måndag 30 november 2020

"ม. 112." กับคดีพระราชทานข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (?)

นักเคลื่อนไหวกลุ่ม "ราษฎร" 5 คนตกเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และมีอีก 4 คนเป็นอย่างน้อยได้รับหมายเรียกวันนี้ (30 พ.ย.)

ม. 112: อานนท์ เพนกวิน รุ้ง ไมค์ หมอลำแบงค์ โดนแจ้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

แกนนำและผู้ปราศรัยกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เรียกตัวเองว่ากลุ่ม "ราษฎร" รวมทั้งหมด 5 คน โดนตำรวจแจ้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยผู้ต้องหาทั้งหมดปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด

ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง และนายปฏิวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ หมอลำแบงค์

นายอานนท์เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวภายหลังการพบเจ้าพนักงานช่วงบ่ายวันนี้ (30 พ.ย.) ว่าผู้ต้องหาทุกคนปฏิเสธข้อกล่าวหาและจะสู้คดีอย่างตรงไปตรงมา

"อย่าไปรู้สึกว่ามันน่ากลัว เรื่องที่เขากลั่นแกล้ง และอย่าไปสร้างสภาวะความกลัว เพราะตอนนี้เราสู้กันแบบตรงไปตรงมา" เขาระบุ

หมายเรียกของตำรวจระบุว่าให้ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมจากการชุมนุมทางการเมือง บริเวณสนามหลวงในช่วงวันที่ 19-20 ก.ย. 2563

ทั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน บอกกับบีบีซีไทยว่า หลังรับทราบข้อกล่าวหาที่มีการแจ้งเพิ่มแล้ว ตำรวจได้ปล่อยตัวทั้งหมดกลับบ้าน ซึ่งหลังจากนี้ ผู้ต้องหาจะให้การเป็นหนังสือต่อไป

ประมุขของรัฐ ต้องตรวจสอบได้

บรรดาแกนนำและนักกิจกรรมกลุ่มราษฎร ทยอยเดินทางมาถึงสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามในเวลา 13.00 น. พร้อมด้วยทนายและกลุ่มมวลชนที่มาให้กำลังใจ

นายปฏิวัฒน์เป็นบุคคลแรกที่เดินทางมาถึงได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า เขาไม่เคย มาสร้างความเลวร้ายให้ใคร แต่เป็นหมอลำด้วยความเต็มใจ เป็นศิลปินให้ความสุข พร้อมยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ พร้อมจะสู้คดีถึงสามศาล ตั้งแต่ศาลชั้นต้น อุทธรณ์และฎีกา

"ผมเป็นผู้บริสุทธิ์ ข้อยบริสุทธิ์" เขากล่าวเป็นสำเนียงอีสานก่อนที่เดินขึ้นไปบนสถานีตำรวจ

ต่อมาแกนนำที่เหลืออีก 4 คน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยแสดงความเห็นว่า การนำกฎหมาย ม.112 มาดำเนินคดีนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยุติรรม แต่ทั้งหมดก็พร้อมจะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม และถูกดำเนินคดีนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองในอนาคต

นายภาณุพงศ์กล่าวว่าประมุขของรัฐภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีประมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้องตรวจสอบได้ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดเจ้าพนักงานถึงเพิ่งมาแจ้งความดำเนินคดี ม. 112 เพิ่มเติมในภายหลัง

นายภาณุพงศ์กล่าวว่า การวิพากวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์สามารถทำได้ และสามารถตรวจสอบได้
คำบรรยายภาพ,

นายภาณุพงศ์และผู้ต้องหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

นายอานนท์ เชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้เห็นถึงความโหดร้ายและความไม่เป็นธรรมของ ม. 112 แต่เขาก็เชื่อว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะต่อสู้คดีและศาลจะให้ความยุติธรรม

นายอานนท์กล่าวว่าการพิจารณาคดีนี้จะทำให้สังคมเห็นถึงการพูดความจริงแล้วถูกปิดปากด้วย ม. 112 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เรื่องการโอนอัตรากำลังทหารไปเป็นส่วนราชการในพระองค์ และการประทับอยู่ในต่างประเทศ

"หากว่ายังผิด ม. 112 ยิ่งจะทำให้เห็นความผิดปกติของกฎหมายและความผิดปกติของบ้านเมือง และเป็นใบรับรองพฤติกรรมของกระบวนการยุติธรรมไทย" เขาระบุ 

จารึกไว้ในความทรงจำ 30 พ.ย. 63 นายภาณุพงศ์ จาดนอก #ชนะสงคราม

Bild

น.ส.ปนัสยา กล่าวย้ำว่าการเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ไม่ใช่การล้มล้างสถาบัน

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ข้อมูลว่า การดำเนินคดีกับนักกิจกรรมทางการเมืองทั้ง 5 คนนี้ นับเป็นการใช้ ม.112 เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี

ไมค์ ระยอง เพนกวิน อานนท์ รุ้ง

นี่ถือเป็นการนำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กลับมาใช้แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีเป็นครั้งแรกหลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ออกแถลงการณ์ (วันที่ 19 ก.ย. ) ว่าจะใช้กฎหมายทุกฉบับดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำและประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ่ายรูปกับประชาชน

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวไว้เมื่อ 16 มิ.ย. เรียกร้องให้คนไทยสำนึกในพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงไม่ให้ใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาดำเนินคดีกับผู้ที่ล่วงละเมิดสถาบันฯ

นอกจากแกนนำทั้ง 5 คนดังที่ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ (30 พ.ย.) ยังมีรายงานว่ามีแกนนำได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาตาม ม.112 เพิ่มเติมคือนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี กลุ่มเยาวชนปลดแอก และ น.ส. ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล กลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย และ น.ส.จุฑาทิพย์​ ศิริขันธ์​ ที่ได้รับหมายเรียกจาก สน.บางโพ ให้ไปรับทราบข้อหาตามมาตรา 112 ในวันที่ 7 ธ.ค. นี้ 

"มายด์ ภัสราวลี" เผยว่าวันนี้ได้รับหมายเรียกจากสน.บางโพ ให้ไปรับทราบข้อหาตาม #มาตรา112 ในวันที่ 7 ธ.ค. นี้ คาดว่าเป็นคดีจากการชุมนุม #ไปสภาไล่ขี้ข้าศักดินา ที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 63 หลังก่อนหน้านี้แกนนำ 4 ราย ถูกแจ้งข้อหาตาม #มาตรา116 มาแล้ว tlhr2014.com/?p=23479

รูปภาพ

โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนคาดว่าเป็นคดีจากการชุมนุม #ไปสภาไล่ขี้ข้าศักดินา ที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 24 ก.ย.

นอกจากนี้ศูนย์ทนายฯ ยังระบุอีกว่า ยังมีนายชนินทร์ วงษ์ศรี นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ได้รับหมายเรียกจาก สน.ทุ่งมหาเมฆ ให้ไปรับทราบข้อหา ม. 112 ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ สืบเนื่องจากการชุมนุมที่บริเวณด้านหน้าสถานทูตเยอรมนีเมื่อวันที่ 26 ต.ค.

โดยนายชนินทร์เป็นผู้อ่านแถลงการณ์หน้าสถานทูต และต่อมาถูกแจ้งข้อหา ม.116 ไปแล้วข้อหาหนึ่ง

รายชื่อผู้ได้รับหมายเรียกคดี ม.112 ในรัชกาลที่ 10 มีใครบ้าง

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. สื่อมวลชนหลายสำนัก อาทิ เว็บไซต์มติชน ผู้จัดการ และไอเอ็นเอ็น อ้างแหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่า พนักงานสอบสวนของพื้นที่ต่าง ๆ แจ้งข้อหากับ 12 แกนนำม็อบ "คณะราษฎร" ในฐานความผิดตามมาตรา 112

  • นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ มี 8 คดี
  • น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล มี 6 คดี
  • นายภาณุพงศ์ จาดนอก มี 4 คดี
  • นายอานนท์ นำภา มี 4 คดี
  • น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล มี 3 คดี
  • นายชนินทร์ วงษ์ศรี มี 2 คดี
  • น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ มี 1 คดี
  • นายปิยรัฐ จงเทพ มี 1 คดี
  • นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี มี 1 คดี
  • นายอรรถพล บัวพัฒน์ มี 1 คดี
  • นายชูเกียรติ แสงวงศ์ มี 1 คดี
  • นายสมบัติ ทองย้อย มี 1 คดี

ต่อมาในวันที่ 25 พ.ย. พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ยืนยันว่า ไม่มีการกลั่นแกล้งใช้มาตรา 112 ต่อบรรดาแกนนำราษฎร เพราะทุกอย่างจะเป็นไปตามหลักกฎหมาย

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar