อาจถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีพระราชดำรัสตอบสื่อเกี่ยวกับการเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
ร.10 : สื่อต่างชาติเผยแพร่คลิปในหลวงตรัส “ไทยเป็นดินแดนแห่งการประนีประนอม”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตอบคำถามสื่อต่างชาติเกี่ยวกับการชุมนุมเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า "ไทยเป็นดินแดนแห่งการประนีประนอม" ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ระบุในหลวงมีพระราชดำรัสกับเขาว่า "ต้องช่วยกันเอาความจริงออกมา"
นายโจนาธาน มิลเลอร์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 ของอังกฤษ และสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ ซึ่งได้เดินทางไปรายงานข่าวบริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง ในวันนี้ (1 พ.ย.) ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์โดยระบุว่า
"คืนนี้ผมได้สัมภาษณ์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวของประเทศไทยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ ในภาวะที่ราชอาณาจักรของพระองค์กำลังตกอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายจากการประท้วงและการเรียกร้องให้จำกัดพระราชอำนาจของพระองค์ พระองค์ตรัสกับผมว่า "ไทยเป็นดินแดนแห่งการประนีประนอม"
ทวิตเตอร์ของ Channel4 เผยแพร่คลิปขณะนายมิลเลอร์ทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าคนเหล่านี้จงรักภักดีต่อพระองค์ ทว่าพระองค์จะมีพระราชดำรัสอย่างไรต่อผู้ชุมนุมที่ออกมาบนท้องถนนเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสกลับว่า ข้าพเจ้าไม่มีความคิดเห็น เรารักพวกเขาเฉกเช่นเดียวกัน โดยตรัสคำดังกล่าวซ้ำ 3 ครั้ง
จากนั้นผู้สื่อข่าวทูลถามต่อว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการประนีประนอมกันเกิดขึ้น ทรงตรัสว่าประเทศ ไทยเป็นดินแดนแห่งการประนีประนอม จากนั้นจึงทรงพระดำเนินต่อไป
"ต้องช่วยกันเอาความจริงออกมา"
ก่อนหน้านี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่ม "ไทยภักดี" โพสต์ภาพขณะเฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยระบุว่า พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสกับเขาว่า "ต้องช่วยกันเอาความจริงออกมา"
นพ.วรงค์ เผยเรื่องนี้ผ่านทางบัญชีเฟซบุ๊กที่ชื่อ Warong Dechgitvigrom โดยโพสต์ภาพขณะเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จพระราชดำเนินไปในการเปลี่ยนเครื่องทรงถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร จากฤดูฝนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาว ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันนี้ (1 พ.ย.) ว่า
"ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ท่านตรัสกับผมว่า 'ต้องช่วยกันเอาความจริงออกมา'"
นพ.วรงค์ เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "ไทยภักดี" โดยอ้างว่าเป็นองค์กรกลางในการรวบรวมประชาชนผู้ภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ประกาศภารกิจสำคัญคือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ "ถูกรังแกจากผู้ไม่หวังดี"
เขาให้เหตุผลด้วยว่าการประกาศ "10 ข้อเรียกร้อง" ของนักศึกษากลุ่ม "แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม" คือเหตุผลที่ทำให้ "รับไม่ได้" จนต้องลุกขึ้นมาจัดตั้งกลุ่มไทยภักดีดังกล่าว
ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้ ประชาชนที่สวมเสื้อสีเหลือง พากันจับจองที่นั่งตั้งแต่บริเวณศาลหลักเมืองถึงประตูวิเศษชัยศรี ที่พระบรมมหาราชวัง เพื่อเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่เสด็จ ฯ มาทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูหนาว ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.
หลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ ได้ทรงมีพระราชปฏิสันถารอย่างใกล้ชิดกับประชาชนที่ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอย่างเนืองแน่นบริเวณพระบรมมหาราชวัง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระพักตร์ยิ้มแย้ม โบกพระหัตถ์ทักทายฝูงชน และบางขณะยังยื่นพระหัตถ์ให้ประชาชนได้สัมผัส เช่นเดียวกับ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ซึ่งได้เข้าร่วมพิธี และได้ออกมาทักทายประชาชน ถ่ายรูป และจับมืออย่างเป็นกันเอง
ก่อนหน้านี้ไม่นาน เฟซบุ๊ก "เยาวชนปลดแอก" และเฟซบุ๊ก "แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม" ได้โพสต์ข้อความว่า "ไม่ลดเพดาน" ข้อเรียกร้อง พร้อมยืนกรานใน 3 ข้อเรียกร้องเดิมของราษฎร คือ
1. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออก
2. ยุบสภา และร่างรัฐธรรมนูญใหม่
3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
พร้อมระบุว่า สิ่งเดียวที่ควรลด คือ ความเป็นเผด็จการ เพิ่มความเป็นคนให้มากขึ้น และว่าทั้ง 3 ข้อเรียกร้องนี้ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางเดียวที่นำพาประเทศไทยหลุดพ้นจากการเป็นประเทศกำลังพัฒนา และก้าวไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว เยาวชนและประชาชนจะสามารถมีอนาคตที่มีแสงสว่าง สามารถลืมตาอ้าปากได้อย่างเท่าเทียม สมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar