måndag 9 juli 2012

จาตุรณต์ ฉายแสง เรื่องศาล รธน.เสือกทั้งๆที่ไม่มีอำนาจจึงไม่มีความจำเป็นใดๆทีไปฟังคำตัดสินของศาล " เหี้ยสั่ง ฆ่า " นั้น

ผิดตลอดทางจนถึงวันตัดสิน

ถ้าใครจะวางแผนรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้
ผมก็เสนอว่าให้คาดการในทางร้ายไว้ก่อนซึ่งเป็นหลักปรกติทั่วไป
ในการวางแผนทั้งหลายทั้งปวง
แต่ที่ผมอยากเสนอความเห็นไว้ในขณะนี้เสียก่อนก็คือ
อยากจะย้ำว่าไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาแบบไหน
ก็เป็นความเสียหายต่อประเทศชาติทั้งสิ้น ไม่เป็นธรรมทั้งสิ้น
แม้ว่าศาลยกคำร้องก็เสียหายและไม่เป็นธรรม
เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องโดยตรงไป
ทั้งๆที่ไม่มีอำนาจตรวจสอบการร่างรัฐธรรมนูญ
ทั้งๆยิ่งไม่มีอำนาจ ศาลฯจึงกำลังสร้างบรรทัดฐานที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
และขัดต่อหลักการประชาธิปไตย หลักการแบ่งแยกอำนาจ
ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการแก้รัฐธรรมนูญต่อไป
ทำให้การแก้รัฐธรรมนูญจะทำได้ยากมาก
และจะทำให้วิกฤตของประเทศนี้ไม่มีทางออก

ที่ต้องย้ำอย่างนี้อีกครั้ง เพื่อจะยืนยันไว้ล่วงหน้าว่า
ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินออกมาอย่างไร
ผู้รักประชาธิปไตยและรักความเป็นธรรมทั้งหลายก็ไม่อาจยอมรับได้
ถึงเวลานั้นจะได้ไม่มาว่ากันว่า แพ้แล้วพาล อะไรอย่างนั้น

แต่เมื่อผมยืนยันจะสู้ตามระบบ เมื่อศาลฯตัดสินออกมาอย่างไร
องค์กรต่างๆก็ต้องปฏิบัติตาม  เช่น  ถ้าสั่งให้ยุติการแก้รัฐธรรมนูญ
รัฐสภาก็ต้องหยุดจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ต้องมาเริ่มกันใหม่
แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกฝ่ายจะต้องยอมรับว่าตัดสินถูกต้องแล้ว
เพราะศาลรัฐธรรมนูญทำผิดมาแต่ต้น ผิดตลอดทางจนถึงวันตัดสิน

ประชาธิปไตยไม่ได้มาจากการภาวนา



ผู้ที่ต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยก็คงต้องมา
ช่วยกันคิดต่อไปว่าจะทำอะไรกันอย่างไร
ที่สำคัญในขั้นแรกสุดก็คือต้องช่วยกันชี้ให้เห็นว่า
ถ้าศาลฯสั่งให้ยุติการแก้รัฐธรรมนูญคราวนี้
นอกจากขัดหลักการสำคัญๆหลายประการดังที่ผมได้กล่าวไปแล้ว
ยังแสดงให้เห็นว่าพวกที่ทำรัฐประหารมาก็ดี
ผู้สนับสนุนผู้รับรองอำนาจคณะรัฐประหารก็ดี
ผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันซึ่งมาจากการรัฐประหาร
และผู้สนับสนุนปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ดี
ต่างก็ได้ร่วมมือกันใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 68
ซึ่งมีไว้สำหรับให้ประชาชนใช้ต่อต่อต้านการรัฐประหาร
แต่พวกเขาเหล่านี้กลับร่วมกันนำมาใช้ปกป้องรัฐธรรมนูญที่มาจากการรัฐประหาร
และยับยั้งขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย
อันเป็นการใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 68 นี้ตรงกันข้ามกับเจตนารมณ์
และสิ่งที่ควรจะเป็นอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว
และนี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทยของเราครับ

ผมได้แสดงความเห็นด้วยการใช้เหตุผล หลักการไปพอสมควรแล้ว
ในขั้นนี้จึงยังไม่มีอะไรจะเพิ่มเติมอีก นอกจากจะฝากว่า
การรอฟังคำตัดสินที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้
ขอเราอย่าได้ไปคิดภาวนาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเมตตากรุณา
แต่ควรจะช่วยกันเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญหยุดทำผิดเสียเองอย่างที่ทำอยู่
และต้องช่วยกันทำความเข้าใจให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง
ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองนี้
และประชาชนเราจะเตรียมตัวรับมือกันอย่างไรต่อไป

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar