แถลงการณ์ฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์:ประเทศไทย(ต้อง)ไม่นิรโทษกรรมแก่ผู้ละเมิดสิทธิ
ประเทศไทย : (ต้อง) ไม่นิรโทษกรรมแก่ผู้ละเมิดสิทธิ
ร่างกฏหมายที่เสนอจะสร้างรั้วล้อมปกป้องให้แก่ทางปฏิบัติของการอยู่เหนือความผิด
“ร่างกฏหมายนิรโทษกรรมของพรรครัฐบาลยอมให้ทั้งทหาร
และกองกำลังติดอาวุธที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตระหว่างเหตุการณ์รุนแรงปี ๒๕๕๓ หลุดจากบ่วงความผิด
ดังนั้นเพื่อที่จะให้เกิดความยุติธรรมต่อผู้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง
และเพื่อจะยุติแนวทางปฏิบัติอันยาวนานของไทยที่ยอมให้บางคนอยู่เหนือความผิด
ร่างกฏหมายนิรโทษกรรมควรที่จะละเว้นไม่รวมถึงคนที่ลุกล้ำกระทำความผิด ละเมิดกฏหมายทางอาญา
และนำคนเหล่านั้นมารับผิดต่ออาชญากรรมของตน”
โดย แบร๊ด แอดัมส์ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเซีย ฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์
(นิวยอร์ค) –ฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์*แถลงวานนี้ว่า
ข้อเสนอกฏหมายนิรโทษกรรมต่อสภาผู้แทนราษฎรของประเทศไทยควรที่จะละเว้นคนที่สั่งการ
หรือปฏิบัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน รัฐบาลไทยควรจะแสดงจุดยืนในการที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนร่วมในการละเมิดสิทธิ
โดยไม่คำนึงว่าเขามีตำแหน่ง หรือสังกัดใด
นี่เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการสร้างเสริมสิทธิมนุษยชน นิติธรรม
และการปรองดองอันยั่งยืน
ในประเทศไทย ในวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ รัฐสภาจะทำการพิจารณาเป็นวาระแรกต่อร่างกฏหมายนิรโทษกรรมที่เสนอโดยนายวรชัย เหมะ ส.ส.พรรครัฐบาลเพื่อไทยของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ในประเทศไทย ในวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ รัฐสภาจะทำการพิจารณาเป็นวาระแรกต่อร่างกฏหมายนิรโทษกรรมที่เสนอโดยนายวรชัย เหมะ ส.ส.พรรครัฐบาลเพื่อไทยของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร
“ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรครัฐบาลยอมให้ทั้งทหาร
และกองกำลังติดอาวุธที่เป็นผู้กระทำให้เกิดการเสียชีวิตในระหว่างความวุ่นวายปี
๒๕๕๓ หลุดพ้นบ่วงความรับผิดชอบไปได้” นายแบร๊ด แอดัมส์ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเซียขององค์การฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์กล่าว
“เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความยุติธรรมแก่ผู้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง
และเพื่อยุติแนวทางปฏิบัติอันเป็นมาช้านานในการยอมให้มีคนอยู่เหนือความผิด ร่างฯ
นิรโทษกรรมควรที่จะไม่รวมถึงคนที่ลุกล้ำกระทำความผิดทางกฏหมายอาญา
และนำคนเหล่านั้นมาดำเนินคดีตามความผิดแทน”
ร่างฯ วรชัยเสนอนิรโทษกรรมอย่างกว้างขวางแก่ผู้ร่วมชุมนุมทั้งหมดที่ถูกกล่าวหา
ดำเนินคดี
และพิจารณาตัดสินการกระทำอันเป็นความผิดต่อรัฐตั้งแต่หลังการรัฐประหารที่โค่นพี่ชาย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙
จนถึงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔
การนิรโทษกรรมจะรวมถึงบุคคลที่กระทำการอันก่อความเสียหายแก่ชีวิต
ทรัพย์สินของผู้อื่น แต่ไม่รวมถึงแกนนำผู้ชุมนุม
นายวรชัยบอกกับฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ว่าร่างกฏหมายที่เขาเสนอไม่ได้รวมถึงการนิรโทษกรรมแก่บรรดาทหาร เนื่องจากไม่มีทหารแม้แต่คนเดียวที่โดนกล่าวหา และดำเนินคดีสำหรับความรุนแรงทางการเมืองจากปี ๒๕๔๙ ถึง ๒๕๕๔
นายวรชัยบอกกับฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ว่าร่างกฏหมายที่เขาเสนอไม่ได้รวมถึงการนิรโทษกรรมแก่บรรดาทหาร เนื่องจากไม่มีทหารแม้แต่คนเดียวที่โดนกล่าวหา และดำเนินคดีสำหรับความรุนแรงทางการเมืองจากปี ๒๕๔๙ ถึง ๒๕๕๔
ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ๒๕๕๓ เกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองกันอย่างร้ายแรงระหว่างแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
(นปช.) ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่า ‘เสื้อแดง’ กับรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ ในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ หลายแห่ง ตามข้อมูลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
(ดีเอสไอ) มีผู้เสียชีวิต ๙๘ คน และบาดเจ็บกว่า ๒ พัน
ข้อเสนอของวรชัยผิดพลาดที่จะเอ่ยถึงความจำเป็นต้องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่กองทัพ
และเครือข่ายของ นปช. โดยเฉพาะกองกำลัง ‘คนเสื้อดำ’ ต่อความรุนแรง
และการละเมิดอย่างหนักหน่วงในปี ๒๕๕๓
ในรายงานชิ้นหนึ่งของฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์ชื่อ "เคลื่อนใกล้เข้าสู่ความระส่ำระสาย
:การประท้วงของเสื้อแดงในปี ๒๕๕๓ กับการเข้าสลายชุมนุมโดยรัฐบาล" สรุปว่ามีการใช้กำลังอย่างไม่จำเป็นเกินกว่าเหตุโดยกองทัพบก
เป็นผลให้คนตาย และบาดเจ็บจำนวนมากระหว่างการปะทะทางการเมืองในปี ๒๕๕๓
กองกำลังรักษาความมั่นคงเป็นฝ่ายมีความผิดในการตาย และบาดเจ็บเหล่านี้เป็นส่วนใหญ่
จำนวนผู้เสียชีวิตมากมาย –รวมถึงผู้เข้าชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ
อาสาสมัครทางการแพทย์ และผู้ที่ปฏิบัติตามประกาศช่วงแรกๆ ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ
และคนที่ไปดูเหตุการณ์อย่างไทยมุง อันเป็นผลทางอ้อมจากปฏิบัติการ ‘ใช้กระสุนจริง’
ในบริเวณที่มีการชุมนุมของ นปช. ทั่วกรุงเทพฯ
ซึ่งกองทัพบกวางกำลังพลยิงเร็ว และสไน้เปอร์เอาไว้
กรม
สอบสวนคดีพิเศษแถลงในเดือนกันยายน ๒๕๕๕
ว่ากองทัพเป็นฝ่ายทำให้เกิดการเสียชีวิต ๓๖ ราย จนกระทั่งบัดนี้มีเพียง ๙
สำนวนเท่านั้นที่ส่งฟ้องศาล หรือขอให้ทำการพิสูจน์หลักฐาน
ผู้เสียหายห้ารายที่เสียชีวิตเกิดจากการยิงให้ถึงตายของทหารที่ได้รับคำสั่ง
ฆ่าจากศูนย์อำนวยการรักษาสถานการณ์ฉุกเฉิน
(ศอฉ.)
รัฐบาลชุดต่อมาก็ยังละเลยที่จะเอาผิดกับฝ่ายทหาร
โดยที่ไม่มีแม้แต่ทหารคนเดียวที่ได้รับการดำเนินคดีจากการกระทำรุนแรงในปี ๒๕๕๓
หลังจากเข้ารับตำแหน่งเพียงเล็กน้อย นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ประกาศต่อสาธารณะว่ารัฐบาลของเธอจะทำการสอบสวน และดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความมั่นคงที่กระทำการละเมิดเหล่านั้น
แต่
ว่าตั้งแต่นั้นมารัฐบาลของเธอได้ประกาศซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเจ้าหน้าที่กองทัพจะ
ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นระหว่างการส่งกำลังเข้าสลายการ
ชุมนุมโดยรัฐบาล
แม้ว่าหลักฐานปรากฏชัดเจนล้นหลามว่าทหารยิงประชาชนตายทั้งที่ไม่ได้ปรากฏภัย
คุกคามใดเลย
ทั้งๆ
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษพบว่ากองทัพเป็นผู้รู้เห็นกับการเสียชีวิต ๓๖ ราย จากการสืบสวนของหน่วยงานดีเอสไอ
กับตำรวจ และผลการสอบสวนแสดงว่าไม่ได้มีความพยายามมากพอที่จะดำเนินการชี้ตัวทหาร
และผู้บังคับบัญชาซึ่งรับผิดชอบต่อการยิงประชาชน เมื่อได้รับผลการสอบสวนแล้วดีเอสไอตัดสินใจดำเนินคดีฐานทำให้มีการเสียชีวิตแต่เฉพาะกับนายอภิสิทธิ์
และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีขณะนั้น แต่ละคนโดนฟ้องในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาเนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ
ตามบทบัญญัติที่เปิดช่องให้ดำเนินคดีแก่ผู้บังคับบัญชาในความผิดที่ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำ
ร่างนิรโทษกรรมของนายวรชัยจะอำนวยความคุ้มกันให้ปลอดจากการถูกดำเนินคดีแก่เครือข่ายภายใน
นปช. รวมทั้ง ‘กองกำลังเสื้อดำ’ ที่รับผิดต่อการโจมตีด้วยอาวุธถึงตายต่อทหาร
ตำรวจ และพลเรือน กองกำลังเหล่านี้ควรที่จะมีการสอบสวน ชี้ตัว และดำเนินคดีด้วยความเหมาะสม
แกนนำ นปช.
ที่โหมกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงด้วยคำปราศรัยเร่งเร้ายุยงต่อผู้ชุมนุม กระตุ้นให้พวกเขากระทำการวางเพลิง
และปล้นสะดม ก็ควรที่จะต้องถูกเอาผิดด้วย
ฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์บอกว่าสภาวะของการสอบสวนข้อหาทางอาญาของกองกำลังเสื้อดำขณะนี้ยังไม่กระจ่างนัก
กรมสอบสวนคดีพิเศษตอนนี้ก็ไม่เอ่ยอีกต่อไปถึงผังรายชื่อซึ่งระบุตัวผู้ต้องหากองกำลังเสื้อดำ
และโยงความรับผิดชอบไปสู่เหตุความรุนแรงในปี ๒๕๕๓ ที่เคยแสดงต่อสื่อบ่อยๆ เมื่อนายอภิสิทธิ์ยังอยู่ในอำนาจ
ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต และบาดเจ็บในการเข้าสลายการชุมนุมอ้างว่าพวกเขาประหวั่นกันว่าผู้ที่ควรต้องรับผิดชอบจะไม่ถูกดำเนินคดีกัน
ตรงข้ามกับภูมิหลังดังกล่าวญาติผู้เสียหายบางรายได้เสนอร่างกฏหมายอีกฉบับที่ระบุไว้ชัดแจ้งว่าการกระทำแบบใดจึงจะได้รับนิรโทษกรรม
ในข้อเสนอกฏหมายของญาติผู้สูญเสียจะไม่ครอบคลุมถึงผู้ชุมนุมที่ใช้ความรุนแรง
หรือละเมิดสิทธิ ร่างกฏหมายดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้มีการฟ้องร้องคดีแก่บุคคล
หรือกลุ่มซึ่งสังหารประชาชน หรือทำให้ทรัพย์สินส่วนตัวเสียหายด้วย
พรรคเพื่อไทยของนายกรัฐมนตรี และ นปช.ได้ปฏิเสธไม่ต้องการให้การสนับสนุนแก่ร่างกฏหมายของฝ่ายญาติผู้สูญเสีย
ถึงขณะนี้กลุ่มญาติผู้สูญเสียยังไม่สามารถหารายชื่อสมาชิกสภาที่มาร่วมลงนามสนับสนุนร่างได้ถึง
๒๐ คนให้พอกับจำนวนที่ต้องการตามระเบียบการยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้รับพิจารณา
“ร่างนิรโทษกรรมฉบับวรชัยนี้เป็นการหยามหมิ่นต่อผู้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในปี
๒๕๕๓ และครอบครัวของพวกเขา” นายแอดัมส์กล่าว “มันเป็นเรื่องรับไม่ได้อย่างยิ่งที่ผู้กระทำการละเมิดอย่างร้ายแรง
รวมถึงทหารที่เหนี่ยวไกยิง กับผู้บังคับบัญชาที่สั่งยิง
จะยังคงไม่ถูกแตะต้องเนื่องจากการนิรโทษกรรม”
*หมายเหตุ ฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์ (Human Rights Watch) คือองค์การยามเฝ้าสิทธิมนุษยชน
ซึ่งในที่นี้เขียนทับศัพท์อังกฤษเนื่องจากเป็นที่รู้จักกันดี
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar