lördag 14 april 2012

ชมคลืปนายกทักษิณรำวงที่เขมรพร้อมหลั่งนํ้าตาปราศรัยขอบคุณพี่น้องชาวเสื้อแดง

 
ทักษิณหลั่งน้ำตาปราศรัยที่เขมรด้วยความแค้นที่ถูกกีดกัน กลั่นแกล้งจากหัวหน้าเผด็จการไทย และพวกลูกสมุนรับใช้ที่ได้กีดกันไม่ให้กลับประเทศ  ต่างกันกับที่ทักษิณอยู่ในแผ่นดินประเทศเพื่อนบ้าน ที่ให้การต้อนรับอย่างดีเสมือนญาติมิตรเหมือนพี่น้องร่วมชาติ  ทักษิณได้ระบายความแค้นออกมาจากเบื้องลึกของหัวใจ และได้สัญญากับพี่น้องประชาชนไทยที่ไปร่วมเล่นสงกรานต์  ฟังคำปราศรัยอย่างล้นหลามที่เสียมเรียบ ว่ายังเป็นหนี้บุญคุณประชาชนชาวไทยอยู่  จะกลับมาทำงานรับใช้ทดแทนบุญคุณประเทศชาติและพี่น้องชาวไทยในเร็ววันนี้ทำให้ประชาชนชาวเสื้อแดงทั้งหลายที่ไปร่วมชุมนุมเปล่งเสียงโห่ร้องดีอกดีใจอย่างสุดซึ้ง

ในทางประวัติศาสตร์ประเทศที่อยู่สองฝั่งโขงอันมี ไทย ลาว และเขมร เป็นประเทศบ้านพี่เมืองน้องกันมาแต่โบราณ คนไทยในภาคอิสาน มี ประเพณี  วัฒนธรรมเหมือนกันกับคนลาวที่เวียงจันทร์  ภาษาพูดก็เหมือนกันเข้าใจกันได้ อาหารการกินขนบธรรมเนียมประเพณีก็เหมือนกัน มีแม่น้ำโขงเชื่อมสายสัมพันธ์ของประเทศทั้งสองระหว่างไทยลาว  สำหรับประเทศเขมรก็เป็นแผ่นดินผืนเดียวกันกับไทยไม่มีอะไรขวางกั้น แต่พวกชนชั้นปกครองไทยในระบอบศักดินาก็มีนโยบายรุกรานประเทศเพื่อนบ้านพยายามขยายอาณาเขตทำศึกสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่ตลอดมา  ในสมัยรัชกาลที่ ๑ เมื่อนายทองด้วงได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ก็ได้ทำศึกสงครามกับประเทศลาวจับคนลาวมาตัดหัวทิ้งลงแม่น้ำโขง ได้เผานครเวียงจันทร์ทิ้งแล้วกวาดต้อนเอาคนลาวเข้ามาเป็นข้าทาสอยู่สยาม แม้กระทั่งพระแก้วมรกตซึ่งเป็นสมบัติของชาวลาวก็ได้นำมาไว้ที่ประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้  มาถึงสมัยของกษัตริย์ภูมิพล ก็ยอมให้อเมริกาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพทำสงครามในเวียตนาม ลาวและเขมร ภายใต้การนำของ   สฤษดิ์  ถนอม –ประภาส  มาถึงรัฐบาลเปรมก็ได้มีการส่งทหารไปรุกรานชายแดนประเทศลาว   รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ได้ส่งกองกำลังทหารเข้าไปรุกรานซายแดนประเทศเขมรกรณีเขาพระวิหาร

พอมาถึงรัฐบาลของประชาชนที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นนายก นโยบายสันติภาพกับประเทศเพื่อนบ้านจึงเกิดขึ้น ภายใต้การนำของทักษิณ ทำให้สามประเทศ ลาว ไทย และเขมร กลับคืนสู่มิตรภาพไมตรีจิต ฉันบ้านพี่เมืองน้อง ร่วมมือกันในด้านขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม  การค้า การท่องเทียว การลงทุน เสมือนญาติมิตรอันสนิทอย่างไม่เคยมีมาก่อนในยุคของเผด็จการศักดินา

วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๕ จึงถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของทั้งสามประเทศ  ที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีไทย ทักษิณ ชินวัตร ไปฉลองวันสงกรานต์ร่วมร้องเพลงรำวงอย่างสนุกสนาน และกล่าวคำปราศรัยกับพี่น้องชาวเสื้อแดงทีไปฟังอย่างล้นหลามทีเสียมเรียบในประเทศเขมร อย่างสง่าผ่าเผยโดยการร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านและจากรัฐบาลของทั้งสองประเทศ เขมร ลาว  ... ( รายละเอียดจากคำปราศรัยโปรดฟังได้จากลิงค์ข้างล่าง ...)



http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=atvlBRBLZPk

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar