tisdag 31 juli 2012

อดีตนักโทษ 112 เปิดใจ "ถ้าใครไม่ติดคุก ควรจะซาบซึ้งกับอิสรภาพ ไม่ต้องไปถูกกักขังเหมือนสัตว์" รู้สึกเสียดายเวลา 2 ปีกว่าในคุก เวลาซื้อกลับคืนไม่ได้ ถ้าใครไม่ติดคุก ควรจะซาบซึ้งกับอิสรภาพ ไม่ต้องไปถูกกักขังเหมือนสัตว์ อย่างนักโทษในเรือนจำ”

ที่มา ประชาไทบล็อกกาซีน "คุยกับณัฐ: 112 คุก กับความหมายของการนอนตื่นสาย"
 
ณัฐเอ่ยซ้ำไม่ต่ำกว่า 5-6 ครั้งตลอดการสนทนา ว่าเขาไม่เข้าใจจนบัดนี้ว่าทำไมแค่การส่งลิงก์ให้เพื่อนถึงเป็นความผิดในข้อหานี้ --ลิงก์จากเนื้อหาซึ่งเขาไม่ได้เป็นคนทำเอง และไม่ได้มีส่วนใดๆ กับมันเลย -- ความไม่เข้าใจและงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตยังอยู่มาจนวันที่ผ่านการจำคุกเป็นเวลากว่า 2 ปี และพ้นโทษออกมาแล้วก็ตาม

“ผมต้องนั่งคุกเข่า เขาก็ยืน นักโทษกับเจ้าหน้าที่จะเหมือนชนชั้นวรรณะ ตอนนั่งทำประวัตินักโทษใหม่ๆ นักโทษนั่งกับพื้น เจ้าหน้าที่จะนั่งเก้าอี้...การนั่งกับพื้นต่อหน้าเจ้าหน้าที่ มันน่าสมเพชตัวเอง ประชาชนทั่วไปไปติดต่อราชการยังไม่ทำแบบนี้เลย แล้วเขาพูดจาดูถูกและหยาบคาย”


บทเรียนสำคัญในคุกที่ณัฐอยากบอกกับสังคม คือปัญหาของกระบวนการยุติธรรมไทยทั้งหมด คดีส่วนใหญ่ที่เขาได้พบในเรือนจำเป็นคดีคนจน คดีหลักทรัพย์โดยคนไม่มีกิน ไม่มีงานทำ ในคุกทำให้เห็นว่าระบบยุติธรรมของไทยเลวร้ายมาก เพราะเล่นงานแต่คนจน  มีคนที่จนมากๆ และไม่ได้ทำผิด แต่ติดคุก เพราะไม่มีเงินสู้คดี คนจนจึงติดคุกง่ายมาก ขณะที่คนรวยๆ ดูง่ายกว่าที่จะชนะคดี และมีโอกาสสู้คดีได้มากกว่า รวมทั้ง “เคลียร์” ตัวเองได้ง่ายกว่า เขาสรุปบทเรียนว่าระบบกฎหมายมันเอื้อให้เฉพาะกลุ่มคนมีเงินและมีอำนาจ
ที่สุดแล้ว เขาบอกว่าอยากให้สังคมคำนึงถึงความเป็นคนให้มากกว่านี้ เห็นค่าของความเป็นคนของทุกๆ คน อย่ามองคนเป็นแค่เศษฝุ่นหรือเศษอะไร...

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar