนในระบอบประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งซ่อม ทุกครั้งโดยปกติรัฐบาลเสียงข้างมากจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะทัศนะคติของมวลชนคนเมือง(Voter) ที่มิได้ตกอยู่ใต้อิทธิพลพึ่งพิงส.ส.และลัทธิบูชาตัวบุคคล จะมีความเห็นเป็นปกติว่า ก็รัฐบาลมีเสียงข้างมากแล้วทำไมพวกเขาจะต้องไปเพิ่มเสียงให้อีก ดังนั้น แนวโน้มของการเลือกตั้งซ่อมประชาชนมักจะเลือก ส.ส.ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเพื่อถ่วงดุล ยิ่งเป็นการลาออกด้วยจงใจเพื่อไปสมัครนายกฯอบจ.ที่คนทั่วไปเข้าใจว่ามีผล ประโยชน์การถือเงินบริหารมากกว่าจึงเป็นเรื่องที่ถูกเหตุผลในทางร้ายถมทับ อย่างแก้ไม่ตก

ลักษณะตัดสินใจเอาผลประโยชน์เฉพาะหน้าเป็นตัวตั้งและหลงตัวเองว่า ประชาชนนิยมฉัน!” เป็นภาวะทั่วไปของส.ส.ไทยไม่ว่าพรรคไหนเพราะกรอบความคิดของส.ส.ไทยมักจะมองมวลชนเป็นเพียงพรรคพวกของหัวคะแนนที่ตนสามารถควบคุมได้

เพื่อนส.ส.เพื่อไทยอีกหลายคนขอให้เปลี่ยนทัศนะเสียเถิดอย่ามองข้ามเหตุผลของพระเจ้าผู้เดินดินเลย

เพื่อน เสื้อแดงทั้งหลายขอให้ทราบเถิดครับว่าผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยเขาห้ามแล้วและ ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยที่ผมรู้มาเขาเหนื่อยกับส.ส.ผู้ดื้อรั้นอย่างไร้ เหตุผลทางการเมือง แต่เขาพูดไม่ออกและขณะนี้ท่านจะเห็นความดื้อรั้นและภาวะสายตาสั้นของนักการ เมืองผู้หลงตัวเองในการเลือกตั้งนายกฯอบจ.อีกหลายจังหวัดที่กำลังเกิดขึ้น

ด้วยเหตุนี้ การพ่ายแพ้ที่ปทุมธานีจึงเป็นเรื่องโชคดีที่แพ้ก่อนเพราะมีเหตุผลมากขึ้นที่ผู้ใหญ่ในพรรคจะต้องเร่งยกเครื่อง ระบบ Primary Vote หรือการประเมินส.ส.ที่จะลงเลือกตั้งครั้งต่อไปได้เร็วขึ้น และเป็นจริงมากขึ้น และนี้คือการพัฒนาประชาธิปไตยที่มีตัวชี้วัดคือ มวลชนของจริงจะต้องเกิดขึ้นอย่างน้อยที่สุดเหตุการณ์ที่ปทุมจะเป็นประโยชน์ต่อทุกพรรคการเมืองและนักการเมืองทุกคนที่จะต้องรู้จัก เห็นหัวประชาชนกันบ้าง

4.ขอให้เข้าใจความเป็นจริงเรื่องน้ำท่วมน้ำขังรอบกรุงเทพฯที่ยาวนาน

การ โจมตีส.ส.ปทุมธานีของพรรคเพื่อไทยที่ปล่อยให้น้ำท่วมขังรอบกรุงเทพฯยาวนาน และนำความเจ็บปวดโกรธแค้นมาสู่มวลชนนั้นเป็นข้อวิจารณ์กันอย่างมากของพี่ น้องเสื้อแดงที่ต้องแยกแยะ 

กล่าวคือ ส่วนหนึ่ง เกิดจากความไม่รู้โดยสุจริตใจของพี่น้องเสื้อแดง 

อีกส่วนหนึ่ง เป็นคำวิจารณ์ให้ร้ายของศัตรูที่ฉวยโอกาสแอบแฝงเป็นคนเสื้อแดงทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดจากอะไร

ในที่นี้ผมไม่ได้แก้ตัวแต่ต้นเหตุเป็นเรื่องที่ แม้ตายก็บอกไม่ได้แต่ทุกคนต้องรับเคราะห์

ผมขอตั้งข้อสังเกตหน่อยเถิดว่า ทำไมน้ำท่วมเอ่อล้น 2 ฝั่งเจ้าพระยาตั้งแต่นครสวรรค์ ถึง ปทุมธานี แต่ทำไมไม่เอ่อล้นท่วม 2 ฝั่งเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร?

ด้วยเหตุนี้ เมื่อพระแม่คงคาไม่อาจจะผ่านเข้ากรุงเทพฯได้ท่านจึงต้องทะลักเข้าสู่ที่ดอนแม้แต่ ดอนเมืองซึ่งไม่เคยมีน้ำท่วมก็ยังไม่เว้น

ความผิดปกติทางธรรมชาตินี้ถ้าไปถามหม่อมบางท่านก็น่าจะรู้ความจริง
บทสรุป

ได้เวลายกระดับความคิดครั้งใหญ่ของส.ส.และคนเสื้อแดงแล้ว

จงใช้วิกฤติเป็นโอกาส ใช้กรณีพ่ายแพ้ที่ปทุมธานีเป็นกรณีศึกษาภายใต้คำขวัญว่า โชคดีที่แพ้ก่อนเพื่อจะสืบต่อชัยชนะต่อไปและสะสมชัยชนะให้เติบใหญ่ขึ้น

(1) ความเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทย

ฝ่าย บริหารพรรคฯต้องเร่งแก่ไขทัศนะดื้อรั้นที่ผิดพลาดของส.ส.พรรคฯที่เอาผล ประโยชน์เฉพาะตนกล่าวแอบอ้างว่าเป็นประโยชน์ของพรรคฯและส.ส.พรรคฯที่ชอบแต่ แสวงหาผลประโยชน์เฉพาะหน้าโดยกล่าวแอบอ้างว่าเป็นผลประโยชน์ระยะยาวด้วยใช้ มติลงโทษส.ส.ผู้ไม่ฟังการตัดสินใจของกรรมการบริหาร

(2) ความเร่งด่วนของขบวนคนเสื้อแดง

ต้อง เร่งยกระดับการเรียนรู้ของประชาชนคนเสื้อแดงที่มีความจริงใจต่อการต่อสู้ แต่ขาดประสบการณ์ทางการเมืองโดยขอให้ นปช. ที่มีภารกิจทางประวัติศาสตร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ขณะนี้ปรับขบวนการการ แสดงออกบนเวทีที่ต้องเน้นเนื้อหาความคิดและการเรียนรู้ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีมากขึ้น และขอให้แกนนำ 

นปช.บาง คนอย่าได้ผูกขาดว่าเสื้อแดงคือหัวคะแนนผู้อยู่ในโอวาทของตัวเองที่จะแสดง อะไรก็ได้บนเวที รวมถึงแสดงความคับแคบที่กีดกันแนวร่วมที่ไม่ใกล้ชิดตัวเองและการไร้วินัยที่ กินเหล้าเมาก่อนขึ้นปราศรัยต่อหน้ามวลชน อันเป็นการไม่เคารพมวลชนอย่างยิ่ง เพราะการชุมนุมมวลชนแต่ละครั้งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งในช่วงรอยต่อระหว่างระบอบอำมาตย์กับประชาธิปไตยที่กำลังต่อสู้ขับเคี่ยว กันอยู่ในขณะนี้

ในรายละเอียดยังมีอีกมาก ขอให้ถนอมรักกันอภัยกันและช่วยกันคิดแก้ไข ยังไม่สายเกินไปหรอกครับ

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar