พอใครถึงตัวนายกฯก่อนก็เข้าไปกอดก่อนแล้วร้องไห้ ร้องกันทุกคน ยิ่งลุงที่โดนทหารตี พูดกับนายกฯว่า คิดถึงพี่ชายคุณ เราจึงบอกนายกยิ่งลักษณ์ว่า ลุงหมายถึงนายกฯทักษิณน่ะค่ะ เพราะลุงลิ้นแข็งพูดได้ไม่ชัด พร้อมทั้งร้องไห้แล้วเอามือข้างที่งอนั้น ทุบที่ตรงหัวใจ แล้วบอกว่า อยู่ในนี้ยังไงก็ไม่มีวันลืม
นายกฯร้องไห้แล้วพูดว่า นายกทักษิณก็คิดถึงพวกเราเหมือนกัน
เวลาประมาณ 14.30 น. 24 กรกฎาคม ญาติผู้เสียหาย ได้รับการประสานเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี
ทำเนียบรัฐบาล ห้องสีเขียว
แรกที่เราเห็นชื่อห้องยังคุยกันว่า สีของห้องมีนัยยะอะไรป่าว?
ประมาณว่า ถ้าไม่มีสีนี้หนุน จะไม่สามารถเป็นรัฐบาลได้ แล้วก็นั่งหัวเราะกัน
สักพักประมาณ 15 นาที นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เดินทางมา โดยส่งรอยยิ้มและยกมือไหว้ไปทั่วทุกคน
จากนั้นกองทัพนักข่าวก็กดชัตเตอร์รัวจนเรานึกว่านั่งอยู่อนุุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 10 เม.ย 53
สักพักหลังจากนักข่าวถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจแล้ว คุณหนุ่ย(การ์ดประจำตัวตั้งแต่สมัยนายกทักษิณ)ซึ่งคุ้นหน้ากันดี ก็ขอร้องให้นักข่าวไปรอด้านนอก จากนี้ เป็นการเจรจาโดยรวมที่นายกได้คุยกับแม่น้องเกด
เป็นคนแรก.........................
แม่น้องเกด-เรื่องพรบ.ขอให้นายกรับพิจารณา ร่างพรบ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ด้วย เพราะตั้งใจร่างเพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชนทุกฝ่ายที่สูญเสียจริงๆ
โดยนายกรับว่า ตอนนี้ คุณพงษ์เทพ เทพกาญจนา กำลังศึกษาในข้อที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้อยู่ เสร็จเมื่อไหร่ จะมาชี้แจงรายละเดียดโดยเร็ว เพราะเข้าใจถึงครอบครัวที่สูญเสีย เพราะถ้าใครไม่โดนกับตัวจะไม่มีวันเข้าใจ เช่นครอบครัวดิฉันว่าเจ็บปวดอย่างไร?
พอพูดเช่นนี้ขึ้นมา บรรยากาศในห้องก็เต็มไปด้วยความอัดอั้น น้ำเสียงครือขอบตาแทบทุกคนเริ่มแดง เข้าใจในกันและกันทันที
-ทางพ่อน้องเฌอ อธิบายว่า พรก.ของวรชัย เหมะ และ พรบ.ฉบับญาติที่สียหายมีแตกต่างกันแค่ 3 ข้อ คือพรบ.ของญาติผู้สูญเสีย เขียนระบุไปเลยว่า
ก.เป็นการครอบคลุมการกระทำทางการเมืองตั้งแต่ รัฐประหาร 2549 โดยนิรโทษกรรมให้กับประชนทุกสีเสื้อ และ สำหรับผู้ที่ต้องไปติดคุกติดตะรางนั้น รัฐบาลจะต้องจ่ายเงินทดแทนให้เท่ากับที่ทางกฏหมายได้เขียนกำกับไว้ เพราะถือเป็นผลพวงทางการเมือง
ซึ่งข้อนี้ ฉบับ วรชัย เหมะ ไม่มี
ข.การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำนอกเหนือคำสั่งการสลายการชุมนุมในหลักสากล ที่ให้ ยิงต่ำกว่าเข่า ยิงขึ้นฟ้า ตามคำสั่ง ศอฉ. ทหารที่ละเมิดคำสั่ง ยิงศพละเป็น 10 นัด หรือ ยิงนัดเดียวเข้าศีรษะ แล้วเสียชีวิตทันทีเป็นจำนวนหลายรายนั้น ฉบับนี้ไม่นิรโทษกรรมให้เพราะถือเป็นการเกินกว่าเหตุ
ซึ่งฉบับ วรชัย เหมะ นิรโทษกรรมยกเข่ง
ค.คุ้มครองการวางเพลิงในสถานที่เอกชน หมายถึงในสถานที่ราชการ ใครวางเพลิงถือว่าไม่มีความผิด เพราะเป็นการต่อสู้กับภาครัฐ รัฐเป็นคู่กรณีกับประชาชน เมื่อประชาชนโกรธแค้นรัฐบาลที่ยิงพวกเขา พวกเขาจึงต้องตอบโต้ ไม่ถือเป็นความผิด เพราะยุค 14 ตค.19 หรือ วันที่ 17 พค. 35(พฤษภาทมิฬ) ก็มีการวางเพลิงทั้งสิ้น
แล้วก็มีกฏหมาย นิรโทษกรรมให้ประชาชน เช่นกัน
ซึ่งข้อนี้ ฉบับ วรชัย เหมะ ไม่มี (สำหรับกรณีนี้ คนที่เผาเซ็นทรัลเวิลล์ ต้องมีความผิด และทางศาลได้ตัดสินคนเสื้อแดงแล้ว โดยยกฟ้องทุกคดี)
แต่หากในอนาคตจับตัวสอบแล้วตัดสินว่า ผู้ใดเผา ผู้นั้นต้องได้รับโทษ เพราะพวกเรามันพ้นผิดไปหมดแล้วจาก ทุกคดี ที่ศาลยกฟ้อง แล้วพวกต่างจังหวัดที่โดนข้อหา เผาศาลากลาง ยิ่งไม่มีความผิด เพราะนั่นเป้นการเผา สถานที่ราชการ ซึ่ง พรบ.นี้ระบุ ไม่มีความผิด)
ซึ่งทั้งหมดนี้ ฉบับ วรชัย เหมะ ไม่มี.
เมื่อได้อธิบายให้นายกฟังเป็นที่เข้าใจแล้ว นายกรับปากว่า อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งที่ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม ท่านยินดีสนับสนุนเสมอ เพราะพรรคเพื่อไทย มีนโยบายทำงานเพื่อรับใช้ประชาชนอยู่แล้ว
พูดจบประโยคนี้ ญาติผู้เสียหายตบมือกันใหญ่
-เรื่องเยียวยา แม่น้องเกดแจ้งนายกว่า มีประชาชนคนเสื้อแดงทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดกำลังลำบากอย่างมาก นายกแย้งมาเลยว่า ก็อาจารย์ตุ้มกับอาจารย์หวานมาทำเรื่องไว้แล้วไง (ประโยคนี้ได้ยินเต็มสองหู ได้ยินกันทั้งห้อง เพราะนายกตอบสวนกลับมาด้วยเสียงค่อนข้างดัง)
นายกจึงบอกให้ส่งแฟ้มของผู้เสียหายทั้งหมดกับคุณสุภรณ์ (แรมโบ้) เป็นผู้รับเรื่อง แล้วคอยจี้ถามได้เลย
พร้อมทั้งบอกเคส.ที่ตาใกล้บอดทั้ง 2 ข้าง 1 คนซึ่งแม่่น้องเกดประสานมาพบนายกด้วย โดยเขายกมือไหว้นายก
แล้วบอกว่า ตาเขาบอดขนาดนี้ แต่ธงทอง แทงเรื่องว่า บาดเจ็บเล็กน้อย ได้เงินเยียวยามานิดหน่อย เขาเอาลูกสาวมาด้วย 2 คน ได้พูดคุยอธิบายกับนายก
แล้วแม่น้องเกดเล่าให้ฟังว่า เคยเอาเคส.นี้ไปถามเรื่องที่ธงทองว่าทำไมหาว่าเขาบาดเจ็บเล็กน้อย ธงทองมันตะคอกใส่หน้า แม่น้องเกด เลยว่า ทั้งหมดมันมีอำนาจในการพิจารณาต่อให้นายกก็มาสั่งมันไม่ได้
พอได้ยินแบบนี้ นายกก็ก้มหน้าเอามือทั้งสองข้างปิดหน้า น้ำตาไหล แล้วพูดว่า ทำไมทำกันแบบนี้(คนของธงทองมันมานั่งฟังไปรายงานด้วย นั่งอยู่หลังแม่น้องเกดพอดี หน้ามันเหลือ 2 นิ้ว ไม่กล้าสบตาใครเลย.)
จากนั้นเป็นการคุยเรื่อง ปลีกย่อยต่างๆแล้วพวก ญาติผู้เสียหายขออนุญาต ถ่ายรูปกับนายก นายกบอกว่าเข้ามาเลยค่ะ มาถ่ายเลย พอใครถึงตัวนายกก่อนก็เข้าไปกอดก่อนแล้วร้องไห้ ร้องกันทุกคน ยิ่งลุงที่โดนทหารตี พูดกับนายกว่า คิดถึงพี่ชายคุณ เราจึงบอกนายกยิ่งลักษณ์ว่า ลุงหมายถึงนายกทักษิณน่ะค่ะ เพราะลุงลิ้นแข็งพูดได้ไม่ชัด พร้อมทั้งร้องไห้แล้วเอามือข้างที่งอนั้น ทุบที่ตรงหัวใจ แล้วบอกว่า อยู่ในนี้ยังไงก็ไม่มีวันลืม
นายกร้องไห้แล้วพูดว่า นายกทักษิณก็คิดถึงพวกเราเหมือนกัน ทุกคนเข้าไปพูดกับนายกในสิ่งที่อยากให้พรรคเพื่อไทย ทำเพื่อประชาชนคนละประโยค จำไม่ได้ว่าใครพูดอะไรมั่ง จนหมดทุกคนแล้ว เราจึงเดินเข้าไปจับมือนายกแล้วบอกว่า
ขอให้พรรคเพื่อไทยเลิกสนับสนุนนักการเมืองที่เลว เพราะจะทำแต่สิ่งเสียหายให้กับพรรค นายกบอกว่าได้ซิคะ
อยู่จังหวัดไหนเหรอ? เราจึงบอกไปว่าเราอยู่ กรุงเทพฯ แล้วมีใครไม่รู้ตะโกนบอกนายกว่าคนนี้สู้มาตั้งนานแล้วท่าน ไม่แน่ใจว่าทีมงานของนายกคนไหนพูดขึ้นมาเพราะไม่ได้หันไปมองจนเสร็จสิ้นก็พากันกลับ
เราจึงพอสรุปได้ว่า ขนาดนายก ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย อยู่ในประเทศนี้แท้ๆ เห็นมีคนมาขอ มีรูปมีหลักฐานก็คงให้เงินไป แต่ไม่เคยรู้เลยว่า เงินนั้นมันไม่เคยมาถึงมือเสื้อแดงผู้เสียหายแม้สักนิด
ยิ่งนายกทักษิณ อยู่เมืองนอกจะได้รู้อะไรมั่งไหมเนี่ย? ใครจะให้มวลชนทำอะไร ก็บอกว่า นายกทักษิณสั่งให้ทำทั้งนั้น เริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไม?จึงมี นักการเมืองในพรรคโจมตี ทางฝ่ายเรามากมาย เพราะไปเหยียบทับเส้น ผลประโยชน์ พวกเขานี่เอง
แต่ขอโทษนะ ใครเคยทำแบบนี้ป่านนี้คงหนาวๆร้อนๆ เพราะนายกรับทราบความจริงทั้งหมดแล้ว.
แค่นี้ พวกเราก็พอใจ จึงยกเรื่องนี้ให้สังคมได้ตัดสิน ว่าสิ่งที่เราทำลงไปทุกอย่าง ไม่ใช่เพื่อประชาชนหรอกหรือ?
ที่จะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์.
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar