söndag 20 maj 2012

ร้อนหรือหนาว เบียดเสียด ยัดเยียด ลำบากลำบนมวลชนไม่เคยถอย เหมือนทุกครั้ง

บทความสายลมรัก: เมื่อคืนนี้ .. ผมปร่าแปร่งในความรู้สึกกับ (นปช.) เหลือเกิน

โดย สามลมรัก
ที่มา ประชาทอล์ค
20 พฤษภาคม 2555

ร้อนหรือหนาว เบียดเสียด ยัดเยียด ลำบากลำบนมวลชนไม่เคยถอย เหมือนทุกครั้ง

อย่ามาถามว่า มวลชนมามากหรือน้อย ภาพที่เห็นมันปรากฏแก่สายตาผู้คนไปทั่วโลกแล้วว่า เรายังต้องการทวงถามความยุติธรรมกลับคืนให้กับ วิณญาณวีรชนของพวกเรา อย่างล้นเปี่ยม

"พี่ ๆ เต๊นท์เรายังไม่แน่นอนนะพี่" ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง กับการทำงานของผู้ช่วยแกนนำทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ช่วยแกนนำทั้งหลายกับการไล่ที่ ทั้งๆที่สถานที่เหล่านั้นไม่ว่าเต๊นท์ กำลังคน กำลังเงิน จุดมุ่งหมายในการทำกิจกรรม "ร้อยละร้อย มันมาจากคำว่า ไม่ต้องจ้างกูมาเอง ทั้งนั้น"

กริยาวาจา กร่างยิ่งใหญ่ ยังคงอยู่ครบตามแบบฉบับ กับการทำงานด้านมวลชนไม่เห็น สับปะรดขลุ่ย เหมือนเดิมทั้งๆ อดีตก็มีบทเรียนที่ควรจดจำ และทราบได้ดีเลยว่า อาสาสมัครต่างๆ เขาสู้เพื่ออะไร จะจัดที่ขายของหาเงินเข้ากระเป๋าใคร ก็หัดสะกดคำว่าเกรงใจมวลชนบ้าง

ขนาดงานจะเริ่มอยู่แล้ว เต๊นท์ทุกเต๊นท์ ไม่ว่า "ประชาทอล์ค" "บ้านราษร์" ยังไม่รู้เลยว่า จะตั้งตรงไหน หรืออาจต้องย้ายหนี เพื่อหลบเต๊นท์ ขายของ (ไม่ฮา)

"เรามีมวลชนที่เหนียวแน่น แต่เราขาดนักพูด" ผมไม่เข้าใจว่า เราจะตะโกน ๆ ๆ ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าบนเวทีทำไม เพราะ ฟังไม่รู้เรื่อง ไฟฟ้าไม่มี รถห้องน้ำไม่มา ทุกอย่างคือตัวใครตัวมัน ครั้นจะขอพ่วงรถถ่ายทอด สดของสถานีต่าง ๆ เขาก็ไม่ให้ เพราะหากไฟกระชาก เขาก็จะส่งสัญญาณไม่ได้

สุดท้าย ไฟจากแบตเตอ์รี่ รถใครรถมัน สถานที่ซึ่งแออัดไปด้วยมวลชนอยู่แล้วก็ดมควันจากท่อไอเสียกันเพลิน "เบาหวิวราวปุยนุ่น"

เมื่อวานนี้ นักพูดระดับแม่เหล็กของเรา คือจตุพร กับณัฐวุฒิ เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปจนผมต้องนั่งนึกทบทวนบทบาทการสนับสนุน ประเด็นที่พูด ไม่มีอะไรเลยเหมือนกับการ ขออนุญาตยืมคำพูดของพี่ Mosy มาใช้หน่อยที่แกพูดว่า "เหมือนมาพูดพอเป็นพิธีเท่านั้น"

บอกตรงๆว่า ผมไม่เคยเห็นมวลชนลุกทะยอย เดินกลับ ขณะณัฐวุฒิกำลังพูดปราศรัย แต่เมื่อคืนนี้ผมเห็น "ผมได้แต่บอกกับตัวเองว่า มันเกิดอะไรขึ้น"

ความผิดพลาดของกิจกรรมภาคสนาม เรื่องนี้ไม่ต้องโทษใคร ผมขอรับผิดทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว เราวาดหวังไว้สวยหรู ถึง 4 กิจกรรม แต่เราสามารถทำได้ดี แค่ 1 กิจกรรมครึ่งเท่านั้น คือ แจกขนม (ปรองดอง) คลายร้อน แบบจัดหนัก กับกิจกรรมนิทรรศการภาพถ่าย ที่มวลชนไม่ยอมไหล ปักหลักอยู่กับที่แถมยังเอาภาพกิจกรรมเป็น ที่กำบังหลบแดด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่เอาเก้าอี้มาตั้งประชิด จนบางทีบอร์ดภาพเอียงตามแรงดัน

หมุดคณะราษฏร์ และหมุดประชาชน ไม่สามารถวางลงที่พื้นได้เลย เราพยายามทดลองวางอยู่หลายๆ ครั้ง แต่มวลชนก็เหยียบทุกครั้ง ชนิดที่ประเมินได้เลยว่า หากวางบนพื้นถนนจริง ๆ รับรองสะดุดหน้าทิ่มกันเป็นแถว ผมกับน้อง ๆ มองหน้ากันเลิกลั่กต้องเปลี่ยนแผนเป็นวางบนโต๊ะแทน

สรุปบทเรียน

บางที หากเราจะทำกิจกรรมแบบนี้ คงต้องพิจารณากับหลายอย่าง ไม่ว่า ใกล้เวทีไปไหม ชิดมวลชนมากไปไหม อุปกรณ์ที่จำเป็น เราต้องจัดหามาเก็บไว้ใช้แบบจริงจังหรือไม่

เราอยู่ใกล้เวทีมากไป ก็จะมีปัญหาเป็นธรรมชาติของมวลชน คือไม่สามาถจะแบ่งปันพื้นที่ได้เลย หากต้องการทำกิจกรรมภาคสนาม

ครั้งต่อไป (หากมี) เราจะท่องคาถา อัตตาหิอัตโนนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน และคงตั้งออกไปห่างจากจุดเดิมมากพอสมควร

สำหรับ นปช. ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย

พวกคุณเดินมาถึงทางสามแพร่งที่สำคัญแล้ว กิจกรรมครั้งนี้ ผมมองไม่เห็นทางออกที่ชัดเจนเลยว่า คุณจะดำเนินคดีทวงถามความยุติธรรมได้เมื่อไหร่ คุณจะเยียวยา ช่วยเหลือประกันตัวพี่น้องเราที่ยังโดนจองจำ อย่างเป็นรูปธรรมเมือใด หรือคุณจะซื้อเวลาทำเพื่อตัวเองไปเรื่อยๆ เคยมีคำจำกัดความคำหนึ่งกล่าวไว้ว่า เมื่อคุณพูดเราจะฟัง แต่เมื่อคุณลงมือทำเราจะเชื่อ ทักษิณ นปช. และพรรคเพื่อไทยก็เช่นกัน

ผมอยากให้พึงสำเหนียก อย่ารู้ตัวเมื่อสาย หากมวลชนหันหลังให้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นคุณจะโดนพวกมันขยี้จนไม่มีที่ยืนอีกต่อไป

ความคิดนี้ เป็นความคิดส่วนตัวของผมคนเดียว เป็นการสะท้อนจากมวลชนคนหนึ่ง หากเห็นว่าเป็นประโยชน์นำไปปรับปรุง ยุทธศาสตร์ ผมก็ดีใจ แต่หากคิดว่าก็แค่เสียงนกเสียงกา ผมก็ขออวยพรให้ท่านโชคดี

ปล. ขอบคุณ TAN 007 แห่งประชาทอล์ค ขอบคุณลูฟฟี่ ขอบคุณมดดำ ขอบคุณน้อง ๆ หลาย ๆ คนที่อดตาหลับขับตานอนผลักดันกิจกรรมไปลุล่ง พี่รู้สึกละอายใจจริง ๆ ที่ไปหลังแต่กลับก่อน และฝากบอกไปที่มดดำด้วว่า เอ็งไม่ต้องขอโทษพี่ พี่สิที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar