ป.ป.ช. เริ่มกลัวตาย สั่งออกระเบียบใหม่ จ้างบอดี้การ์ดประจำตัวทั้งประธาน ป.ป.ช. "ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ" และกรรมการเช่น "วิชา มหาคุณ" เป็นต้น
ถ้าตัดสินหรือทำคดีด้วยความยุติธรรม บอดี้การ์ดไม่ต้องมียังเดินถนนได้เลย นี่พอทำชั่ว ใช้ความอยุติธรรมเล่นงานฝ่ายตรงข้ามก็เกิดอาการกลัวตายขึ้นมา กลัวว่าเขาจะมาฆ่า หรือเล่นงานด้วยวิธีการนอกกฎหมาย
ก็ทั้งหมดพวกมึงบีบให้เขาหมดความอดทน "เมื่อความอยุตธิรรมเป็นกฎหมาย" การต่อต้านมีแน่นอน แปลกนะบรรดาคนดีอย่าง คสช. ที่อ้างว่าประชาชนรักทั่วประเทศ คนไทยกว่า 95% สนับสนุน เวลาไปพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะอีสาน แทบจะปิดจังหวัด เกณฑ์ทหาร ตำรวจ นอกเครื่องแบบ ล้อมแล้วล้อมอีก ไอ้ประยุทธ์ไปพูดที่ไหน ตำรวจแถวนั้นนี่ใจตุ้มๆต่อมๆ เพราะเกิดมีคนไปชู 3 นิ้ว หรือ ขึ้นป้ายต่อต้าน "โดนย้ายทั้งโรงพัก" มันเป็นแบบนี้ครับความจริงประเทศไทย
ถ้าตัดสินหรือทำคดีด้วยความยุติธรรม บอดี้การ์ดไม่ต้องมียังเดินถนนได้เลย นี่พอทำชั่ว ใช้ความอยุติธรรมเล่นงานฝ่ายตรงข้ามก็เกิดอาการกลัวตายขึ้นมา กลัวว่าเขาจะมาฆ่า หรือเล่นงานด้วยวิธีการนอกกฎหมาย
ก็ทั้งหมดพวกมึงบีบให้เขาหมดความอดทน "เมื่อความอยุตธิรรมเป็นกฎหมาย" การต่อต้านมีแน่นอน แปลกนะบรรดาคนดีอย่าง คสช. ที่อ้างว่าประชาชนรักทั่วประเทศ คนไทยกว่า 95% สนับสนุน เวลาไปพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะอีสาน แทบจะปิดจังหวัด เกณฑ์ทหาร ตำรวจ นอกเครื่องแบบ ล้อมแล้วล้อมอีก ไอ้ประยุทธ์ไปพูดที่ไหน ตำรวจแถวนั้นนี่ใจตุ้มๆต่อมๆ เพราะเกิดมีคนไปชู 3 นิ้ว หรือ ขึ้นป้ายต่อต้าน "โดนย้ายทั้งโรงพัก" มันเป็นแบบนี้ครับความจริงประเทศไทย
ถามจริงๆ ถ้าบริสุทธิ์ใจ ประชาชนมากมายรัก กลัวอะไร...ไม่มีใครเขาไปทำร้ายหรอก นอกจากหวั่นวิตก เพราะทำตัวเลวไว้เยอะ กลัวประชาชนเขาจะเล่นงานเอา
น่าสมเพชจริงๆ
คลิก ดูเพิ่มเติมน่าสมเพชจริงๆ
"ชัดซะทีกับคดีสังหารหมู่ 6 ศพในวัดปทุมฯ"นับตั้งแต่ปี 2553 กูว์ ก็รู้เช่นเห็นชาติจนหมดสิ้นว่าจิตใจของพวกมนุษย์บางจำพวกนั้นยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน...
การชุมนุมราชประสงค์เพียงไม่กี่วัน ถึงกับต้องทำลายล้างชีวิต ดวงวิญญาณที่ยังไม่อาจสงบลงได้
เป็นดวงจิตของผู้บริสุทธิ์ ที่โดนสังหารอย่างทารุณกรรม โดยการกระทำของอมาตย์ใจสัตว์
ผู้ตายทั้ง 6 ไม่มีอาวุธปืน สถานที่แห่งนั้นไม่มีชายชุดดำ หลักฐานชัดเจนมานานแสนนาน
อ่านรายละเอียดต่อจาก "แม่ลูกจันทร์" ครับ
............
"ชัดซะทีกับคดีสังหารหมู่ 6 ศพในวัดปทุมฯ"
คดีสังหารหมู่ 6 ศพในวัดปทุมฯ ในช่วงการสลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง เป็นคดีสำคัญที่ติดค้างคาใจสังคมไทยมาแล้ว 3 ปี เหยื่อผู้เสียชีวิตมีทั้ง อาสาสมัครพยาบาล อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง พนักงานขับรถสนามบิน เกษตรชาวนา และอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งเข้าไปหลบภัยในวัดปทุมวนาราม ซึ่งประกาศเป็น “เขตอภัยทาน”ปัญหาอยู่ที่มีความพยายามบิดเบือนความจริงคดีฆ่าหมู่ 6 ศพ วัดปทุมฯ กันไปต่างๆนานาแต่ในที่สุดก็มีคำสั่งศาลอาญาชี้ว่าทั้ง 6 ศพเสียชีวิตเพราะถูกทหารยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า คำวินิจฉัยของศาลอาญาทำให้ความเคลือบแคลงต่างๆ ได้ข้อยุติอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน
สรุปเป็นเหตุผลได้ 7 ประเด็นดังนี้ คือ
1, เหตุการณ์นี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ที่อยู่บนชั้น 12 ของอาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานยืนยันว่า หน่วยทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ใช้ปืนยิงไปที่กลุ่มผู้ชุมนุมในวัดปทุมวนาราม
2, ผลการผ่าพิสูจน์ศพผู้ตายทั้ง 6 ราย พบกระสุนปืนเอ็ม 16 ตรงกับอาวุธปืนประจำกายของทหารกองพันจู่โจมที่ปฏิบัติการบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส
3, ข้ออ้างว่ามีชายชุดดำ 2 คนยิงปืนก่อน ทหารจึงต้องยิงสวนกลับไป ข้อเท็จจริงขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน มีผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศอยู่เป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีภาพชายชุดดำที่กล่าวอ้างแม้แต่ภาพเดียว
ประกอบกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการในจุดใกล้เคียงได้เบิก ความว่า ไม่พบชายชุดดำในบริเวณดังกล่าวเลย
4, หากมีชายชุดดำอยู่จริงคงไม่ปล่อยให้ทหารยิงฝ่ายเดียวนานถึง 40 นาที อีกทั้งทหารที่ประจำการบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสเบิกความยอมรับว่า ไม่มีชายชุดดำในวัดปทุมวนาราม
5, พยานที่อ้างว่ามองเห็นปืนในกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีน้ำหนักรับฟัง เนื่องจากตรวจพบว่าทหารได้พาพยานปากนี้ไปรับเงินในค่ายทหารแห่งหนึ่งก่อนนำตัวไปให้ตำรวจสอบปากคำ
6, การตรวจเขม่าปืนในมือผู้ตาย ทั้ง 6 ศพ ไม่พบคราบเขม่าดินปืนและไม่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืน
7, การอ้างว่าตรวจพบอาวุธปืนในวัดปทุมวนาราม หลังจากการยุติการชุมนุมผ่านไปเป็นเวลานานหลายเดือน เป็นข้อพิรุธขาดนํ้าหนักให้ศาลเชื่อได้ว่า มีอาวุธปืนสงครามในวัดจริง
สรุป...ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้เสียชีวิต 5 ราย ตายเพราะถูกทหารกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 ที่ประจำการอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสยิงถึงแก่ความตาย
ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ถูกทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 31 ที่ประจำการบนถนนพระรามที่ 1 ยิงถึงแก่ความตาย
ทั้งหมดที่สรุปข้างต้นคือความจริง 7 ประการ ที่ศาลอาญาได้มอบความยุติธรรมให้แก่เหยื่อคดีสังหารหมู่วัดปทุมฯ ครบถ้วนทั้ง 6 ราย
“แม่ลูกจันทร์” ขอประทานกราบเรียนท่านคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ โปรดนำความจริงก้อนนี้ไปต้มรับประทานแก้อาการประสาทชา
ปล.นักข่าวไปถามอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าศาลอาญาได้ชี้แล้วว่าผู้เสียชีวิต 6 ศพ วัดปทุมฯ ถูกทหารยิงตาย
“อภิสิทธิ์” ตีหน้าหล่อตอบว่าศาลระบุว่ากระสุนปืนมาจากฝั่งทหาร ยังไม่ยืนยันแน่ชัดว่าเป็นฝีมือใครยิง
อืมม์...ลีลาแบบนี้เค้าเรียกว่าแถทะลุซอย.
“แม่ลูกจันทร์”
ที่มาของข่าว
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/362198
เพิ่มเติมการพิจารณาคดี
http://www.prachatai.com/journal/2013/08/48039
#หยุดดัดจริตประเทศไทย
การชุมนุมราชประสงค์เพียงไม่กี่วัน ถึงกับต้องทำลายล้างชีวิต ดวงวิญญาณที่ยังไม่อาจสงบลงได้
เป็นดวงจิตของผู้บริสุทธิ์ ที่โดนสังหารอย่างทารุณกรรม โดยการกระทำของอมาตย์ใจสัตว์
ผู้ตายทั้ง 6 ไม่มีอาวุธปืน สถานที่แห่งนั้นไม่มีชายชุดดำ หลักฐานชัดเจนมานานแสนนาน
อ่านรายละเอียดต่อจาก "แม่ลูกจันทร์" ครับ
............
"ชัดซะทีกับคดีสังหารหมู่ 6 ศพในวัดปทุมฯ"
คดีสังหารหมู่ 6 ศพในวัดปทุมฯ ในช่วงการสลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง เป็นคดีสำคัญที่ติดค้างคาใจสังคมไทยมาแล้ว 3 ปี เหยื่อผู้เสียชีวิตมีทั้ง อาสาสมัครพยาบาล อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง พนักงานขับรถสนามบิน เกษตรชาวนา และอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งเข้าไปหลบภัยในวัดปทุมวนาราม ซึ่งประกาศเป็น “เขตอภัยทาน”ปัญหาอยู่ที่มีความพยายามบิดเบือนความจริงคดีฆ่าหมู่ 6 ศพ วัดปทุมฯ กันไปต่างๆนานาแต่ในที่สุดก็มีคำสั่งศาลอาญาชี้ว่าทั้ง 6 ศพเสียชีวิตเพราะถูกทหารยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า คำวินิจฉัยของศาลอาญาทำให้ความเคลือบแคลงต่างๆ ได้ข้อยุติอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน
สรุปเป็นเหตุผลได้ 7 ประเด็นดังนี้ คือ
1, เหตุการณ์นี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ที่อยู่บนชั้น 12 ของอาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานยืนยันว่า หน่วยทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ใช้ปืนยิงไปที่กลุ่มผู้ชุมนุมในวัดปทุมวนาราม
2, ผลการผ่าพิสูจน์ศพผู้ตายทั้ง 6 ราย พบกระสุนปืนเอ็ม 16 ตรงกับอาวุธปืนประจำกายของทหารกองพันจู่โจมที่ปฏิบัติการบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส
3, ข้ออ้างว่ามีชายชุดดำ 2 คนยิงปืนก่อน ทหารจึงต้องยิงสวนกลับไป ข้อเท็จจริงขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน มีผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศอยู่เป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีภาพชายชุดดำที่กล่าวอ้างแม้แต่ภาพเดียว
ประกอบกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการในจุดใกล้เคียงได้เบิก ความว่า ไม่พบชายชุดดำในบริเวณดังกล่าวเลย
4, หากมีชายชุดดำอยู่จริงคงไม่ปล่อยให้ทหารยิงฝ่ายเดียวนานถึง 40 นาที อีกทั้งทหารที่ประจำการบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสเบิกความยอมรับว่า ไม่มีชายชุดดำในวัดปทุมวนาราม
5, พยานที่อ้างว่ามองเห็นปืนในกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีน้ำหนักรับฟัง เนื่องจากตรวจพบว่าทหารได้พาพยานปากนี้ไปรับเงินในค่ายทหารแห่งหนึ่งก่อนนำตัวไปให้ตำรวจสอบปากคำ
6, การตรวจเขม่าปืนในมือผู้ตาย ทั้ง 6 ศพ ไม่พบคราบเขม่าดินปืนและไม่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืน
7, การอ้างว่าตรวจพบอาวุธปืนในวัดปทุมวนาราม หลังจากการยุติการชุมนุมผ่านไปเป็นเวลานานหลายเดือน เป็นข้อพิรุธขาดนํ้าหนักให้ศาลเชื่อได้ว่า มีอาวุธปืนสงครามในวัดจริง
สรุป...ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้เสียชีวิต 5 ราย ตายเพราะถูกทหารกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 ที่ประจำการอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสยิงถึงแก่ความตาย
ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ถูกทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 31 ที่ประจำการบนถนนพระรามที่ 1 ยิงถึงแก่ความตาย
ทั้งหมดที่สรุปข้างต้นคือความจริง 7 ประการ ที่ศาลอาญาได้มอบความยุติธรรมให้แก่เหยื่อคดีสังหารหมู่วัดปทุมฯ ครบถ้วนทั้ง 6 ราย
“แม่ลูกจันทร์” ขอประทานกราบเรียนท่านคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ โปรดนำความจริงก้อนนี้ไปต้มรับประทานแก้อาการประสาทชา
ปล.นักข่าวไปถามอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าศาลอาญาได้ชี้แล้วว่าผู้เสียชีวิต 6 ศพ วัดปทุมฯ ถูกทหารยิงตาย
“อภิสิทธิ์” ตีหน้าหล่อตอบว่าศาลระบุว่ากระสุนปืนมาจากฝั่งทหาร ยังไม่ยืนยันแน่ชัดว่าเป็นฝีมือใครยิง
อืมม์...ลีลาแบบนี้เค้าเรียกว่าแถทะลุซอย.
“แม่ลูกจันทร์”
ที่มาของข่าว
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/362198
เพิ่มเติมการพิจารณาคดี
http://www.prachatai.com/journal/2013/08/48039
#หยุดดัดจริตประเทศไทย
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar