onsdag 31 juli 2013

.......เลือดย่อมข้นกว่านํ้า ...

 

 
โดย  แสงตะวัน
 
การเปลี่ยนผ่านขึ้นสู่ราชบัลลังก์ของรัชกาลที่๑๐   ระหว่างฟ้าชายและฟ้าหญิง ดูเหมือนจะลงเอยด้วยการตกลงกันได้ระหว่างพี่กับน้อง      เพราะถึงอย่างไรก็เป็นสายเลือดในครอบครัวเดียวกัน     ถ้าไม่มีการวางแผนจากฝ่ายประธานองคมนตรีเปรมกับพวกทหารและอำมาตย์  ที่สนับสนุนเปรม     ที่คิดจะเชิดฟ้าหญิงขึ้นเป็นรัชกาลที่๑๐     แทน
ฟ้าชายซึ่งเป็นมกุฎราชกุมาร     เพื่อเป็นเครื่องมือให้  เปรม  สุรยุทธ์ พร้อมสมุน  และ พรรคประชาธิปัตย์ จะได้ครองอำนาจเสวยสุขสืบต่อไป    แต่เหตูการณ์กลับเปลี่ยนแปลงไม่เป็นไปตามแผนที่่ฝ่ายเปรมคิดไว้   เพราะในช่วงหลังๆนี้ที่เปรมไม่สามารถเข้าเฝ้ากษัตริย์ภูมิพลได้    จนกระทั่งถึงวันที่กษัตริย์ภูพลได้ถูกเคลื่อนย้ายออกจากศิริราช ไปอยู่ที่หัวหิน แสดงให้เห็นว่าเปรมเองและสุรยุทธ์รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ถูกลอยแพจากฝ่ายกษัตริย์และพระบรมฯ     ทำให้เปรมและสุรยุทธ์ไม่สามารถเอากษัตริย์และฟ้าหญิงมาอ้างเป็นเครื่องมือทำการใดๆ  เพื่อใช้แสวงหาอำนาจได้อีกต่อไป    ความหวังที่จะเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์    ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันทะเยอทะยานอันสูงสุดในชีวิตของเฒ่าเปรมก็ยิ่งห่างใกลออกไปทุกที      ดังนั้นความพยายามครั้งสุดท้ายของเปรม สุรยุทธ์ และพรรคประชาธิปัตย์จึงจะทำทุกอย่างเพื่อทำลายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ลงให้ได้    แล้วจะตั้งรัฐบาลของตนเองขึ้นมาเพื่อดำรงระบอบเผด็จการอำมาตย์โบราณสืบต่อไป   เพราะมันเป็นโอกาสเดียวที่เปรมกับสมุนและพรรคประชาธิปัตย์จะมีโอกาสรอดได้     เพราะเปรมก็แก่ชราสมองเลอะเลือนจำคำพูดตัวเองไม่ได้แล้ว ไม่รู้จะทนต่อความเสียดทานต่อไปได้อีกสักกี่นํ้า      คณะองคมนตรีที่ห้อมล้อมเปรมก็มีแต่คนแก่จะเข้าโลงอยู่แล้ว       การที่เปรมให้สมุน(ทหารแก่)ออกมาสร้างความวุ่นวายก่อกวนเพื่อล้มรัฐบาลครั้งนี้จึงเป็นการกระทำเพื่อการเอาตัวรอด ถ้าชนะก็อยู่ได้ถ้าแพ้ก็ตายเท่านั้นเอง...

ฉนั้นพี่น้องประชาชนอย่าออกมาเป็นเครื่องมือให้แก่เปรมและพรรคประชาธิปัตย์

พวกหน้ากากหมาๆมันก็หน้าเดิมๆ...เจออัลกออิดะห์ ของจริง วิ่งจุกตูด บทพิสูจน์ แผนการชั่ว หัวยันหาง หวังล้มรัฐ ซัดให้ล่ม จมอับปาง ฝันเลือนลาง เป็นหมาเหงา เศร้าทั้งปี....


[IMG]

แหม..ช่าง หากินง่าย นะนายจ๋า
แค่ปิดหน้า มาสำออย ถ้อยแถลง
จากหน้ากาก หลากสี ที่เคยแสดง
มาจัดแจง แสร้งตลก ยกเรื่องราว....

สาวกฟาย ขยายความ ตามสคริป
แล้วมุบมิบ หยิบเปลี่ยนจาก หน้ากากขาว
หวังรวบรัด ซัดให้จม ล้มระนาว
เกมอื้อฉาว คราวตกต่ำ ขำทั้งบาง....

เจออัลกออิดะห์ ของจริง วิ่งจุกตูด
บทพิสูจน์ แผนการชั่ว หัวยันหาง
หวังล้มรัฐ ซัดให้ล่ม จมอับปาง
ฝันเลือนลาง เป็นหมาเหงา เศร้าทั้งปี....

พรรคเบื้องหลัง ยังแสนโง่ โชว์อุบาทว์
จินตนาการ มันหวังวาด ชาิติป่นปี้
คนทั้งโลก ร่วมสวดยับ พรรคอัปรีย์
เลวกว่านี้ มันยังทำ ซ้ำเติมไทย....

๓ บลา / ๓๑ ก.ค.๕๖
http://3blabla.blogspot.com

นักปราชญ์ว่าให้นั่งบนภูดูเสือกัดกัน....สงบใจอยู่ในร่ม...รอพระยมล้มพระยา...สร้างจัญไรเพื่อบรรลัย...หวังเป็นใหญ่คนกราบหมา สั่นสะท้านฐานกานดา...หวังกลับมาเป็นเจ้าเมือง กราบแต่หมาข้าไม่รู้...สำนึกกูคือสีเหลือง ระเบิดบ้านระเบิดเมือง...แถมคุยเขื่องเรื่องความดี อ้างฤทธีเยี่ยงนี้เล่า...ทั้งที่เขาใกล้เป็นผี เจ้าพระยามหานที...รีบหลบลี้นทีแรง ฤารู้แดงกำแหงหาญ...ฤาทหารหาญกำแหง ปฎิวัติจัดการแดง...จึงลาแล้งเจ้าพระยา

ขุนเขาบอก :

สงบใจอยู่ในร่ม...รอพระยมล้มพระยา...

อย่าหลงกลคนเสื้อแดง...อย่าออกแรงไม่จำเป็น
อย่านำปูสู่ยุคเข็น...ไม่จำเป็นไม่ยาตรา
เขาเงื้อง่าจักฆ่าเรา...คนหูเบาเจ้าของหมา
ไม่อิงเคล้าเจ้าพระยา...จากพาราสู่ธารา

มหากาพย์ปราบเสื้อแดง...ธาราแรงแบ่งมหา
ประชาชนคนพนา...เยื้องยาตราเข้าล้อมเมือง
สีเหลืองแดงแรงปะทะ...หายนะคนเสื้อเหลือง
เหตุการณ์แรงแดงล้อมเมือง...ทหารเหลืองเยื้องยาตรา

มหาชนเข้าปล้นเมือง...ด้วยแค้นเคืองเจ้าของหมา
ทหารใหญ่ไร้ราคา...ถูกตราหน้าว่าขายตัว
เมืองเจียนล่มด้วยจมปลัก...อ้างความภัคอยู่เหนือหัว
มาตราแรงหวังแดงกลัว...เตรียมแผนชั่วครองนรา

สร้างจัญไรเพื่อบรรลัย...หวังเป็นใหญ่คนกราบหมา
สั่นสะท้านฐานกานดา...หวังกลับมาเป็นเจ้าเมือง
กราบแต่หมาข้าไม่รู้...สำนึกกูคือสีเหลือง
ระเบิดบ้านระเบิดเมือง...แถมคุยเขื่องเรื่องความดี

อ้างฤทธีเยี่ยงนี้เล่า...ทั้งที่เขาใกล้เป็นผี
เจ้าพระยามหานที...รีบหลบลี้นทีแรง
ฤารู้แดงกำแหงหาญ...ฤาทหารหาญกำแหง
ปฎิวัติจัดการแดง...จึงลาแล้งเจ้าพระยา

วันบรรลัยใกล้ประทุ...มุทะลุจักเสียหมา
เพียงอย่าท้อรอเวลา...นกแสกมาค่อยถ้าแดง
ไม่นานดอกบอกพระยม...เขาอุ้มสมคนกำแหง
ท้องนภาทาสีแดง...เขาอ่อนแรงแดงฤทธิรณ.........สงบใจอยู่ในร่ม...รอพระยมล้มพระยา...

เกล็ดความรู้และหลักคิดในการมองสังคมไทยปัจจุบัน

ทักษิณ:สังคมที่ขับเคลื่อนด้วยข่าวลือ

รูปภาพ : ผมเขียน FB ตอนอยู่บนเครื่องบินเดินทางกลับดูไบจากฮ่องกงครับ ต้องขออภัยที่ไม่ได้เขียนนานมากเพราะมัวแต่เดินทาง ทำงานและรับแขก เมื่อวันก่อนโอ๊คส่งรูปและคลิปอัลกออิดะฮ์ (ปลอม) ขู่ผม พอผมเห็นปุ๊บก็ขำทันทีว่ามีคนคิดพิเรนทร์อีกเช่นเคย ผมขอบอกวิธีดูให้ 3-4 จุดนะครับเผื่อจะไม่ถูกหลอกจากคนที่ไม่ค่อยรู้แต่อยากทำ

1. เวลาเป็นอัลกออิดะฮ์แท้เขาจะไม่เปิดหน้า เขากลัวถูกตามฆ่า 
2. อัลกออิดะฮ์ไม่ใส่นาฬิกาสีทอง  
3. สำเนียงพูดจะเป็นเสียงมุสลิมปากีสถาน เพราะผมมีเพื่อนเป็นปากีสถานหลายคนและอยู่ดินแดนมุสลิม 
4. อัลกออิดะฮ์ไม่ให้ความสนใจเข้ามายุ่งเรื่อง 3 จว.ชายแดนใต้

ก็เลยอยากจะบอกพี่น้องคนไทยว่า ก่อนจะเชื่ออะไรต้องมีวิธีคิด รู้จักคิดและวิเคราะห์ ไม่เช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อของข่าวหลอกและข่าวลือครับ วันนี้เราโดนต้มกันเยอะจนมีครั้งหนึ่งผมจำได้ดีตอนผมทำธุรกิจอยู่ประมาณ 20 ปีที่แล้ว ผมได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาด้านบริหารการจัดการชื่อดังของอเมริกาที่ชื่อ Boston Consulting Group (BCG) ตอนเขามาทำ Presentation เพื่อเป็นการวิเคราะห์สังคมไทย ประโยคแรกที่ขึ้นมาบน slide เขาบอกว่า Thailand is rumour driven society

ผมเห็นแล้วทั้งขำทั้งเศร้า เพราะฝรั่งยังรู้จุดอ่อนของสังคมไทยว่าเป็นสังคมข่าวลือ (แถมข่าวปล่อยด้วย) เลยทำให้เราต้องกลับมาคิดว่าเราจะแก้อย่างไรที่สังคมไทยจะเป็นสังคมที่รู้จักพินิจพิเคราะห์ ไม่เชื่อง่าย ไม่โดนหลอกง่าย สิ่งที่ผมหัดคิดและสอนลูกๆก็คือ โลกยุคนี้เป็นยุคที่เราเรียกกันว่าสังคมฐานความรู้ และเราต้องรู้จักเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็น Formal หรือ Classroom type of education การอ่าน การเข้าเน็ต (google etc.) การไปดูนิทรรศการ การเดินทางไปต่างประเทศ ขี้สังเกตสังกาแล้วนำมาวิเคราะห์ก็จะสร้างให้เราได้ทั้ง Knowledge และ Wisdom

การเรียนแบบ Formal ในห้องเรียนอย่างเดียว แม้กระทั่งคนเรียนเก่งบางทีก็ได้แค่ Knowledge แต่ไม่ได้ Wisdom โดยเฉพาะนักท่องจำทั้งหลาย

พอพูดถึง BCG ผมก็เลยขอเล่าให้นักธุรกิจฟังว่า BCG เขามี Boston Model ที่ขึ้นชื่อ เขาแบ่งธุรกิจสร้างใหม่ออกเป็น 4 ประเภท 
1. ธุรกิจที่สร้างขึ้นใหม่ๆ เรียกว่า Baby 
2.ธุรกิจสร้างแล้วทางบัญชีมีกำไรแต่กระแสเงินสดยังติดลบเพราะต้องของบการลุงทุนเรียกว่า Star 
3.ธุรกิจที่ทางบัญชีและกระแสเงินสดเป็นบวกเพราะการขยายตัวให้เงินจากกำไรไปทำแล้วยังเหลือเรียกว่า Cash Cow 
4.ธุรกิจที่ขาดทุนกระแสเงินสดติดลบ ไม่มีอนาคต ยิ่งทำยิ่งเจ๊ง เรียกว่า Dog

ทั้ง 4 ข้อเป็นแนวทางที่เขาใช้วิเคราะห์กลุ่มบริษัทตัวเองว่า ถ้ามี Dog ต้อง Kill คือเลิกเสีย อย่าทู่ซี้นานถ้าเราไม่มั่นใจว่าจะเปลี่ยนให้มีกำไรได้ ถ้ามี Cash Cow ตัวใหญ่ไม่พอก็อย่าขยับสร้าง Baby ใหม่ๆเรื่อยๆเดี๋ยวจะเหนื่อย ให้รักษา Star และ Cash Cowไว้ให้ดี มีให้เยอะ แล้วจะสำเร็จครับ ขอให้สำเร็จทุกคนนะครับ

ผมเขียน FB ตอนอยู่บนเครื่องบินเดินทางกลับดูไบจากฮ่องกงครับ ต้องขออภัยที่ไม่ได้เขียนนานมากเพราะมัวแต่เดินทาง ทำงานและรับแขก เมื่อวันก่อนโอ๊คส่งรูปและคลิปอัลกออิดะฮ์ (ปลอม) ขู่ผม พอผมเห็นปุ๊บก็ขำทันทีว่ามีคนคิดพิเรนทร์อีกเช่นเคย ผมขอบอกวิธีดูให้ 3-4 จุดนะครับเผื่อจะไม่ถูกหลอกจากคนที่ไม่ค่อยรู้แต่อยากทำ

1. เวลาเป็นอัลกออิดะฮ์แท้เขาจะไม่เปิดหน้า เขากลัวถูกตามฆ่า
2. อัลกออิดะฮ์ไม่ใส่นาฬิกาสีทอง
3. สำเนียงพูดจะเป็นเสียงมุสลิมปากีสถาน เพราะผมมีเพื่อนเป็นปากีสถานหลายคนและอยู่ดินแดนมุสลิม
4. อัลกออิดะฮ์ไม่ให้ความสนใจเข้ามายุ่งเรื่อง 3 จว.ชายแดนใต้

ก็ เลยอยากจะบอกพี่น้องคนไทยว่า ก่อนจะเชื่ออะไรต้องมีวิธีคิด รู้จักคิดและวิเคราะห์ ไม่เช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อของข่าวหลอกและข่าวลือครับ วันนี้เราโดนต้มกันเยอะจนมีครั้งหนึ่งผมจำได้ดีตอนผมทำธุรกิจอยู่ประมาณ 20 ปีที่แล้ว ผมได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาด้านบริหารการจัดการชื่อดังของอเมริกาที่ชื่อ Boston Consulting Group (BCG) ตอนเขามาทำ Presentation เพื่อเป็นการวิเคราะห์สังคมไทย ประโยคแรกที่ขึ้นมาบน slide เขาบอกว่า Thailand is rumour driven society

ผมเห็นแล้วทั้งขำทั้งเศร้า เพราะฝรั่งยังรู้จุดอ่อนของสังคมไทยว่าเป็นสังคมข่าวลือ (แถมข่าวปล่อยด้วย) เลยทำให้เราต้องกลับมาคิดว่าเราจะแก้อย่างไรที่สังคมไทยจะเป็นสังคมที่ รู้จักพินิจพิเคราะห์ ไม่เชื่อง่าย ไม่โดนหลอกง่าย สิ่งที่ผมหัดคิดและสอนลูกๆก็คือ โลกยุคนี้เป็นยุคที่เราเรียกกันว่าสังคมฐานความรู้ และเราต้องรู้จักเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็น Formal หรือ Classroom type of education การอ่าน การเข้าเน็ต (google etc.) การไปดูนิทรรศการ การเดินทางไปต่างประเทศ ขี้สังเกตสังกาแล้วนำมาวิเคราะห์ก็จะสร้างให้เราได้ทั้ง Knowledge และ Wisdom

การเรียนแบบ Formal ในห้องเรียนอย่างเดียว แม้กระทั่งคนเรียนเก่งบางทีก็ได้แค่ Knowledge แต่ไม่ได้ Wisdom โดยเฉพาะนักท่องจำทั้งหลาย

พอพูดถึง BCG ผมก็เลยขอเล่าให้นักธุรกิจฟังว่า BCG เขามี Boston Model ที่ขึ้นชื่อ เขาแบ่งธุรกิจสร้างใหม่ออกเป็น 4 ประเภท
1. ธุรกิจที่สร้างขึ้นใหม่ๆ เรียกว่า Baby
2.ธุรกิจสร้างแล้วทางบัญชีมีกำไรแต่กระแสเงินสดยังติดลบเพราะต้องของบการลุงทุนเรียกว่า Star
3.ธุรกิจที่ทางบัญชีและกระแสเงินสดเป็นบวกเพราะการขยายตัวให้เงินจากกำไรไปทำแล้วยังเหลือเรียกว่า Cash Cow
4.ธุรกิจที่ขาดทุนกระแสเงินสดติดลบ ไม่มีอนาคต ยิ่งทำยิ่งเจ๊ง เรียกว่า Dog

ทั้ง 4 ข้อเป็นแนวทางที่เขาใช้วิเคราะห์กลุ่มบริษัทตัวเองว่า ถ้ามี Dog ต้อง Kill คือเลิกเสีย อย่าทู่ซี้นานถ้าเราไม่มั่นใจว่าจะเปลี่ยนให้มีกำไรได้ ถ้ามี Cash Cow ตัวใหญ่ไม่พอก็อย่าขยับสร้าง Baby ใหม่ๆเรื่อยๆเดี๋ยวจะเหนื่อย ให้รักษา Star และ Cash Cowไว้ให้ดี มีให้เยอะ แล้วจะสำเร็จครับ ขอให้สำเร็จทุกคนนะครับ

tisdag 30 juli 2013

ลุ้นระทึก....รอสัญญาณ....จากบ้านพักตากอากาศริมทะเล.....ว่าจะปล่อยให้ประชาชนและประเทศชาติมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงเหมือนนานาอารยะประเทศทั้งหลายที่เขาเจริญแล้ว....หรือ ว่า..?ไม่อยากจะคิดเพราะมันช่างโหดร้ายเสียจริงๆสำหรับพวกที่เห็นแก่ตัวมีชีวิตสุขสบายด้วยการเอารัดเอาเปรียบประชาชนและประเทศชาติมาชั่วชีวิต.....


ดิฉันขอแนะนำสิ่งที่ทางฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องเริ่มใช้บ้าง เพราะประสบการณ์ที่อยู่ในประเทศต่างๆ ในโลกนี้ เขาใช้กัน

1. ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องมีโฆษกแถลงข่าวและการปฎิบัติในเรื่องนี้อย่างทันท่วงที คือสามารถออกมาแถลงข่าวให้ทางสาธารณได้ทราบ ไม่ว่าในเวลาใดๆ ก็ตาม (ทางเมืองใหญ่ๆ ในรัฐต่างๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกา เขาใช้วิธีการนี้ตลอด) ดิฉันไม่เห็นทางโฆษกสำนักงาน หรือตัวแทนของการปฎิบัติการ ออกมาออกข่าวให้ทราบเลย

และเมื่อสื่อกระแสหลัก เป็นฝ่ายตรงข้าม การรายงานต่างๆ จะเป็นวิธีทางลบทั้งหมด

2. ตัวผู้แถลงข่าวหรือตัวแทนอย่างเป็นทางการ จะต้องสามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีนได้ เพราะการแถลงข่าวเหล่านี้ จะต้องใช้ทั่วโลกเขาทราบกัน

3. การใช้อินเตอร์เนทหรือ Social Media ต่อการแถลงข่าวจะต้องดีกว่านี้ และต้องมีการตอบโต้อย่างทันควันด้วย ไม่อย่างนั้น ท่านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะโดน "กระทืบ" ทางสื่ออย่างเละทีเดียว เวลาแต่ละวินาทีเป็นสิ่งที่มีค่ามาก จะมารออีก 2 วันค่อยแถลง เป็นไปไม่ได้ค่ะ

4. เมื่อสื่อกระแสหลักมีการบิดเบือนข่าวที่ทางการเจ้าหน้าที่ปราบจราจลกระทำอยู่ คุณจะอยู่เฉยๆ ไม่ได้ คุณจะต้องมีการตอบโต้ทันทีว่า เนื้อข่าวที่รายงานนั้น มีความคลาดเคลื่อนประการใดบ้าง

5. การปราบจราจลนั้น เป็นความชอบธรรมอยู่แล้วในเรื่องของกฎหมายทุกๆ ประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่ ฝ่ายทำการจราจล ต้องการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนส่วนใหญ่

6. ต้องใช้วิดีโอและการบันทึกภาพเป็นจำนวนพอสมควรทีเดียว เรื่องเหล่านี้เป็นหลักฐานที่ท่านจะต้องเก็บและบันทึกไว้ทั้งหมด ไม่อย่างนั้น มีการบิดเบือนเกิดขึ้นได

7. มันถึงเวลาที่จะต้องมีการฟ้องร้องในเรื่องการรายงานเท็จเพื่อสร้างความเสียหายให้กับองค์กรเสียที เพราะเป็นการสร้างความยุแหย่, ปั่นป่วน, Hate Speech และการหลอกลวงอย่างไม่หยุดหย่อน ถ้าไม่มีการฟ้องร้องเพื่อหยุดการกระทำเหล่านี้ ท่านก็จะเห็นบ้านเมืองมีเหตุการณ์แบบไม่รู้จบอย่างนี้ทั้งสิ้น

ก็เลยขอนำมาเขียนเพื่อให้ท่านผู้มีอำนาจ ทำการพิจารณาเสียทีนะคะ เพราะมันถึงเวลาในการ "รุก" แล้ว....

......"เชื่อมภาค เชื่อมชีวิต บูรณาการทุกทิศสู่ความเจริญ".....

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

http://www.youtube.com/watch?v=WUUgpjsxBY4&feature=player_embedded

คนล้นแห่ฟัง "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" บรรยายโครงการ "เชื่อมภาค เชื่อมชีวิต บูรณาการทุกทิศสู่ความเจริญ"

 
 
เวลา 14.15 น. วันที่ 30 กรกฎาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "เชื่อมภาค เชื่อมชีวิตบูรณาการทุกทิศสู่ความเจริญ" ดังนี้

ไม่อยากพูดว่าพ.ร.บ.นี้่คือพ.ร.บ.เงินกู้ 2ล้านล้าน แต่นี่คือพ.ร.บ.พลิกโฉมประเทศขั้นพื้นฐานภายใน 7 ปีสำหรับผม 2 ล้านล้านไม่สำคัญ แต่คีย์เวิร์ดคือ 7 ปี และโครงการทั้งหมด 53โครงการที่มีรายละเอียดชัดเจน ซึ่งต้องดำเนินไปตามกฎหมายและหากไม่ผ่านก็ไม่สามารถนำเงินกู้ออกมาใช้ได้

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราสูญเสียโอกาส เรียกว่านี่คือ "ทศวรรษที่สูญหาย" จากตัวเลขการแข่งขันหลายสาขาประเทศไทยแย่ลงทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นด้านถนน รถไฟ เรือ หรือ อากาศ ที่และที่ผ่านเราไม่มีการลงทุนโครงสร้างขนาดใหญ่ ดังนั้นอนาคตเรามอง 4 ที่สำคัญ คือ Growth Engine ได้แก่ 1.ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ 2.การเชื่อมโยงเออีซี ตลาดแหล่งทรัพยากร พลังงาน 3.การพัฒนาสู่สังคมเมืองกระจายความเจริญไปต่างจังหวัดและเมืองชายแดน และ 4.การอุปโภคบริโภคภายในประเทศซึ่งทั้ง 4 ตัวนี้ ขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม


ถ้าถามว่าเราได้อะไรจากการลงทุนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอาจจะมองว่าเราเน้นรถไฟความเร็วสูงแต่ความจริงไม่ใช่แค่รถไฟโครงการรถไฟลงทุนเพียง39.2%เท่านั้น เรายังจะมีมอเตอร์เวย์ 3 สายทำถนนเส้นหลักจาก 2 เลนเป็นถนน 4 เลนสร้างสะพานข้ามจุดตัดรถไฟ มีสถานีขนส่งสินค้า 15 แห่งกระจายตามหัวเมืองใหญ่มีท่าเรือใหม่ ส่งเสริมการขนส่งทางแม่น้ำ มีด่านศุลกากร 40กว่าแห่ง

 นี่คือโครงการยุทธศาสตร์ประเทศไทยจริงๆซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง มีการวางแผนการใช้งบประมาณตามยุทธศาสตร์แห่งชาติในพ.ร.บ.งบประมาณเน้นไปทำเรื่องหลักที่เป็นกระดูกสันหลังและเส้นเลือดใหญ่ของประเทศส่วนเรื่องย่อยๆเช่นถนนสายย่อยนั้นจะอยู่ในงบประมาณประจำปีตามปกติซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะเป็นภาพรวมทั้งประเทศ


สำคัญที่สุดคือพ.ร.บ.งบประมาณ 2 ล้านล้านบาทไม่ได้ใช้ทีเดียวทั้งหมด หากกฎหมายผ่านปีแรกเราจะทยอยใช้ตามความจำเป็น กฎหมายทุกฉบับต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มงวดไม่ว่าจะเป็น EIA EHIA ประชาพิจารณ์หากอันไหนไม่ผ่านเราก็ยังทำไม่ได้ ไม่มีการชอร์ตคัท หรือ หลีกเลี่ยงและทุกอย่างทยอยทำในระยะเวลา 7 ปี

         
ประเทศไต้หวัน ที่มีรถไฟความเร็งสูง ลดความแออัดในเมือง เกิดเมืองใหม่กระจายคนออกไปซึ่งประเทศไทยทำได้ อาทิใช้ปากช่อง หัวหิน นครปฐม สร้างเมืองใหม่ตามเส้นทางได้ โดยจากจุดเหล่านี้สามารถทะลุเข้าไปในเมืองต่อที่สถานีบางซื่อขึ้นรถไฟฟ้าซึ่งเปลี่ยนชีวิตคนได้ ทั้งมิติทางสังคมและมิติทางเศรษฐกิจ เช่น รถไฟชินคังเซ็นในญี่ปุ่นก่อสร้างเสร็จมีเศรษฐกิจที่ตามขึ้นมา รถไฟความเร็วสูงไม่ใช่แค่เรื่องซื้อตั๋วแต่ได้ความเจริญที่ตามมาด้วย เป็น GrowthEngine ซึ่งเป็นการสร้างเศรษฐกิจและมูลค่าเพิ่มที่มากับ (รถไฟ) ความเร็วสูง

ขณะที่ในเวลาเดียวกัน ร่างพ.ร.บ.2 ล้านล้านยังดำเนินการอยู่เราได้ทำอีไอเอ เอชไอเอควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้เตรียมพร้อมต่อการดำเนินการได้ทันที

รัฐบาลยืนยันว่าควรทำโครงการ2 ล้านล้านเป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจและกระจายความเจริญโดยให้ความสำคัญกับมูลค่าของเวลาที่เสียไปถามว่าสร้างหนี้2ล้านล้าน จะสร้างวันนี้หรือในอนาคตที่มีค่าเสียเวลา ต้นทุนเพิ่มขึ้นและน้ำมันที่เสียไปปีละแสนล้าน ต้องคิดต้นทุนของการไม่ทำเท่าไหร่ด้วยแต่ต้นทุนของการทำ 2 ล้านล้าน รถไฟรางคู่ถ้าไม่ทำวันนี้ต้นทุนอนาคตเพิ่มขึ้น 2 เท่า ดังนั้นหัวใจของ พ.ร.บ. 2ล้านล้านนี้คือเรื่องเวลา ไม่ใช่เรื่องเงิน เราต้องทำเวลาให้พร้อมต่อการพัฒนาของโลก

โครงการเมกะโปรเจ็กต์ส่วนใหญ่เราใช้เงินกู้ทำ ส่วนงบประมาณแผ่นดินไม่ได้จ่ายตรงโครงการ เป็นการจ่ายคืนเงินกู้ แนวปฏิบัติของพ.ร.บ.นี้ไม่ต่างกัน ใช้เงินกู้เป็นการจ่ายโครงการ ซึ่งที่ผ่านมาไปเข้าใจผิดว่า เอางบประมาณไปจ่ายค่าโครงการโดยตรง แต่เรากู้เงิน แล้วนำงบฯรายปีไปจ่ายเงินกู้

ที่ผ่านมา งบฯรายปีไม่สามารถทำได้สะดวกเพราะไม่สามารถวางแผนต่อเนื่องได้ แต่การวางแผนงบฯ 7 ปี ทุกคนเห็นนักลงทุนเห็นว่า 7 ปีเราจะดำเนินการอย่างไร แต่กรอบ 7 ปีเราจะเห็นวงเงินและหนี้สาธารณะ ถ้าใช้งบฯ ปกติวิธีการคือต้องตั้งงบฯ ผูกพันจะเป็นภาระรัฐบาลต่อไปมาก แต่แยกต่างหากจะบริหารได้ชัดเจนลงไปในโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านการตรวจสอบที่เข้มข้นและชัดเจน

คนคิดว่า 2 ล้านล้านจะโกงเป็นเรื่องที่เรากังวลเหมือนกัน แต่ต้องแยกจากกันระหว่างการโกงกับความจำเป็นของโครงการพอเอาความโกงไปติดกับโครงการว่าอย่าทำเพราะจะโกงเป็นเหตุผลที่ผิดดังนั้นต้องมาร่วมมือกันตรวจสอบให้เข้มข้นทั้งภาครัฐและเอกชนและแยกความจำเป็นของโครงการที่มองว่าถ้าเหมาะสมต้องทำทางกระทรวงคมนาคมพยายามทำให้โปร่งใสนำข้อมูลขึ้นเว็บไซต์ออกระเบียบตั้งราคาประมูลกลางร่วมมือกับภาคเอกชนและตั้งผู้สังเกตการณ์มาร่วม ซึ่งค่อยๆเริ่มพัฒนาระบบตรวจสอบไปถ้าเราผ่านจุดนี้ได้ ความโปร่งใสทั้งระบบจะดีขึ้น ยืนยันว่าคนที่ยังไม่เชื่อมั่นขอให้มาร่วมกันช่วยให้คำแนะนำเพราะเราพร้อมให้ตรวจสอบ


โครงการผ่านการคิดมาระยะหนึ่งแล้ว และหลายโครงการมีการทำการศึกษาระยะหนึ่งขณะที่บางโครงการเป็นโครงการเก่าที่มีการศึกษาไว้แล้วสามารถทำได้เลยเรามีชัดเจนว่าโครงการใดทำโครงการใดไม่ทำ

        
โดยความคืบหน้าการลงทุนรถไฟความเร็วสูงเรามองผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมเราคำนวณโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์ว่าคนจะเปลี่ยนจากรถเครื่องบินมาโดยสารรถไฟความเร็วสูงกี่เปอร์เซ็นต์ซึ่งเรามีตัวเลขทั้งหมดและยืนยันว่าไม่มั่ว ทุกอย่างเป็นหลักวิชาการที่ต้องทำ ถ้าไม่ทำก็จะแย่



รถไฟความเร็วสูงมีส่วนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกับการทำธุรกิจเดินรถทั้งสองส่วนนี้ถ้าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ทำได้ก็จะให้ทำแต่ต้องดูเข้มแข็งแค่ไหนถ้ายังไม่ได้ให้บริษัทลูกของ ร.ฟ.ท.ดำเนินการ

(ข่าวจากประชาชาติธุรกิจออนไลน์)

....ไมตรีจิต มิตรภาพ....ที่แทนซาเนีย.....

***ชมภาพ นายกฯยิ่งลักษณ์  เดินทางไปเยือน สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย(30-31ก.ค.56)***

http://news.voicetv.co.th/global/66560.html
[IMG]


[IMG]

[IMG]

นายกฯปู รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการ บริหารจัดการทรัพยากรธรรมาติและสัตว์ป่า

[IMG]


[IMG]


[IMG]
 
ไมตรีจิต มิตรภาพ มีอยู่ทั่วโลก
แต่หาแทบไม่ได้เลย จากนักการเมืองบางพรรคในประเทศตนเอง แปลกแต่จริง....

måndag 29 juli 2013

ระวัง...น้องโบว์โมเดล!!! แดงยืนช้าง รอจังหวะปราบกบฏ




โดย  พิณลำโขง

ระวัง...น้องโบว์โมเดล!!! แดงยืนช้าง รอจังหวะปราบกบฏ

ชัดเจนยิ่งว่า นับแต่ 1 สิงหาคม 2556 เป็นต้นไป
ฝ่ายอำมาตย์เผด็จทหาร นายทุนผูกขาดอนุรักษ์และนักการเมืองฝ่ายค้าน จะร่วมมือกันกระชับเกมส์การเมือง
โดยมีเป้าหมายเพื่อแย่งชิงอำนาจฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติไปจากรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย

สถานการณ์ที่ถูกกำหนดไว้ให้เกิดขึ้นคือ ความวุ่นวายโกลาหลจากสารพัดม็อบ
ความรุนแรงจะถูกเร่งเร้าทวีขึ้นเป็นลำดับ ความเสียหายและความตายของผู้บริสุทธิ์ (ผู้ไม่รู้แผน)
ที่เข้ามาร่วมชุมนุมคือสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้ว และจะตายมากกว่า 100 ศพ “เอาความเลวกลบความเลว”
เพื่อเอาไว้สร้างวาทกรรมการเมืองกลบเกลื่อนการกระทำผิดในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
และ “น้องโบล์โมเดล” จะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งอย่างแน่นอน
“นางโศก”จะออกมาบีบน้ำตาอาลัยผู้เสียชีวิตเพื่อช่วยเพิ่มแรงกดดันรัฐบาลให้เข้าสู่กับดักทางการเมือง คือ...

ทางแรก... รัฐบาลทนแรงกดดันและรับมือยันสถานการณ์ไม่อยู่
นายกฯประกาศยุบสภาเพื่อจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ เท่ากับติดกับดักทันที
โดยกกต.จะสร้างปัญหาทางเทคนิคทางกฎหมายให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้
ส่วนนายกฯและครม.รักษาการ จะถูกปปช.ชี้มูลความผิดและให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
ก่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง วุฒิสมาชิกจะทำหน้าที่เต็มทั้งสองสภา
เปิดช่องทางให้นำ รธน.50 มาตรา7 มาใช้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและครม.ของเขาทันที

ทางที่สอง... ถ้ารัฐบาลไม่ยุบสภาในช่วงของความวุ่นวายเพราะรับมือไหว
ตลก. จะอาศัยความชุลมุน วินิจฉัยตัดสิทธิ ส.ส. 312 คนให้พ้นสมาชิกภาพหรืออีกทางเลือกคือยุบพรรคเพื่อไทย
ปปช.จะชี้มูลความผิดนายกฯและครม.ให้ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่
ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่คุมเสียงข้างมากในสภา การจัดตั้งนายกฯและครม.ชุดใหม่ภายใต้ระบบรัฐสภาก็อาจเกิดขึ้น
หรืออาจจะนำมาตรา 7 มาใช้กล้อมแกล้มจัดตั้งก็อาจเกิดขึ้นได้ในประเทศสารขัณฑ์

ขอย้ำว่า แผนการยุทธครั้งนี้ของพวกม็อบอำมาตย์จะประสบผลสำเร็จอย่างง่ายดาย
ถ้าฝ่ายประชาธิปไตย(คนเสื้อแดง)จัดม็อบชนม็อบ หรือตั้งม็อบอยู่ใกล้กับม็อบของฝ่ายเขา
เหตุผลเพราะว่าจะทำให้ตำรวจปฎิบัติหน้าที่ไม่สะดวกแยกไม่ออกว่าใครแดงจริงหรือแดงปลอม
อีกอย่างถ้าประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็ต้องถูกจับรับผิดร่วมไปด้วยกับพวกมันอยู่กรงขังเดียวกับพวกมันไม่สนุกแน่

ท่าทีที่ควรเป็นของคนเสื้อแดง

คนเสื้อแดงที่มีสติปัญญาและควบคุมสติสติอารมณ์ รู้จักอดทนรอคอยให้ม็อบอำมาตย์ปะทะกับตำรวจให้หมดแรงเสียก่อน
แล้วค่อยหาจุดอ่อนจุดแข็งของพวกมัน และเตรียมวางแผนรุกกลับให้รัดกุม โดยตั้งทัพเสื้อแดงคอยคุมเชิงอยู่ที่จังหวัดรอบกรุงเทพฯ เช่น
นครปฐม , กาญจนบุรี , ราชบุรี , สมุทรปราการ , นนทบุรี ,ปทุมธานี , อยุธยา
แล้วรอสัญญาณเคลื่อนทัพเข้าทุกทิศทางขย้ำพร้อมกันการได้ชัยจะง่ายกว่าการเข้าปะทะแต่เพลงแรก
ขอเตือนเพื่อนฮาร์ดคอร์ที่ต้องการแสดงความกล้าหาญ ขอให้เปลี่ยนแผนการยุทธจากการปะทะ
เป็นการแฝงตัวเข้าปะปนหาข่าวอยู่ในม็อบของพวกมันจะได้ประโยชน์มากกว่า
เพราะสอดคล้องกับ “แผนการตั้งรับ” ของมวลใหญ่ของเสื้อแดง
ย้ำ..เดิมพันครั้งนี้ของอำมาตย์นั้นสูงยิ่งเท่าที่เคยมีมา เขาต้องการรวบอำนาจทั้ง 3 สถาบันไว้ในมือ
เพื่อควบคุมการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ อาทิ
1. การเปลี่ยนผ่านประมุขฝ่ายอาณาจักร
2. การเปลี่ยนผ่านประมุขฝ่ายศาสนจักร
3. ผู้สำเร็จราชการ
4. ประธานองคมนตรี
5. ปลัดกระทรวงกลาโหม
6. ผู้บัญชาการกองทัพเรือ
ส่วนเหตุผลของการเคลื่อนไหวอ้างเพื่อล้มล้างระบอบทักษิณนั้น แท้จริงคือ “เป้าลวง”
สำหรับตัวท่านทักษิณถูกฝ่ายอำมาตย์ใช้เป็นเป้าหลอกมาโดยตลอดเป้าแท้จริงคือ 1 2 3 4
( ส่วน 5 6 รอบเวียนมาถึงในอีก 2 เดือนหน้านี้ ถ้าเอาไว้ไม่ได้ดุลอำนาจจะเปลี่ยนไปจากมือเขาทันที)
เพื่อลวงมิให้มวลชนล่วงรู้เป้าหมายที่แท้จริงที่พวกอำมาตย์ต้องการ.


(หมายเหตุ- ถึงเพื่อนร่วมเดินทาง    โปรดอ่านและไตร่ตรองให้ดี...รู้เขารู้เรา  จะได้ไม่หลงกลการยั่วยุของอำมาตย์ชั่วเพื่อล้มรัฐบาลและทำลายระบอบรัฐสภาที่มาจากประชาชน....).

 

...อะไร?...คือสาเหตุที่แท้จริง... ที่ทักษิณ ชินวัตร... ไม่สามารถกลับประเทศไทยได้ ....


โดย  แสงตะวัน


Dr.
ทักษิณ ชินวัตร คืออดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย   ที่กษัตริย์ภูมิพล และพวกอำมาตย์รับใช้กษัตริย์ ไม่ต้องการให้อยู่ในประเทศ  ไม่ว่าจะปรองดอง หรือต่อรองด้วยวิธีใดๆก็ตาม... เพราะอำนาจทุกอย่างขึ้นอยู่กับกษัตริย์ภูมิพลเป็นผู้กำหนด   โดยธาตุแท้ของภูมิพลเองแล้วเป็นคน  จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต อาฆาตมาดร้าย   เห็นแก่ตัว อิจฉาริษยา ทรยศคดโกง   แม้แต่คนที่เคยมีพระคุณแก่ตนเองเช่น Dr.ปรีดี พนมยงค์  ที่เคยปกป้องราชบัลลังก์และช่วยเหลือภูมิพลให้พ้นจากคดีฆ่าพี่ชาย รัชกาลที่ ๘ หรือในหลวงอานันท์ฯ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ มาแล้ว  นอกจากนั้นยังเป็นผู้ได้เสนอให้ภูมิพลขึ้นเป็นกษัตริย์แทน ร. ๘ หลังจากที่ถูกฆาตกรรมโดยพระอนุชา ของพระองค์เอง 


เมื่อภูมิพลได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ก็ทรยศหักหลัง  ต่อ Dr.ปรีดี  พนมยงค์  โดยกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการสวรรคตของรัชการที่ ๘  .จนปรีดีต้องหนีออกไปลี้ภัยในต่างแดนไม่ได้กลับประเทศอีกเลยและตายอยู่ในต่างแดน     คดีที่กล่าวหาว่า นายปรีดี   มีส่วนพัวพันกับการสวรรคตของ ร. ๘   คดีได้หมดอายุความไปแล้วและศาลตัดสินไปแล้วว่านายปรีดีไม่ผิดตามที่ถูกกล่าวหา    แต่ นายปรีดีก็ไม่มีโอกาศได้กลับมาประเทศไทยอีกเพราะภูมิพลไม่ให้กลับ


 
เมื่อสมัย ดร.ปรีดี ยังมีอำนาจดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์  นายปรีดีได้ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลตระกูลมหิดลมาเป็นอย่างดีโดยเมื่อก่อนขึ้นมาเป็นกษัตริย์นั้น   ครอบครัวมหิดลมีกันเพียง ๔ คนแม่ลูก คือ นาง สังวาลย์  ตะระภัฎ ซึ่งมาจากสามัญชนธรรมดา หลังจากแต่งงานกับ กรมหลวงสงขลานครินทร์จึงได้เลื่อนฐานะขึ้นมาเป็นหม่อม สังวาลย์ ต่อมาสามีเธอได้เสียชีวิตเมื่อเธอมีอายุเพียง ๒๙  ปีเท่านั้น  หลังจากนั้นเธอก็ได้มีชีวิตอยู่กับลูกๆซึ่งเป็นชาย ๒ คน และหญิงคนหนึ่ง ชื่อ   กัญลยานี เป็นลูกสาวคนโต อานันท์ฯลูกชายคนที่ ๒ และคนสุดท้อง คือ ภูมิพล หรือ เล็ก  

ดร. ปรีดี ได้เอาใจใส่ดูแลครอบครัวนี้มาโดยตลอด และได้สนับสนุนให้ลูกชายคนโตขึ้นมาเป็นกษัตริย์  คือในหลวงอานันท์ รัชกาลที่ ๘  หลังจากรัชกาลที่ ๗ สละราชบัลลังก์ไปแล้ว   แต่เป็นกษัตริย์ไม่กีปีก็ถูกพระอนุชาแย่งชิงราชบัลลังก์ไป เมื่อวันที่ ๙ มิถุนา พ.ศ. ๒๔๘๙  เมื่อน้องชายคือ นาย เล็ก หรือภูมิพลขึ้นเป็นกษัตริย์ รัชกาลที่ ๙  ปรีดีก็ถูกขับไล่ออกจากประเทศ  พวกทหารมหาดเล็กที่รู้เห็นเหตุการณ์ในวันที่ในหลวงอานันทม์ถูกลอบปลงพระชนม์ ก็ถูกภูมิพลสั่งฆ่าปิดปากไปทั้งสามคน


วันนี้มาถึงคิวของ Dr. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน…  ไม่ว่าท่านจะปรองดองหรือต่อรอง อย่างไร หรือจะใช้เงินชื้อเขาอย่างไร แต่ท่านก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจกษัตริย์ภูมิพลผู้ที่มีจิตใจเหี้ยมโหดดำอำมหิต และ พวกอำมาตย์ที่รับใช้เขาเปลี่ยนใจมาปรองดองได้โดยเด็ดขาดเพราะความ อิจฉาริษยา ความใจดำอำมหิต ความโหดร้าย และความเห็นแก่ตัวของพวกอำมาตย์ศักดินาเหล่านั้นมันมีมากเกินกว่าคนธรรมดาจะคิดได้ 


จากเรื่องราวความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่กษัตริย์ภูมิพลขึ้นครองราชย์เขาไม่เคยเมตตาปรานีให้กับใครนอกจากผลประโยชน์และความเห็นแก่ตัวของเขา  เขาฆ่าได้แม้แต่พี่ชายของตัวเองและผู้ที่เคยมีพระคุณแก่เขา


ดังนั้นเราจึงขอฝากอุทาหรณ์เหล่านี้มายังท่านนายกทักษิณ... เมื่อระบอบเผด็จการภูมิพลล่มสลายลงแล้ว    เมื่อนั้นท่านจึงจะได้กลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ   แบบวีระบุรุษในดวงใจของประชาชน   พร้อมกับการแช่ช้องสรรเสริญจากประชาชนชาวไทยทั้งชาติ   ดังนั้นขอให้ท่านจงอดใจรอวันที่ท่านจะได้กลับประเทศไทยอย่างสมเกียรติของวีระบุรุษผู้ยิ่งใหญ่....

.....เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย....กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว....ขอแสดงความชื่นชมยินดีกับพี่น้องเพื่อนร่วมชาติที่มีประชาธิปไตยเบ่งบานในหัวใจ พวกเรามาจับมือกันร้อยใจเป็นหนึ่งเดียวร่วมเดินทางบนถนนประชาธิปไตยมุ่งสู่อนาคตคือการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มาจากปวงชนชาวไทยที่แท้จริง......


[IMG]
[IMG]
[IMG]
[IMG]
[IMG] [IMG] [IMG] [IMG] [IMG]
กลุ่มคนเสื้อแดงสตูลผนึกกำลังจัดเสวนา

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่อาคารเอนกประสงค์ หมู่ 9 (บ้านนาแก้ว) ต.ท่าแพ อ.ท่าแพ จ.สตูล นายเดชา ไตรภพ อายุ 62ปีอยู่บ้านเลขที่ 442 หมู่ 2 ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล ประธาน นปช. จ.สตูล พร้อมด้วย นายเอกรัตน์ นุ้ยเด็น อายุ 50ปี โฆษก น.ป.ช.หรือกลุ่มคนเสื้อแดง จ.สตูล นายมิดีน เจ๊ะอาหลี อายุ 70ปีอยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 5 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล พร้อมสมาชิก นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง จ.สตูลจำนวนหนึ่งได้ร่วมกันจัดกิจกรรมละศีลอดในช่วงเวลา 18.45 น. และกิจกรรม เสวนาสถานประชาธิปไตยกับแผนทำลายของฝ่ายเผด็จการเนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิด นายกทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย

ทั้งนี้ นายเอกรัตน์ กล่าวว่า ในวันนี้กลุ่มคนเสื้อแดง หรือ นปช.จ.สตูลรวมตัวกันเพื่อที่จะทำกิจกรรมในทางการเมืองในเรื่องบ้านเมืองของ เรากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ที่ผ่านมาโดยเฉพาะจังหวัดสตูลกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ หมู่ 3 ,7,9 ต.ท่าแพ อ.ท่าแพ เป็นหมู่บ้านเสื้อแดงที่ทำพิธีเปิดไปแล้วมาร่วมกันทำกิจกรรมซึ่ง เป็นเดือนรอมมาฏอนซึ่งประจบเหมาะกับที่อดีตนายกทักษิณครบอายุ 64ปี หรือเป็นวันเกิดอดีตนายกทักษิณ ชินวัตรคนเสื้อแดงจังหวัดสตูลก็เลยใช้โอกาสวันนี้นัดหมายกลุ่มคนเสื้อแดงมา ร่วมตัวนชุมนุมกันโดยการเสวนาประชาธิปไตยเพื่อให้ประชาชนคนเสื้อแดงจังหวัด สตูลรู้ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงโดยกิจกรรมมีกิจกรรมมีการเสวนาพูด คุยเรื่องการเมืองและช่วงค่ำมีการละศิลอดและมีการทำการละหมาดร่วมกันที่ มัสยิดในพื้นที่ อ.ท่าแพ ในฐานะคนเสื้อแดงที่นับถือศาสนาอิสลามกำลังหาแนวทางว่าจะทำกันอย่างไรกับ กิจกรรมเพื่อไม่ให้ขัดหลักการศาสนาอิสลามอีกด้วยอย่างไรก็ตามกิจกรรมนี้มี กำหนดการจัดขึ้นมาในวันนี้และวันพรุ่งนี้คาดว่าในคืนนี้มีกลุ่มคนเสื้อแดงใน จังหวัดสตูลมาเข้าร่วมจำนวนมาก

....เผาวอด? เผาอะไร? ความจริงเรื่อง"การจัดฉาก" ของคนบ้าสมุนอำนาจมืด หรือมือที่มองไม่เห็น... และขอประนามสื่อเลวตามืดบอดที่พยายามจุดชนวนปล่อยข่าวยุยงให้เกิดความวุ่นวายเพื่อทำลายประเทศชาติและเพื่อล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง....

[IMG]

สร้างสถานะการณ์   ลงทุนเผารมควันรถครื่องเสียงตนเองเพื่อเรียกแขก!!!!!
[IMG]

โดย  ตัวดำใจแดง

"ถ้าไอ้คนที่ลอบเข้าไปเผารถเครื่องเสียงคันนี้ ของลูกน้อง "ไอ้ปูเค็ม" เป็นเด็กที่ตำรวจส่งมาจริงๆละก้อ...
ต้องขอบอกว่า "ฝีมือของไอ้มือวางเพลิง" รายนี้ "มันกระจอกจริงๆ"  เสือกเผาแค่ตรงส่วนตูดรถไหม้ไปนิดเดียวเอง...
ดูแล้วไม่ค่อยจะเสียหายเลยซักเท่าไหร่เลย... ส่วน "ไอ้ผู้กองปูเน่า" นั่นก็ออกมา "ดราม่าดัจริตสร้างกระแส" ซะจน "เว่อร์!!!"...
แล้วถ้ามันเป็นจริงอย่างที่ "ไอ้ปูเน่า" มันว่า สงสัยต้องเอา "ไอ้ตัวที่วางเพลิง" ตัวนั้น "ไปตกกะโหลกซักสิบที"...
โทษฐาน "วางเพลิงทั้งทีแต่รถแทบจะไม่เป็นอะไรซักกะติ๊ดเดียวเลย" แบบนี้น่ะ!!!"...


By  big60

ไม่ต้องไปฟ้องไครที่ใหนหรอก ต่างฝ่ายต่างรู้ทันกันหมดแล้วว่าทำอะไร ก็ทำมาจนเขาเห็นคุ้นตาไปหมดแล้วว่า ก็แค่กลอุบายเล่ห์เหลี่ยมในการต่อสู้ของทั้งฝ่ายเท่านั้น ระดมคนนอกไม่ได้หรอก เขาไม่สนใจ แต่ระดมคนตัวเองได้อยู่ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างสถานการณ์อะไรก็ไม่ว่ากันอยู่แล้ว เพราะรู้กันอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร

น้ำผึ้งหยดเดียวน่ะมันหยดไปตั้งนานจนแมงวันกินหมดแล้ว มันหยดตั้งแต่กู้ชาติโน่น แถมเป็นน้ำผึ้งปลอมอีกต่างหาก เพราะป่านนี้ ยังไม่รู้เลยว่ากู้ชาติใหน กู้ทำไม เพราะตอนนั้นชาติไทยก็ยังอยู่ ทุกวันก็ยังอยู่ แถมตอนนั้นมันก็เจริญดีด้วย จะมาแย่ก็ตอนกู้เสร็จนี่แหละ แทบไม่เหลือซากให้ดูต่างหน้าเลย ตายเป็นเบือ

ถามจริงๆ ถ้าตัวเองเป็นฝ่ายนี้จะเผาใหม เผาแล้วได้อะไร เผาไม่เผาฝ่ายโน้นก็อกมาอยู่แล้ว ใช่ว่าเผาแล้วเขาจะไม่ออกมาซ๊ะที่ใหน จะไปเผาให้มันเปลืองน้ำมันทำไม ไครทำก็โง่บัดซบแล้ว รู้สึกว่าปูเค็มนี่แสดงละครเก่งไม่ใช่เล่น ตั้งแต่ตอนนอนร้องโวยวายว่าตำรวจซ้อมแล้ว บังเอิญเขาถ่ายรูปไว้ว่าไม่มีไครซ้อม

งวดนี้ ก็เลยเผาตอนตีสาม จะได้ไม่มีไครมาถ่ายรูปได้อีก ไม่งั้นดร่ามาไม่ได้ จะออกก็ออกมาเหอะ ไม่มีไครเขาว่าอะไรหรอก อย่าลีลาเหมือนอิสตรีเลย ชายชาติทหาร ทำอะไรตรงไปตรงมา มันถึงจะแมน อย่าไปนอนดิ้นร้องโวยวายว่าเขาซ้อมบนท้องถนนแบบนั้นทั้งๆที่ไม่ไครทำอะไร มันอายเขาปล่าวๆ

 อำนาจมืด ที่เป็นขวากหนาม ของ ประชาธิปไตย ตัวจริง
   เชิญกลุ่มเสื้อแดง และ ปชช. เชิญคนเสื้อแดง ที่รักประชาธิปไตย รักความยุติธรรม ต้องการให้บ้านเมืองมีมาตรฐานเดียว ออกมาอ่าน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในกระทู้นี้
   ประกาศ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้อง ออกมาช่วยกันสร้างรัง ประชาธิปไตย เป็นของเราเอง
    อำนาจมืด หรือมือที่มองไม่เห็น คนพวกนี้มันไร้ซึ่งมันสมอง พวกมันหน้ามีด ตามัว เปรียบได้เหมือนหุ่นยนต์ที่กำลังจะหมดสภาพ รีโหมดคอลโทลล์ ของผู้ที่เป็นเจ้ของหุ่นยนต์ ก็ไม่สามารถจะบังคับมันได้ เพราะสภาพของ อะไหล่บางตัวเริ่มสึกหลอ มีอยู่หนทางเดียวคือ ปชช.เท่านั้น ที่จะต้องออกมาช่วยกันกำจัด หรือทำลายมันทิ้ง
   พี่-น้อง ที่รักประชาธิปไตยที่เคารพรักครับ ท่านไม่ต้องลังเลใจหลอก การดิ้นรน ของพรรคชั่ว ปชป.ที่มันกำลังจะสิ้นแสง มันเป็นสัจธรรมที่หนีไม่พ้น เพลิงไหม้เผาผลานที่ไหนเราจะเห็นได้ว่าแสงสว่างของเพลิงมันจะรุกโชติช่วง ดูเหมือนว่าอะไรก็ไม่สามารถจะดับมันลงได้  การกระทำของ พรรคชั่ว พรรคโจร ปชป.ในขณะนี้ก็เช่นกัน จะเห็นได้ว่า พวกมันกำลังช่วยกันระดมพล ทั้งตัวการใหญ่-เล็กของพวกมัน รวมถึงผู้ที่สนับสนุนคือกลุ่มอำมาตย์ มันหน้าสังเวช ที่พวกเขายังคิดว่ามันจะต้องทำใด้สำเร็จ หวังให้ได้อำนาจ เพื่อมากลบความชั่วที่พวกมันได้สร้างเอาไว้ในแผ่นดินนี้เท่านั้น
   การที่องค์กร อิสระทุกองค์กร ที่พวกอำมาตย์เหล่านั้นได้วางรูปแบบไว้เพื่อรับใช้มัน และมันก็ได้เริ่มใช้มาในรูปแบบ ของการปฎิวัติเงียบ หากท่านไม่คิดอะไรให้ลึกซึ่ง ดูมันก็เป็นเรื่องธรรมดา

   การวางแผนของเหล่าอำมาตย์นั้น มันก็ได้ประเมินตัวของมันไว้แล้วว่า ชะตาของพวกมันกำลังจะขาด เพราะฉะนั้นการที่มันจะถอย หรือยกธงขาวนั้นมันเป็นไปได้ยาก

söndag 28 juli 2013

ภาพนายกยิ่งลักษณ์เดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์กับประเทศในแอฟริกา....




 
http://www.dailynews.co.th/politics/203513
 
ไทย-โมซัมบิก ชื่นมื่น นายกฯปู หวังปูทางความสัมพันธ์ไปสู่ประเทศในแอฟริกา

 
๒๘ - ๒๙  ก.ค.๕๖  ณ. ประเทศโมซัมบิก.

 


เดินทางถึงประเเทศโมแชมบิค




 

 

นายกฯปู เยี่ยมชมนิทรรศการงานฝีมือ ดอกไม้และอาหาร  ที่  FEIMA   สาธารณรัฐโมซัมบิก


ประธานาธิบดีโมซัมบิก  จัดพิธีต้อนรับนายกฯปู อย่างเป็นทางการ
 ณ กรุงมาปูโต สาธารณรัฐโมซัมบิก





นายกฯปู  และประธานาธิบดีสาธารณรัฐโมซัมบิก เป็นสักขีพยานพิธีลงนามความตกลง

....ระบอบราชาธิปไตย...หรือ...ระบอบภูมิพล...เป็นภัยคุกคามต่อประเทศชาติและประชาชน ไม่เพียงแต่ภายในประเทศเท่านั้นยังรวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านในขอบเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด ด้วย เช่น ประเทศ เมียนม่า มาเลเชีย และ กำพูชา เป็นต้น...



เจ้าของระบอบเผด็จการราชาธิปไตยกับเสนาบดีบดีที่ใกล้ชิด 
จะเปลี่ยนหน้า ท่าทาง เป็นอย่างไหน?
ความจัญไร ไม่เลือนลาง หรือห่างหนี
จะกี่บท เรื่องระยำ ทำอัปรีย์
พวกกาลี ที่ชั่วช้า ก็หน้าเดิม....




 

กษัตริย์ภูมิพลกับคณะเสนาบดีที่ใกล้ชิดหรือที่เรียกกันว่าพวกอำมาตย์ ได้แก่  เปรม ติณสูรานนท์  ประธานองคมนตรี   สุรยุทธ์  จุลานนท์ องคมนตรี และ อนัน ปัญญาชุน หัวหน้า  NGO. บุคคลเหล่านี้คือตัวแทนของกษัตริย์ภูมิพล ที่สามารถสั่ง ศาล สั่งทหาร กองทัพ และ รัฐบาล ให้ทำตามนโบบายของกษัตริย์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังม๊อบสารพัดอย่างไปจนถึง “ กองทัพประชาชน “ ของพวกทหารแก่นอกประจำการที่กำลังโค่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ในเวลานี้....
 
คณะองคมนตรีคือ ที่ปรึกษาของกษัตริย์  ที่เป็นรัฐบาลตัวจริง มีอำนาจเด็จขาดปกครองประเทศอยู่ในเวลานี้ มีทั้ง หมด ๑๘ คน  บุคคลเหล่านี้จะได้รับคำสั่งโดยตรงจากกษัตริย์ภูมิพล 
เราจึงเรียกระบอบการปกครองนี้ว่าระบอบราชาธิปไตย หรือ ” ระบอบภูมิพล “ คือเป็นระบอบกษัตริย์เผด็จการ


นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยหัวหน้าคณะรัฐบาลทีมาจากการเลือกตั้งของประชาชน  แต่ไม่มีอำนาจต้องสยบหัวอยู่ใต้เท้าของลูกสาวของกษัตริย์ภูมิพล เจ้าของระบอบเผด็จการที่โหดเหี้ยมอำมหิตที่สุดแห่งยุค  สั่งฆ่าประชาชนชาวไทยมาอย่างยาวนานไม่รู้กี่ร้อยกี่พันศพ  บาดเจ็บและล้มตายอีกไม่รู้เท่าไหร่  คตโกงประเทศชาติจนร่ำรวย เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก  ทำให้ประเทศหล้าหลัง ไม่มีประชาธิปไตย สังคมแตกแยกออกเป็น สองมาตรฐาน ประชาชนไม่มีสิทธิเสรีภาพ บังคับให้คนจงรักภัคดี ใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม ม. ๑๑๒ ปกครองประเทศ สนับสนุนให้ทหารยึดอำนาจ  มาอย่างน้อย ๑๘ ครั้งตั้งแต่กษัตริย์องค์นี้ขึ้นครองราชย์  ข่มเหงรังแกประชาชนขับไล่นายกรัฐมนตรีที่ตนเองไม่ชอบออกนอกประเทศ  ตั้งแต่  ดร. ปรีดี พนมยงค์ มาจนถึง ดร. ทักษิณ ชินวัตร....