2020-07-13 05:55
ยืนยันไม่ขัดแย้งกับพรรค แม้ถูกไล่จากหัวหน้า-เลขาธิการ ถามจริงมีใครเชื่อบ้าง เพราะต่างฝ่ายต่างซัดกันหนัก ไม่กี่วันก่อน ส.ส.สันติ กีระนันทน์ ก็ทำให้ชาวบ้านหัวร่อก๊าก เมื่อโพสต์ว่า เสื้อผ้าอาภรณ์ เครื่องสำอาง โบท็อกซ์ บิ๊กอาย ไม่สามารถปกปิดสันดานต่ำทราม
ความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ เป็นเรื่องจี้เส้นสนุกสนาน สำหรับท่านผู้ชม โดยเฉพาะฝั่งประชาธิปไตยที่นั่งดูบนภู ทีมตู่ Vs ทีมตู่ แยกพวกซัดกัน ทีมสมคิด-สี่กุมาร สร้างภาพเป็นคนดี นักการเมืองอีกฝั่งเป็นเสือหิวเสือโหย จ้องจะงาบ แล้วดูเหมือนกระแสสื่อ กระแสโพล คนรักตู่ ก็คล้อยตาม รุมกระหน่ำราวกับพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคทักษิณก่อนรัฐประหาร
แต่ก็ยังไม่รู้สึกรู้สา ยังมี ส.ส.ออกมาเชิดชูธรรมนัส เป็นเสาหลักของพรรค สมควรรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ น่าชื่นชมในความมาดมั่นไม่แคร์สื่อ
ซูเปอร์โพลเพิ่งออกผลสำรวจ “ถ้าวันนี้เลือกตั้งพรรคใดชนะ” พบว่าพรรคก้าวไกลคะแนนเพิ่มอยู่พรรคเดียว พปชร. หายไปครึ่งหนึ่ง 16.6 เหลือ 8.3 ประชาธิปัตย์ 11.7 เหลือ 8.7 แต่มีสื่อเอาไปพาดหัวข่าว “ปชป.คะแนนเหนือพรรคร่วมรัฐบาล”
เท่านั้นแหละ พรรคเอาดีใส่ตัวก็ตีปี๊บ ปลาบปลื้มน้ำตาไหล ขอบคุณประชาชนเห็นผลงาน แม้เหลือ ส.ส. 52 คนพิสูจน์ให้เห็นคุณภาพ ทีมอเวนเจอร์จะออนทัวร์ ไปพบพี่น้องทั่วประเทศ
ฮาอะไรปานนั้น ไม่เกรงใจพรรคร่วมก็เกรงใจประยุทธ์บ้างเป็นไร
แล้วประยุทธ์จะทำอย่างไร จะปรับ ครม.เมื่อไหร่ จะยังเอาสมคิดกับสี่กุมารไว้ไหม ใช่ละ ประยุทธ์มีอำนาจล้นเหลือ สามารถยื่นคำขาด กันโควตากลางไว้ให้ทีมเศรษฐกิจ แต่เมื่อแตกหักถึงขั้นนี้ จะร่วมรัฐบาลกันได้อย่างไร สมัยหน้า ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายคนใดคนหนึ่ง ก็ตายแหงแก๋เพราะพรรคไม่ยกมือให้
แล้วจะหาทีมใหม่ที่ไหน นอกจาก “ใส่บิ๊กอายคุมทีมเศรษฐกิจ นางฟ้าแก้วิกฤต ดร.แหม่ม ครบรสอึดถึกทน” เทคโนแครตคนไหนอยากจะเข้ามา ไม่ใช่แค่วิบัติอยู่ข้างหน้า จีดีพีติดลบ 8-10% คนตกงาน 8 ล้านคน แต่แรงกดดันทาง การเมือง การแก่งแย่งตำแหน่ง ชิงดีชิงเด่น นี่ต่างหากที่ทำให้คนนอกไม่อยากร่วมรัฐบาล
มองทางไหนจึงเห็นแต่ทางตัน ไม่ใช่แค่รัฐบาลประยุทธ์หรอก คนไทยทั้งประเทศนี่แหละ ตกอยู่ภายใต้ชะตากรรมเดียวกัน หัวเราะไปก็เท่านั้น เพราะไม่รู้จะทำอะไรได้
รัฐบาลกำลังนับถอยหลัง แต่มองไม่เห็นทางออก ปรับ ครม.อย่างไรก็ไปไม่รอด ภายใต้เงื่อนไขการเมืองแบบนี้ เอาเทวดาที่ไหนมานำทีมเศรษฐกิจ ก็แก้ไม่ตก เพราะการจัดงบประมาณ การจัดลำดับความสำคัญของรัฐ ยังมุ่งไปที่ “ความมั่นคงของชาติ” สำคัญกว่าการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ความคิดชี้นำ ล้าหลัง ภายใต้กองทัพ รัฐราชการ ไม่สามารถรับมือวิกฤตหลัง โควิด ที่โลกจะเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่เอาแต่คิดว่าอีก 1-2 ปี การส่งออกท่องเที่ยวจะกลับมาเหมือนเดิม
มีทางอื่นไหม สมมติประยุทธ์ยุบสภาลาออก แล้ว 250 ส.ว.ไม่เลือกกลับมาใหม่ หรือประยุทธ์ถอดใจ ประกาศไม่ไป ต่อแล้ว
นั่นเรื่องใหญ่เลยนะ แปลว่าเครือข่ายอำนาจอนุรักษนิยมพลิกผัน เห็นตรงกันว่าตู่ไม่ไหวแล้ว ต้องเปลี่ยนคนใหม่ แต่จะเอาใคร? แล้วจะยุบสภาให้เลือกตั้งใหม่ หรือแค่ลาออกโดยใช้สัดส่วนพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ในองค์ประกอบอย่างนี้ ใครอยากนั่งเก้าอี้ร้อนเป็นไฟ
สมมตินะครับ สมมติ เพราะในอดีต พล.อ.เกรียงศักดิ์ก็เคยลาออกกลางสภา แล้ว ส.ว.ทหารหันมาหนุนป๋าเปรม แต่สถานการณ์มันไม่เหมือนกัน
จากรัฐบาลหอยถึงเกรียงศักดิ์ ถึงเปรม มันมีความเปลี่ยนแปลงเป็นลำดับขั้น เกรียงศักดิ์รัฐประหารรัฐบาลหอย สร้างความปรองดองสมานฉันท์ระดับหนึ่ง แล้วจึงมีเลือกตั้ง แล้วไปไม่รอด จึงส่งต่อให้เปรมมาเป็นคนกลาง แต่สถานการณ์วันนี้เครือข่ายอนุรักษนิยมมีแต่ถอยหลัง ไม่เห็นทิศทางปรองดองสมานฉันท์
ตู่ไม่ใช่เกรียงศักดิ์ ตู่ไม่ถอยง่ายๆ แล้วฝ่ายอนุรักษนิยมก็ไม่มีทางปรองดองกับฝ่ายประชาธิปไตย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ “พวกชังชาติ” เพราะพลังอนุรักษนิยมอยู่ได้ด้วยการปลุกความเกลียดชัง กระทั่งหาว่า “ไพร่หมื่นล้าน” อมเงินบริจาค 45,000 บาทก็ยังปั่นได้
นี่คือยกตัวอย่าง ติ๊งต่าง ว่าแม้รัฐบาลนับถอยหลัง ก็ยังทางตัน เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ภายใต้โครงสร้างอย่างนี้ ประยุทธ์ ลาออก ก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มั่นคง มีฝีมือ ภายใต้กติกาอย่างนี้ ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ใช้ระบบบัตรใบเดียว สูตรเศษมนุษย์ ตัดสินโดยองค์กรอิสระที่ประชาชนหมดความเชื่อถือ ก็มีแต่จะเละไปใหญ่
ประชาชนไม่มีทางเลือกอะไรหรอก นอกจากนั่งดู หัวเราะ แล้วก็ทำใจยอมรับชะตากรรม
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/hot-topics/news_4470295
“ช่องส่องผี” อ้างว่ามีญาณวิเศษ ตายแล้วฟื้น ติดต่อกับวิญญาณได้
เอากล้องไปส่องหาผีตามสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
ชี้คนโน้นคนนี้ว่ามีอดีตชาติ
ทำให้คนดูซาบซึ้งน้ำตาไหล แต่ประวัติศาสตร์นอกตำราที่อ้าง เลอะเทอะผิดความจริง ทึกทักยิ่งกว่านิยาย แถมยังหารายได้จากการดูดวง สะเดาะเคราะห์ ขายเหรียญ พร้อมเรี่ยไร จนเกิดกระแสเรียกร้องให้เอาผิด ฐานบิดเบือนประวัติศาสตร์ หลอกลวงมอมเมา แพร่ความเท็จเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ฯลฯ
แต่ถามจริง บ้านนี้เมืองนี้ ที่ทำให้คนหลงเชื่อ ซาบซึ้ง งมงาย แล้วหาเงินจากการดูดวง สะเดาะเคราะห์ ขายเหรียญ เรี่ยไร มันมีแต่ช่องส่องผีหรือ
ยิ่งถ้าพิสูจน์ได้ว่า ส่วนที่เป็นการเรี่ยไร เอาเงินให้วัดทุกบาททุกสตางค์ ไม่ได้เอาเข้าพกเข้าห่อ ก็เอาผิดฐานฉ้อโกงไม่ได้ เพราะการดูดวง สะเดาะเคราะห์ เป็นความสมัครใจ เกจิทั้งหลาย ไม่ว่าโด่งดังออกทีวี หรือปูเสื่อใต้ต้นมะขาม ก็หากินจากความเชื่อของคนทั้งนั้น
ในประเทศที่รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์นวัตกรรม รัฐมนตรีดิจิทัล สถาบันแสงซินโครตอน ฯลฯ ยังดูฤกษ์ยามบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ แล้วคุณจะไปเอาผิด อ.เรนนี่หลอกลวงมอมเมา?
บิดเบือนประวัติศาสตร์ ก็ใช่เลย ทึกทักเรื่อยเปื่อย อดีตชาติผู้กองเบนซ์เป็นนักรบบางระจัน ลูกนายจันทร์หนวดเขี้ยว ส่งให้ไปหาพระเจ้าตากที่จันทบุรี ขุนแผนเป็นญาติกับขุนวรวงศาธิราช พาเข้าวัง จนเจอแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ วัดกุฎีดาวสร้างสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ถูกพม่ายิงปืนใหญ่ใส่เจดีย์หัก ฯลฯ (กระนั้นชาวบ้านส่วนหนึ่งก็บอกว่าดีนะ ทำให้คนเที่ยววัดเยอะ ค้าขายรุ่งเรือง)
แต่บิดเบือนประวัติศาสตร์ผิดตรงไหน วิษณุพูดถูก ไม่มีกฎหมายเอาผิด เพราะประวัติศาสตร์ต้องเปิดกว้าง ให้ค้นคว้าหาหลักฐานมาโต้แย้งตำราเดิมได้ ถ้าไม่มีการโต้แย้ง เราก็คงยังเชื่อว่าคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไต เหมือนหนังสือเรียนสมัยตู่เป็นเด็ก
พูดอีกอย่างคือ ตำราประวัติศาสตร์ที่ใช้เรียนกัน อาจไม่ตรงความจริงก็ได้ เพราะมีทั้งจดหมายเหตุ ตำนาน เรื่องเล่า ส่วนต่อขยายที่อาจเป็นนิยาย กฤษฎาภินิหาร ฉะนั้นคนรุ่นหลังมีสิทธิตั้งคำถามค้นคว้า เช่นที่ถกเถียงกันว่าพระนเรศวรยิงปืนข้ามแม่น้ำสะโตงได้จริงหรือไม่
ใช่เลย ประวัติศาสตร์แบบช่องส่องผีโคตรเว่อร์ เหลวไหล แต่ถ้าเอากฎหมายเอาอำนาจรัฐไปจับ ก็ไม่ต่างจากสำนักพุทธสั่งแก้ภาพส้มหยุด สิตางศุ์
สำคัญคือบางครั้ง ก็รัฐนั่นเองบิดเบือน วิษณุบอกว่าเป็นหน้าที่ของกองประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร จะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง อ้าว กรมศิลปากรไม่ใช่หรือที่แต่งหนังสือ “ประวัติศาสตร์ชาติไทย” บอกว่าประยุทธ์ยึดอำนาจเพื่อปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
กรมศิลปากรเขียนอย่างนี้ แล้วเราจะเอาผิดช่องส่องผีบิดเบือนประวัติศาสตร์ได้อย่างไร
ประวัติศาสตร์ไทยในตำรา ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป ไม่ใช่บัญญัติตายตัวที่ให้เด็กต้องท่องจำ เพราะมีทั้งที่ถูกบิดเบือนและลบลืม เช่น ประวัติศาสตร์ 2475 ตำราเรียนบอกว่า “ชิงสุกก่อนห่าม" สิ่งที่ต้องสอนคนรุ่นหลังคือ พึงสำนึกอยู่เสมอว่า ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์ และประวัติศาสตร์นั้นก็รับใช้การเมืองทุกยุคสมัย
การบิดเบือนประวัติศาสตร์ของช่องส่องผี ในมุมกลับจึงเป็นเรื่องชวนหัว ว่าเมื่อทหาร เผด็จการ ชนชั้นนำ เขียนประวัติศาสตร์ บิดประวัติศาสตร์ ลบประวัติศาสตร์ได้ ทำไม อ.เรนนี่จะใช้ญาณวิเศษทึกทักประวัติศาสตร์บ้างไม่ได้ คนไปหลงเชื่อทำไม การที่คนเชื่อ แสดงว่าพื้นฐานการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของคนไทย เปราะบางเต็มที มีแต่ถูกยัดเยียดให้ท่องจำ
ถามว่าจะจัดการ “ช่องส่องผี” อย่างไร เขาก็ทำลายตัวเองอยู่แล้ว โดยไม่ต้องใช้กฎหมาย ถูกฉีกแฉความไม่น่าเชื่อถือ ทั้งทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เพียงแต่ดันแกว่งปากไปล่วงล้ำ “ย่าโม-น.ส.บุญเหลือ” ทำให้คนโคราชออกศึก ทั้งแจ้งจับ ทั้งกดดันรัฐมนตรี ให้สำนักพุทธเอาผิด
แน่ละ ร้อยทั้งร้อยต้องประณามช่องส่องผี เต้าเรื่องทำลายวีรสตรี แต่ก็ทำให้คิดถึงวิทยานิพนธ์ “การเมืองในอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี” เมื่อ 21 ปีก่อน ซึ่งคนโคราชฮือต้าน ขับไล่ ถ้าย้ายจากพื้นที่ไม่ทัน ผู้เขียนอาจถูกประชาทัณฑ์ ทั้งที่ครั้งนั้นเป็นงานวิชาการ เสนอข้อมูลแง่คิดทางประวัติศาสตร์ ว่าการเชิดชู “ย่าโม” แต่ละช่วงอาจเกี่ยวกับการเมือง ตั้งแต่ช่วงสถาปนา “รัฐชาติ” ผนึกภาคอีสานกับส่วนกลาง จนมาสร้างอนุสาวรีย์หลังปราบกบฏบวรเดช
คนไทยต่อต้านช่องส่องผีบิดเบือน แต่คนไทยพร้อมจะศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างเปิดกว้างหรือไม่ หรือแค่ท่องจำกันต่อไป โดยไม่ให้ใครลบหลู่
หรือจะแค่ดราม่าสักพักแล้วจบ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีนักวิชาการติติง แต่ไม่เป็นข่าว ต้องให้แหม่มโพธิ์ดำออกโรง จึงโด่งดัง
ช่องส่องผี ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าภาพสะท้อนสังคมไทย เชื่อเรื่องงมงาย บิดเบือน เฮโลสาระพา แค่ช่องส่องผีมาทำให้มันสุดติ่งสะใจไปเลยเท่านั้นเอง
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/hot-topics/news_4485374
ทำให้คนดูซาบซึ้งน้ำตาไหล แต่ประวัติศาสตร์นอกตำราที่อ้าง เลอะเทอะผิดความจริง ทึกทักยิ่งกว่านิยาย แถมยังหารายได้จากการดูดวง สะเดาะเคราะห์ ขายเหรียญ พร้อมเรี่ยไร จนเกิดกระแสเรียกร้องให้เอาผิด ฐานบิดเบือนประวัติศาสตร์ หลอกลวงมอมเมา แพร่ความเท็จเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ฯลฯ
แต่ถามจริง บ้านนี้เมืองนี้ ที่ทำให้คนหลงเชื่อ ซาบซึ้ง งมงาย แล้วหาเงินจากการดูดวง สะเดาะเคราะห์ ขายเหรียญ เรี่ยไร มันมีแต่ช่องส่องผีหรือ
ยิ่งถ้าพิสูจน์ได้ว่า ส่วนที่เป็นการเรี่ยไร เอาเงินให้วัดทุกบาททุกสตางค์ ไม่ได้เอาเข้าพกเข้าห่อ ก็เอาผิดฐานฉ้อโกงไม่ได้ เพราะการดูดวง สะเดาะเคราะห์ เป็นความสมัครใจ เกจิทั้งหลาย ไม่ว่าโด่งดังออกทีวี หรือปูเสื่อใต้ต้นมะขาม ก็หากินจากความเชื่อของคนทั้งนั้น
ในประเทศที่รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์นวัตกรรม รัฐมนตรีดิจิทัล สถาบันแสงซินโครตอน ฯลฯ ยังดูฤกษ์ยามบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ แล้วคุณจะไปเอาผิด อ.เรนนี่หลอกลวงมอมเมา?
บิดเบือนประวัติศาสตร์ ก็ใช่เลย ทึกทักเรื่อยเปื่อย อดีตชาติผู้กองเบนซ์เป็นนักรบบางระจัน ลูกนายจันทร์หนวดเขี้ยว ส่งให้ไปหาพระเจ้าตากที่จันทบุรี ขุนแผนเป็นญาติกับขุนวรวงศาธิราช พาเข้าวัง จนเจอแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ วัดกุฎีดาวสร้างสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ถูกพม่ายิงปืนใหญ่ใส่เจดีย์หัก ฯลฯ (กระนั้นชาวบ้านส่วนหนึ่งก็บอกว่าดีนะ ทำให้คนเที่ยววัดเยอะ ค้าขายรุ่งเรือง)
แต่บิดเบือนประวัติศาสตร์ผิดตรงไหน วิษณุพูดถูก ไม่มีกฎหมายเอาผิด เพราะประวัติศาสตร์ต้องเปิดกว้าง ให้ค้นคว้าหาหลักฐานมาโต้แย้งตำราเดิมได้ ถ้าไม่มีการโต้แย้ง เราก็คงยังเชื่อว่าคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไต เหมือนหนังสือเรียนสมัยตู่เป็นเด็ก
พูดอีกอย่างคือ ตำราประวัติศาสตร์ที่ใช้เรียนกัน อาจไม่ตรงความจริงก็ได้ เพราะมีทั้งจดหมายเหตุ ตำนาน เรื่องเล่า ส่วนต่อขยายที่อาจเป็นนิยาย กฤษฎาภินิหาร ฉะนั้นคนรุ่นหลังมีสิทธิตั้งคำถามค้นคว้า เช่นที่ถกเถียงกันว่าพระนเรศวรยิงปืนข้ามแม่น้ำสะโตงได้จริงหรือไม่
ใช่เลย ประวัติศาสตร์แบบช่องส่องผีโคตรเว่อร์ เหลวไหล แต่ถ้าเอากฎหมายเอาอำนาจรัฐไปจับ ก็ไม่ต่างจากสำนักพุทธสั่งแก้ภาพส้มหยุด สิตางศุ์
สำคัญคือบางครั้ง ก็รัฐนั่นเองบิดเบือน วิษณุบอกว่าเป็นหน้าที่ของกองประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร จะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง อ้าว กรมศิลปากรไม่ใช่หรือที่แต่งหนังสือ “ประวัติศาสตร์ชาติไทย” บอกว่าประยุทธ์ยึดอำนาจเพื่อปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
กรมศิลปากรเขียนอย่างนี้ แล้วเราจะเอาผิดช่องส่องผีบิดเบือนประวัติศาสตร์ได้อย่างไร
ประวัติศาสตร์ไทยในตำรา ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป ไม่ใช่บัญญัติตายตัวที่ให้เด็กต้องท่องจำ เพราะมีทั้งที่ถูกบิดเบือนและลบลืม เช่น ประวัติศาสตร์ 2475 ตำราเรียนบอกว่า “ชิงสุกก่อนห่าม" สิ่งที่ต้องสอนคนรุ่นหลังคือ พึงสำนึกอยู่เสมอว่า ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์ และประวัติศาสตร์นั้นก็รับใช้การเมืองทุกยุคสมัย
การบิดเบือนประวัติศาสตร์ของช่องส่องผี ในมุมกลับจึงเป็นเรื่องชวนหัว ว่าเมื่อทหาร เผด็จการ ชนชั้นนำ เขียนประวัติศาสตร์ บิดประวัติศาสตร์ ลบประวัติศาสตร์ได้ ทำไม อ.เรนนี่จะใช้ญาณวิเศษทึกทักประวัติศาสตร์บ้างไม่ได้ คนไปหลงเชื่อทำไม การที่คนเชื่อ แสดงว่าพื้นฐานการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของคนไทย เปราะบางเต็มที มีแต่ถูกยัดเยียดให้ท่องจำ
ถามว่าจะจัดการ “ช่องส่องผี” อย่างไร เขาก็ทำลายตัวเองอยู่แล้ว โดยไม่ต้องใช้กฎหมาย ถูกฉีกแฉความไม่น่าเชื่อถือ ทั้งทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เพียงแต่ดันแกว่งปากไปล่วงล้ำ “ย่าโม-น.ส.บุญเหลือ” ทำให้คนโคราชออกศึก ทั้งแจ้งจับ ทั้งกดดันรัฐมนตรี ให้สำนักพุทธเอาผิด
แน่ละ ร้อยทั้งร้อยต้องประณามช่องส่องผี เต้าเรื่องทำลายวีรสตรี แต่ก็ทำให้คิดถึงวิทยานิพนธ์ “การเมืองในอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี” เมื่อ 21 ปีก่อน ซึ่งคนโคราชฮือต้าน ขับไล่ ถ้าย้ายจากพื้นที่ไม่ทัน ผู้เขียนอาจถูกประชาทัณฑ์ ทั้งที่ครั้งนั้นเป็นงานวิชาการ เสนอข้อมูลแง่คิดทางประวัติศาสตร์ ว่าการเชิดชู “ย่าโม” แต่ละช่วงอาจเกี่ยวกับการเมือง ตั้งแต่ช่วงสถาปนา “รัฐชาติ” ผนึกภาคอีสานกับส่วนกลาง จนมาสร้างอนุสาวรีย์หลังปราบกบฏบวรเดช
คนไทยต่อต้านช่องส่องผีบิดเบือน แต่คนไทยพร้อมจะศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างเปิดกว้างหรือไม่ หรือแค่ท่องจำกันต่อไป โดยไม่ให้ใครลบหลู่
หรือจะแค่ดราม่าสักพักแล้วจบ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีนักวิชาการติติง แต่ไม่เป็นข่าว ต้องให้แหม่มโพธิ์ดำออกโรง จึงโด่งดัง
ช่องส่องผี ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าภาพสะท้อนสังคมไทย เชื่อเรื่องงมงาย บิดเบือน เฮโลสาระพา แค่ช่องส่องผีมาทำให้มันสุดติ่งสะใจไปเลยเท่านั้นเอง
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/hot-topics/news_4485374
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar