“พล.อ.อภิรัชต์” ประชุมผู้นำเหล่าทัพ เตรียมแจงข่าว “ต่ออายุราชการ”
เปิดประวัติ "พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้" ว่าที่ ผบ.ทบ. คนใหม่ สายตรง "บิ๊กแดง"…
ข้อคิดเกี่ยวกับขอบเขตการใช้อำนาจของวชิราลงกรณ์จนถึงขณะนี้และในอนาคต
กระทู้นี้จะอภิปรายปัญหาที่กว้างออกไปกว่าเรื่องทรงผม "เกรียนวชิราลงกรณ์" แต่ก่อนอื่น ขอให้ดูเอกสารประกอบ ซึ่ง "มิตรสหายท่านหนึ่ง" เพิ่งส่งมาให้
นี่เป็นเอกสารคำสั่งของกองทัพอากาศ ในลักษณะทำนองเดียวกับเอกสารที่โพสต์ให้ดูใน 2 กระทู้ก่อน
ถ้าเทียบกับเอกสารที่โพสต์ให้ดูก่อนหน้านี้ เอกสารของกองทัพอากาศนี้ เขียนแบบกว้างๆและไม่มีการบังคับโดยตรงมากที่สุด คือเพียงแต่บอกว่า ผู้บัญชาการกองทัพอากาศให้กวดขันกำลังพลทุกคน (รวมไปถึงลูกจ้างและนักเรียนทหาร) ให้ "เป็นผู้มีระเบียบวินัย" "...โดยเฉพาะการไว้ทรงผม [ที่] ยังไม่เป็นไปตามระเบียบราชการที่กำหนด"
ไม่มีปัญหาว่า นี่เป็นคำสั่งที่เป็นผลมาจากวชิราลงกรณ์เหมือนคำสั่งอื่นๆก่อนหน้านี้แน่
ประเด็นที่น่าคิดเฉพาะหน้าเกี่ยวกับการต่างของ "ระดับการบังคับ" ของหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่ระดับ full-blown หรือเต็มที่ กรณีสำนักพระราชวัง-องคมนตรี (ทั้งชายหญิงต้อง "เกรียนวชิราลงกรณ์" หมด) ลงมาระดับที่บังคับทหารชายทั้งหมดของ บก.ทท. (คือยังยกเว้นหญิง) และบังคับน้อยลงไป (เขียนแบบกว้างๆมากขึ้น) กรณี ตำรวจ, กองทัพบก และกองทัพอากาศนี้ สะท้อนอะไรหรือไม่?
วชิราลงกรณ์คง "สั่ง / ขอ / ปรารภ" ให้ข้าราชการโดยเฉพาะทหารตำรวจไว้ "ทรงผมพระราชนิยม" แล้วหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อเขาโดยตรงอย่างสำนักพระราชวัง-องมนตรี ก็สั่งต่อแบบ full-blown บังคับทั้งหมดเลย ทีนี้ ระดับที่ต่างๆกันของหน่วยงานอื่นๆนี่ เพราะอะไร? เพราะตัวผู้บัญชาการ (ผบ.สส. ผบ.ตร. ผบ.ทบ. ผบ.ทอ.) รู้สึกถึง หรือยอมรับใน อำนาจวชิราลงกรณ์มาก-น้อยต่างกัน หรือมีวิจารณญาณมีสติต่างกัน? หรือทั้่งสองเหตุผล? หรือขึ้นกับ ผบ.คนไหนต้องการ "เลีย" วชิราลงกรณ์มากกว่า? ซึ่งคงสัมพันธ์กับประเด็นตั้งแต่ว่า วชิราลงกรณ์พูดออกมาในระดับไหน วชิราลงกรณ์อาจจะเพียงแต่ "ปรารภ" คือเปรยๆ ("ข้าพเจ้าเห็นว่าถ้าข้าราชการทุกคนไว้ผมแบบราชวัลลภก็ดีนะ เป็นระเบียบเรียบร้อยดี") หรือ "ขอ" ("ข้าพเจ้าอยากขอให้พวกท่านลองไปพิจารณาว่า จะทำกันได้ไหม ให้ทุกคนในสังกัดไว้ผมแบบนี้น่ะ")
อะไรประมาณนี้ แล้ว ผบ.แต่ละคนก็มี response หรือตอบสนองในระดับที่ต่างๆกัน ขึ้นกับระดับการรับอำนาจ-อยากเลีย-หรือมีสติ มากน้อยต่างกันดังกล่าว
................
แต่ประเด็นที่น่าคิดและคอยจับตาสังเกตต่อ คือประเด็นที่กว้างออกไป ซึ่งผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้บ้าง นั่นคือ จากนี้ไป วชิราลงกรณ์จะเข้าแทรกแซงหรือยุ่งเกี่ยวกับการบริหารบ้านเมืองหรือการเมืองแค่ไหนอย่างไร
ผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่า ที่มีหลายคนพูดถึงการใช้อำนาจแบบสมบูรณาญาสิทธิ์ (หรือการปกครองด้วยความกลัว) ของวชิราลงกรณ์นั้น #เป็นความจริงแต่ยังมีความจำกัด คือที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ จะเห็นว่า ลักษณะการใช้อำนาจดังกล่าว ยังจำกัดอยู่กับเรื่องที่เกี่ยวกับกษัตริย์โดยตรง ตั้งแต่กรณีมาตราในรัฐธรรมนูญที่ให้แก้, การขโมยหมุดคณะราษฎร-วางหมุดหน้าใส มาถึงการสร้างอาณาจักร "ราชการในพระองค์", การกินรวบ ("ปล้น") ทรัพย์สินแผ่นดินมูลค่าล้านล้านบาท (กรณีทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์), และเรื่องการลงโทษคนที่ทำงานเกี่ยวกับกษัตริย์โดยตรง (จุมพล ถึง ดิสธร และกรณีเล็กๆลงไปอีกนับไม่ถ้วน)
แน่นอน เรื่องทุกเรื่องที่เพิ่งพูด เป็นเรื่องสาธารณะแน่ เป็นผลประโยชน์และควรเป็นอำนาจของประชาชนที่จะตรวจสอบควบคุมการใช้อำนาจแบบสมบูรณาญาสิทธิ์ตามใจชอบของวชิราลงกรณ์แน่
อาณาจักร "ราชการในพระองค์" วชิราลงกรณ์จ่ายเงินเดือนเองเสียเมื่อไหร่ ใช้งบประมาณแผ่นดินทั้งนั้น แต่(ดัน)ไม่ยอมให้ใครมายุ่ง ไม่ต้องพูดถึงทรัพย์สินแผ่นดินมูลค่าล้านล้านบาทที่ปล้นไปเป็นของตัวเองทั้่งหมด หรือแม้แต่การสั่งลงโทษใครโดยไม่ต้องมีกระบวนการตามบรรทัดฐานการพิจารณาลงโทษข้าราชการ
แต่ประเด็นคือ ตราบเท่าที่วชิราลงกรณ์ยังจำกัด ไม่เอ๊กเซอร์ไซส์อำนาจออกมา "เกินรั้่ววัง" มากนัก ผลกระทบที่จะทำให้คนทั่วไป (แม้แต่ในหมู่ข้าราชการ ถ้าไม่ได้สังกัดวังโดยตรง) รู้สึกไม่พอใจหรือมีปฏิกิริยาต่อต้าน ก็จะจำกัดตามไปด้วย
อย่างว่า คนไทยเป็นคนที่ถูกสร้างให้ "เชื่อง" อยู่แล้ว แม้แต่กรณีคนรักเจ้าที่ยืนกรานมาหลายปีว่า ทรัพย์สินส่วนกษัตริย์มูลค่าล้านล้านบาทเป็นทรัพย์สินแผ่นดิน พอวชิราลงกรณ์ปล้นไปเป็นของตัวเอง ก็ยังเฉยๆอยู่.....
ผมเคยเล่าแล้วว่า มีมิตรสหายที่ผมคุยด้วยหลายคนเชื่อว่า โดยนิสัยของวชิราลงกรณ์ และเพื่อรักษาสถานะของเขาด้วย ในที่สุด เขาจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวใช้อำนาจ "นอกรั้่ววัง" มากขึ้นๆแน่
กรณี silly งี่เง่า อย่าง "ยกอกอึ๊บ" หรือ "ทรงผมเกรียนวชิราลงกรณ์" มีผลกระทบกว้างออกมากว่ารั้ววัง คือเริ่มออกมาถึงข้าราชการทั่วไปมากขึ้น อาจจะเป็น sign หรือสัญญาณเล็กๆในทิศทางนี้ แม้จะยังจำกัด คือแม้แต่ระดับการบังคับก็ยังไม่ถึงกับเต็มที่กับทุกหน่วยงานดังกล่าวข้างต้น
ประเด็นใหญ่สุดที่ผู้ติดตามการเมืองกำลังสนใจคือ ปัญหาว่าวชิราลงกรณ์จะเข้าแทรกแซง กำหนดตัวคนที่จะเป็นนายกฯคนต่อไปหลัง คสช / หลังเลือกตั้ง หรือไม่ และจะเป็นใคร
เพื่อนผมหลายคนเชื่อว่า ยังไงเสีย อย่างน้อยที่สุดเพื่อประกันให้เขาเองสามารถใช้อำนาจสมบูรณาญาสิทธิ์ในวังแบบตามใจชอบอย่างนี้ต่อไปได้ วชิราลงกรณ์จะต้อง "เม้กชัวร์" หรือทำให้แน่ใจว่า นายกฯคนต่อไป จะต้องเป็นคนที่ friendly หรือขึ้นต่อเขา ไม่ว่าจะยังเป็น "ตู่" ซึ่งทุกคนเบื่อเต็มทีต่อไป หรือเป็นคนอื่น
ทุกวันนี้ ผบ.ทบ. ทั้งคนนี้ และคนที่เป็นตัวเต็ง (อภิรักษ์ ซึ่งดังที่หลายคนเห็น "เลีย" วชิราลงกรณ์ด้วยการตัดผมเกรียนแล้ว) ก็ล้วนเป็นคนที่วชิราลงกรณ์โปรดปรานให้มาเป็นอยู่แล้ว ดังนั้น ตำแหน่งอย่าง นายกฯ ยังไงวชิราลงกรณ์ก็ต้องพยายามยื่นมือเข้ามามีส่วนกำหนดแน่ ไม่ปล่อยให้เป็นไปเองจากการกำหนด-แย่งชิงของ คสช เอง หรือระหว่าง คสช กับพรรคการเมือง
แล้วเรื่องนี้ จะมีผลกระทบต่อประชาชนหรือสังคมวงกว้างอย่างมากแน่ เช่น ถ้าวชิราลงกรณ์สนับสนุนยืนยันให้ "ตู่" อยู่ต่อทั้งๆที่ประชาชนทุกฝ่ายเบื่อเต็มที หรือกำหนดให้เอาคนอื่นที่ทุกฝ่าย "ยี้" พอๆกัน..... (วันก่อนผมเพิ่งคุยกับเพื่อนบางคนว่า สมัยนี้ ฝ่ายเจ้าไม่มีใครที่เด่นหรือมีความสามารถหรืออย่างน้อยพอมี "เครดิต" จริงๆ ไม่เหมือนสมัยก่อน กรณีอย่างสัญญา หรืออานันท์ ตอนนี้พยายามนึกหาคนแบบนี้ไม่ว่าในเครื่องแบบหรือนอกเครื่องแบบ ทหาร นักการเมือง หรือเทคโนแครต ที่วชิราลงกรณ์ หรือแม้แต่ คสช. จะหนุนขึ้นมาได้ นึกไม่ออก)
เพิ่มเติมกรณี "เกรียนวชิราลงกรณ์"
ต้องบอกว่า วชิราลงกรณ์ "บ่อสื่อจ่อ" และ "ปสด" จริงๆอ่ะครับ
สรุปแล้ว เอกสารที่ผมโพสต์เมื่อคืน (ใครยังไม่เห็นดูที่นี่ https://goo.gl/RrYDSS
) ครอบคลุมเฉพาะทหารชายทุกคนในสังกัด "กองบัญชาการกองทัพไทย" หรือ บก.ทท. (ดูหน่วยงานของ บก.ทท. ได้ที่นี่ https://goo.gl/qfq8FY เข้าใจว่าโดยรวมแล้ว น่าจะมีทหารในสังกัดเป็นหมื่น ซึ่งรวมถึงพวกผู้บัญชาการทหารสูงสุด เสนาธิการทหาร รองฯผบ.สส. ผู้ช่วย ผบ.สส. รองเสนาธิการทหาร ฯลฯ ด้วย) แต่ขณะเดียวกัน ได้มีเอกสารทำนองเดียวกันเผยแพร่ออกมา (ขอบคุณมิตรสหายสองท่านที่ส่งเอกสารสองอันแรกมาให้หลังไมค์ และขอบคุณ คุณ Andrew สำหรับเอกสารสุดท้าย) โดยมีขอบเขตครอบคลุมบังคับที่ต่างๆกันไป ดังนี้
(1) กองทัพบก (ภาพประกอบแรก)
ครอบคลุมเฉพาะทหารที่จะต้อง "ปฏิบัติหน้าที่เวรประจำพระองค์" ให้ "ตัดทรงผมตามพระราชนิยม"
(2) ตำรวจ (ภาพประกอบที่สอง)
เขียนในลักษณะกว้างๆกว่าเอกสารของ บก.ทท.และของกองทัพบก และไม่ได้อ้างอิงถึงวชิราลงกรณ์โดยตรง แต่ไม่มีปัญาหาว่าไอเดียมาจากอันเดียวกันแน่ ครอบคลุม "ข้าราชการตำรวจฝ่ายปฏิบัติการพื้นที่ทุกนาย" "...ต้องมีทรงผมที่แสดงออกถึงความเป็นผู้มีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด"
ยังต้องรอดูกันต่อไปว่า อีกหน่อยการบังคับตัดทรง "เกรียนวชิราลงกรณ์" นี้ จะขยายครอบคลุมหมดทั้งทัพบก-เรือ-อากาศ-ตำรวจ ในแบบเดียวกับ บก.ทท.หรือทหารราชวัลลภเลยหรือไม่
(3) ข้าราชบริพารในพระองค์สังกัดสำนักพระราชวังและสำนักองคมนตรีทุกคน (ภาพประกอบที่สาม)
อันนี้สำคัญไม่น้อย เพราะครอบคลุมบังคับข้าราชการทั้งชาย-หญิงทุกคน ผมไม่แน่ใจว่าจะนับรวมตัวองคมนตรีด้วยหรือไม่นะ - ไม่รู้จะได้เห็นเปรมหรือสุรยุทธ์ตัดเกรียนไหม 55 - ตาม รธน. และ พรฎ.จัดระเบียบราชการในพระองค์ถือว่าองคมนตรีเป็น "ข้าราชการในพระองค์ในตำแหน่งองคมนตรี" แต่คำสั่งใช้คำว่า "ข้าราชบริพาร" ไม่ใช่ "ข้าราชการ" ในพระองค์ ความจริงก็น่าจะนับรวมหมด แต่ไม่แน่ใจจะเอาขนาดนั้นไหม
อย่าลืมว่า ในหน่วยงานอย่างสำนักพระราชวัง จะมีพวกข้าราชการพลเรือนธรรมดา รวมถึงบรรดาสาวๆทั้งหลาย ที่จบมหาลัยจากคณะอักษรศาสตร์, ศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เต็มไปหมด คนเหล่านี้ปกติไม่มีทางจะไว้ผมทรงเกรียนติดหัวที่ทำให้ตัวเองดูเป็นเด็กผู้ชายแบบเดียวกับบรรดาทหารราชวัลลภหญิงของวชิราลงกรณ์ แต่ตอนนี้ต้องมาทำแล้ว
............
ความจริง ผมพอมีหลักฐานมานานแล้วว่า แม้แต่ในบรรดาทหารราชวัลลภ (ทหารส่วนตัวของวชิราลงกรณ์) โดยเฉพาะในบรรดาคนที่อายุยังน้อย (พวกที่ยังสาวๆทั้งหลาย) มีคนไม่แฮปปี้กับการถูกบังคับตัดเกรียนเป็นเด็กผู้ชายแบบนั้น แต่ผมขอไม่อธิบายหรือยกตัวอย่างละเอียด เพราะอาจจะทำให้พวกเธอเดือดร้อนได้
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar