เดาใจยาก
ท่านทักษิณคิดอะไรอยู่ จึงเปิดเกมรดน้ำดำหัวขึ้นในต่างแดน
เสมือนว่าจะแสดงแสนยานุภาพให้ประจักษ์ทั้งสายตาคนในประเทศและคนทั้งโลกได้
รับรู้ “ตัวกูนี่แหละเป็นหนึ่งในแผ่นดิน”
แม้ว่าตนเองจะไม่สามารถเข้าประเทศได้
แต่ก็มีความสามารถที่จึงดึงเอาจิตใจของประชาชนส่วนหนึ่งเข้ามาครอบครองเป็น
เจ้าของตนเองได้ และส่วนนั้นมันก็มากกว่าส่วนที่เหลืออีกด้วย
แท้จริงมันมีนัยอะไรกันแน่
ทำไมคนที่ชื่อท่านทักษิณจึงได้ทำเช่นนั้น
ทั้งที่ในทางลับได้แอบตกลงกันไว้แล้ว ว่าจะตอบแทนซึ่งกันและกัน
ในข้อตกลงถ้าท่านทักษิณยอมวางมือไม่ยุ่งกับการเมืองอีกและต้องออกมาชี้นำชัก
จูงคนไทยบางส่วนที่คิดไกลเกินไปให้กลับมามีความคิดเหมือนเดิม
เหมือนก่อนที่จะมีการรัฐประหารเมื่อ 19กย.49อีกให้ได้
สองข้อตกลงนี้ ถ้าทำได้ ท่านทักษิณจะได้กลับมาบ้านแน่นอน
นี่เป็นข้อตกลงด้วยวาจา(ที่อาจมีบางคนแอบอัดเทปเอาไว้)
และมีข้อเสนอแถมมาให้อีกด้วยแน่นอนว่าผลการเลือกตั้งออกมาเป็นอย่างไร
จะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของมัน จะไม่มีการขัดขวางใดใดเกิดขึ้นอีก
สัญญาณบอกเหตุออกมาในทันที นโยบายไกลโพ้นออกมาจากปากท่านทักษิณเอง
ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยหักมุมกันทันทีทันควัน “จะสมานฉันทร์จะปรองดอง”
เอามาเป็นนโยบายหาเสียงกันในทันที
ทั้งที่คะแนนเสียงก็ท่วมท้นกันอยู่แล้วไม่ต้องเสนอแนวทางนี้ก็ไม่มีใครว่า
อะไร ซึ่งออกมาในครั้งนี้ไม่ใช่จะได้ผลดีแต่ตรงข้ามแนวทางนี้มันบั่นทอนกำลังใจคนที่ให้การสนับสนุนท่านเหลือเกิน
ทำให้คะแนนเสียงบางส่วนงดออกเสียงกันไปเลย
(อาจจะไม่มากจนทำให้เปลี่ยนแปลงอะไรได้
แต่มันก็เป็นสัญญาณบอกเหตุออกมาแล้ว)
ซึ่งท่านเองก็รู้ดีก่อนจะพูดออกมาแต่ท่านก็ตัดสินใจที่จะทำ
ซึ่งก็ไม่เกินความคาดหมาย
พรรคการเมืองของท่านทักษิณได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น
ท่านยิ่งลักษณ์ได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ
เหมือนว่าข้อตกลงนั้นสำฤทธิ์ผลแล้ว ท่านประกาศในทันทีหลังทราบผลการเลือกตั้ง ท่านจะกลับบ้านในเดือน ธค.เพื่อมางานแต่งงานของบุตรสาว
ข้อตกลงก็คือข้อตกลง
สัญญานอันที่สองตามมาในทันควันแบบประชาชนตั้งตัวไม่ติด
มือหนึ่งของการปลุกระดมนามขวัญชัย ไพรพนาออกมาประกาศ ”ต่อไปนี้จะล้มหมู่บ้านเสื้อแดง” กระแสร์ต้านออกมาทันทีอีกเหมือนกัน ม้วนเดียวจบ ขวัญชัยจากเทวดากลายเป็นหมาในบัดดล ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มสับสน ท่านทักษิณทำอะไรกันแน่ บางส่วนสุดทนกับพฤติกรรมแบบนี้ ประกาศชัด “กูไม่เอามึงอีกแล้ว” แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับหรือปฏิเสธออกมาจากปากของคนที่ชื่อทักษิณในเรื่องนี้แต่อย่างใด แล้วก็ปล่อยให้มันเลยตามเลยต่อไป
สัญญานอันที่สามตามมาแบบลูกโช่
ท่านรัฐมนตรีฉะ-เหลิมประสานเสียงกับท่านรัฐมนตรีนาวาอากาศเอกอนุดิส
เล่นงานหัวใจของนักสู้ในโลกไซเบอร์ อันเป็นนักรบหน่วยหน้า
ที่มักจะเอาหัวพุ่งเข้าชนปังตอแบบเสี่ยงตายถวายชีวิตกับคุกตะราง
ก่อนใครเพื่อน
หลายคนโดนมาตรา112เข้าไป หลายคนโดนขึ้นบัญชีดำ หลายคนอยู่ประเทศไทยไม่ได้
ทุกอย่างที่มันเป็นช่องทางอันน้อยนิดที่จะเป็นสื่อออกไปอันที่จะเป็นคุณให้
กับท่านทักษิณเอง มันต้องตีบตันเข้าไปอีก หลายเว็บไซด์ถูกบล็อก
ท่านไม่คิดที่จะพูดอะไร ท่านยอมให้ตัดมือตัดตีนของตนเอง
นิ่งเงียบให้เกมมันดำเนินต่อไป แล้วก็ประกาศก้องให้โลกรู้
“กูนี่แหละจงรักภักดีตัวจริง”
นักสู้หลายคนอ่านเกมขาด รู้แล้วว่าตนเองอยู่ในฐานะอะไร ชีวิตนักสู้มันไม่ปลอดภัยซะแล้วแม้พวกเดียวกันเองก็ไม่เว้น แต่ก็แปลกไม่มีใครถอดใจยังสู้ต่อ เพื่อนก็คือเพื่อน นักสู้ยังวนเวียนไปให้กำลังใจกันเองอยู่ ปลอบใจกันเองทั้งที่ไม่มีใครปลอบใจให้
เมื่อมาถึงตอนนี้ ท่านทักษิณได้ดำเนินนโยบายตามข้อตกลงจนครบถ้วนแล้วมิได้บิดพริ้วแต่ประการใด
แต่..ท่านเองก็ยังไม่ได้กลับบ้านซักที
อภัยโทษก็มิได้รับการตอบสนองลงมาทั้งที่เรื่องนี้ดำเนินไปกว่าสองปี
แล้วจากรายชื่อของประชนที่ยื่นถวายฎีกาไปกว่าสามล้านคน
แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นแผนสองที่ต้องดำเนินต่อ
แต่..มันไม่หมูมันไม่ง่ายเหมือนอย่างใจที่อยากได้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่คนเสื้อแดงที่พร้อมทุกเมื่อจะให้ทุกอย่างกับท่าน
หลายเหตุผลออกมาถกออกมาเถียงกัน
ข้อตกลงข้อแลกเปลี่ยนถูกนำเสนอทั้งทางลับและไม่ลับ ทั้งในสภาฯนอกสภาฯ
ทั้งกลางถนน ทั้งในจอทีวี สรุปกันไม่ได้ซักที
มันต้องมีอะไรแน่นอน ทำไมข้อตกลงถึงโดนขวาง
แล้วแท้จริงมันคืออะไร ท่านทักษิณอยากรู้ใช่ไหม?
ที่อยากรู้เพิ่มไปอีก.. ตกลงประเทศนี้ผู้มีอำนาจแท้จริงมีไหม?หรือ มีมากกว่าหนึ่งคน หรือมั่วกันไปหมดต่างคนต่างคิดต่างคนต่างสั่งโดยไม่ปรึกษากันเลย
หรือว่าข้อตกลงนั้นมันเป็นแค่กลลวง
ข่าวการลอบสังหารตัวท่านจึงเกิดขึ้นในขณะที่ท่านจัดงานสงกราณต์ที่ประเทศลาว
คำๆนี้จึงเกิดขึ้น เพลงๆนี้จึงเกิดขึ้น ที่ประเทศกัมพูชา”Let it be” ซึ่งท่านแปลว่า “ช่างแม่มัน”
แล้วในเนื้อเพลงก็บอกว่า “มันจะเป็นจะตายก็ช่างแม่มัน”
คำถามในเนื้อเพลงมีมากมาย โดยเฉพาะคำว่า “ใครจะเป็นใครจะตาย” คำๆนี้ท่านต้องการสื่อถึงใครกันแน่ !!!!ครับ
เจ็บมากใช่ไหมครับ จึงได้แปลเพลงนี้ออกมาแบบสะใจซะเหลือเกิน
ผมอยากจะบอกว่า
ท่านทักษิณครับ เรามันเลือดสีเดียวกัน ถึงอย่างไรเราก็ไม่ทิ้งกัน
จะขัดใจกันบ้างมันก็แค่ลิ้นกับฟัน ลืมมันไปให้หมดครับท่าน หันกลับมามองคนคือคนแบบพวกเราดีกว่าครับ
ที่ผ่านมาบทเรียนยังไม่พออีกเหรอครับซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ถูกหลอก กลับมายืนด้วยความจริงซะที
จะกลับมาทำไม ครับท่าน โดย อ่างขาง
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar