......อัสดงโรงลิเก........ ....มินานดอกออกพรรษา เทวดาถ้าจะหมอง มิอาจสู้ปูคะนอง เห็นจำต้องลาก่อนหนา ด้วยสังขารมันร่วงรวย หมดตัวช่วยด้วยหยูกยา เทวดีเทวดา ออกพรรษาคงลาโรง.....ฉากสุดท้ายของหัวหน้าคณะลิเกลวงโลก เหลือเพียงพวง “หรีดปิดโรง”

โดย  ขุนเขาจากแดนไกล

ขุนเขาบอก :

อัสดงโรงลิเก........ ....

เมื่อสิ้นคนคุ้มเงาหัว เตรียมลากตัวเข้ากรงขัง
เมื่อสิ้นคนนั่งรถสั่ง ขังทั้งคนขังทั้งหมา
ผืนสังขารคงไม่ไหว ใกล้สิ้นใจใกล้เวลา
คนที่นั่งสั่งบัญชา คงถึงคราพิราไป

ให้อมพระมาเต็มปาก ก็คงยากที่จะรอด
หลายร้อยมือที่สรวมกอด ยื้อทางรอดคงไม่ไหว
คนรับคำเขามาสั่ง มรณังตามกันไป
ใครฆ่าคนคนของใคร กรรมของใครกรรมของมัน

อานิสงค์แลผลบุญ คงไม่หนุนคนสั่งฆ่า
วิญญาณคนพฤษภา คงปรีดาที่อาสัญ
เตรียมรอรับดวงวิญญาณ คนสั่งการทุกวารวัน
แดนนรกเตรียมลงทัณฑ์ มันผู้บั่นชีพประชา

มินานดอกออกพรรษา เทวดาถ้าจะหมอง
มิอาจสู้ปูคะนอง เห็นจำต้องลาก่อนหนา
ด้วยสังขารมันร่วงรวย หมดตัวช่วยด้วยหยูกยา
เทวดีเทวดา ออกพรรษาคงลาโรง

โรงลิเกเทกระโถน ไร้ผู้คนดั่งหนหลัง
เสียทั้งตัวเสียทั้งตังค์ ต้องทนฟังลิเกหลวง
ตาสว่างอย่างถาวร จากคำสอนที่หลอนลวง
ค่าของคนจากแดนสรวง เหลือเพียงพวง “หรีดปิดโรง”

จงเป็นสุขเถิดลูกเอย ลูกผู้เคยรับบัญชา
เวรมันทำกรรมมันมา หลังเข่นฆ่าเขาตายโหง
หลังเราสิ้นดินกลบหน้า หมดเวลาปิดฝาโรง
คงต้องขังทั้งโขยง อัสดงโรงลิเก........ ....คุกกันแน่ละมึง..