ในช่วงก่อนสงกรานต์และช่วงสงกรานต์นี้ "สังคมไทย" มีงานใหญ่สองงานนะครับ
เป็นงานระดับชาติก็ว่าได้ งานหนึ่งนั้นจบไปแล้ว ผมคงไม่ต้องพูดว่างานอะไร
เป็นงานยิ่งใหญ่ แต่จำนวนคนไทยที่เข้าร่วมด้วยหัวใจและศรัทธานั้น
ผมว่ามีไม่ค่อยมากนัก ไม่เหมือนในอดีต
แต่อีกงานหนึ่งที่กำลังจัดกันที่ต่างประเทศนี้คือ "งานรดน้ำดำหัวทักษิณ
ชินวัตร" ที่เมืองเสียมราฐประเทศกัมพูชานั้น ประชาชนจำนวนมากกำลังดิ้นรน
ทุรนทุรายทุกวิถีทางที่จะไปให้ได้ ไม่ต้องเกณฑ์
ไม่ต้องโปรประกันดาผ่านโทรทัศน์ร่วมฯ เท่าที่ทราบคนที่ไปน่าจะมีจำนวนมาก
เพราะได้ข่าวว่ากัมพูชาเตรียมทหารตำรวจ กวา 7,500 นาย
เพื่อคอยอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
ดังนั้น ในสายตาของผมแล้ว นี่คืองานที่วัดบารมี
ความยิ่งใหญ่ในสังคมไทยของทั้งสอง "ก๊ก" คือ ก๊กเสื้อเหลือง กับ
ก๊กเสื้อแดงอย่างแท้จริง
พิสูจน์กันจะ ๆ ว่าใครมีบารมีมากกว่าใครอย่างแท้จริง ต่อหัวใจของประชาชนในวันนี้
ใครจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ ไม่ได้ตั้งใจจะเทียบบารมีระหว่างก๊กก็ตาม แต่นัยยะมันก็เป็นการเปรียบเทียบกันโดยปริยายไปแล้ว
นักธุรกิจ นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง
ใครจะเลือกอยู่ข้างไหนก็ตัดสินใจให้ชัดเจนนะครับ
เพราะสงครามครั้งนี้ในที่สุดมันก็ต้องจบลงจนได้
เป็นการเลือกว่าจะเอาอุดมการณ์อำมาตย์ หรือ อุดมการณ์ประชาธิปไตย
เลือกผิดพวกท่านก็อยู่ข้างที่อับเฉาและแพ้แน่นอน
ผมย้ำนะครับว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม "ประเทศไทยต้องมีเลือกตั้ง"
ระบบการเมืองไทยไม่ว่าคุณจะทำรัฐประหาร หรือตุลาการวิบัติหรืออะไรก็ตาม
คุณก็ไม่มีทางหนีการเลือกตั้งไปพ้น และวันนี้ประชาชนเลือกเป็นกลุ่มก้อน
เลือกเชิงยุทธศาสตร์ เสียงไม่แตก ดังนั้น ใครกุมหัวใจประชาชน
คนนั้นชนะในเกมในที่สุด
เหมือน 5 ปีที่ผ่านมา คนที่กุมทหาร กุมตุลาการวิบัติ มองประชาชนไม่เห็นในสายตาก็แพ้ในที่สุด
ใครที่เคยประกาศศักดาว่า "พร้อมที่จะให้ประเทศไทยเป็นแบบพม่า"
วันนี้พม่าก็เป็นประชาธิปไตยแล้วนะครับ หนีการเลือกตั้งมา 50 ปี ในที่สุด ก็ต้องเลือกตั้ง
และแพ้การเลือกตั้งในที่สุดจนได้ เราคาดการได้
เมืองไทยจะปิดประเทศ 50 ปี อย่างนั้นหรือ ?
เกมมันจบไปตั้งแต่ 3 กรกฎาคม 2554 ที่ชาวโลกเขารู้เต็มตาแล้วว่าชาวบ้านเลือกใคร
งานที่เสียมราฐ ย้ำอีกครั้งอย่างชัดเจนว่า "ชาวบ้าน" เขาเลือกใคร
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar