ธรรมโกย Vs ธรรมกรวย
คอลัมน์ ใบตองแห้ง
ประเทศไทยวันนี้คลับคล้ายอยู่ในสงครามพิทักษ์พระพุทธศาสนา ขนาดแร็พเปอร์ยังออกมาชวนวิวาทะกถาธรรม แต่เดี๋ยวก่อน นี่เรากำลังจะใช้ ม.44 กวาดล้างเดียรถีย์ หรือต้องการดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาว่าฟอกเงินและรับของโจร ตามกระบวนการยุติธรรม
ถ้าสังคมไทยลงมติว่า ธรรมกายบิดเบือนศาสนา ธัมมี่ ก็สมควรติดคุกหัวโตฐานรุกป่า ฟอกเงิน รับของโจร 14 โล้น ต้องถูกจับสึกและดำเนินคดีอาญา ฐานไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. อย่างนั้นใช่ไหม
หรือนี่คือวิถีไทย ที่พิพากษาใครแล้วรอดยาก หากเห็นว่าชั่วช้าเลวทราม ก็สนับสนุนให้ใช้อำนาจอะไรก็ได้ ทำลายล้างโดยไม่เลือกวิธีการ
โถ กระทั่งลุงตู่ยังปวดหัว กับกระแสสังคมกระแสสื่อ ที่ยุให้ใช้ ม.44 ยึดวัดธรรมกาย ไม่ใช่แค่จับธัมมชโยให้ได้ แต่ต้อง ล้างบาง ไม่งั้นจะปรามาสว่ารัฐบาลไม่มีน้ำยา
DSI ใช้ ม.44 สามวันแรก ธรรมกายยอมให้ค้นโดยสงบ แต่ไม่พบธัมมชโย ตรวจค้นจนสิ้นสงสัย เพราะค้นกระทั่งในลิ้นชัก (เผื่อมีอิทธิฤทธิ์ย่อร่างได้) ก็ยังไม่เลิกใช้ ม.44 ยังปิดพื้นที่ประกาศให้ศิษย์วัดออกไป พอพระเณรสาวกไม่พอใจ ลุกฮือกระทบกระทั่ง กระแสสังคมก็ เห็นไหม ธรรมกายปกป้องคนผิด ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพ ม.44 ที่ลุงตู่สั่งแล้วต้องเป็นกฎหมาย
นี่ต่างอะไรกับม็อบเสื้อสี ที่เมื่อกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่รัฐ ขอคืนพื้นที่ คนอีกสีก็ยุยงให้ใช้กำลัง ใช้ความรุนแรงเข้าสลาย แต่สีไหนยึดกระแสสื่อกระแสสังคมได้ ก็ถูกต้องเป็นธรรม สีไหนถูกกระแสสื่อกระแสสังคมเกลียดชัง ก็ถูกใช้กระสุนจริง
ใช่เลย พระเณรลูกศิษย์ธรรมกายไม่ควรยัวะ ไม่ควรมีอารมณ์ อยากเป็นพุทธต้องข่มสติ อดทนอดกลั้น แต่ไหนว่าธรรมกายไม่ใช่พุทธไง ว่าเขาสอนให้สาวกคลุ้มคลั่ง อุทิศตนอุทิศสตางค์จนหมดเนื้อหมดตัว แล้วจะเรียกร้องอะไร
ถ้าว่าธรรมกายเป็นธรรมโกย แหกวิถีพุทธไทย ก็ใช่เลย แต่พุทธธรรมที่ตั้งกรวยไล่ล่าเดียรถีย์ ก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน เห็นแต่คริสต์ยุคกลางล่าแม่มด หรือจีนล่าลัทธิแก้ยุคปฏิวัติวัฒนธรรม
คนดีมีศีลธรรมคงรู้สึกว่าสังคมไทยใกล้ถึงจุดสิ้นสุด ถึงจุดเสื่อมเต็มที จนใช้ขันติอุเบกขาอดทนอดกลั้นต่อไปไม่ได้ ต้องไล่ล่าเทวทัต กวาดล้างสังคมทราม ทั้งทางการเมืองทางศาสนา เพื่อสร้างสังคมอุดมคติอันสมบูรณ์ (ตามร่างรัฐธรรมนูญ) ไว้ให้ลูกหลาน
น่าประหลาดที่สังคมไทยมีความรู้สึกอย่างนี้ รู้สึกว่าต้องทำลายล้างอะไรเป็นอย่างๆ แล้วโลกจะดีขึ้น ทั้งที่ความเป็นจริงก็ไม่ได้หลุดพ้นไปไหน ทำลายนักการเมือง ทำลายประชาธิปไตย ทุจริตคอร์รัปชั่นก็ไม่ได้หมดไป ทำลายธรรมกาย แล้วความเชื่อผิดเพี้ยนหายไปไหม คนไทยเข้าถึงพระธรรมคำสอนแค่ไหน
ถามจริง ตรงไหนแน่ที่สังคมไทยรู้สึกว่าธรรมกายเป็นภัย ธัมมชโยหลอกลวงทรัพย์สินไปเป็นของตัวเอง? ธัมมชโยเสพสุข มั่วสีกา? ก็ไม่ใช่ ธัมมชโยไม่ได้เป็นแบบเณรคำ สังคมไทย รัฐไทย รู้สึกว่าธรรมกายเป็นภัยเพราะใช้ทรัพย์สินเงินทองไปสร้างเครือข่าย แผ่บารมี มีอิทธิพลแทรกซึมในวงการสงฆ์ต่างหาก
ธรรมกายจัดอบรมธรรมทายาท ธรรมกายจัดบวชพระ 100,000 รูปทุกหมู่บ้านทั่วไทย ฯลฯ ไม่ต้องสงสัยเลย ธรรมกายอุดหนุน ถวายปัจจัย และได้ใจพระมหานิกายจำนวนมาก ทุกภูมิภาคทั่วไทย แต่ในสายตาผู้มีอำนาจ ธรรมกายกำลังสร้างฐานอำนาจซ้อนในคณะสงฆ์ ซึ่งรัฐไทยยอมไม่ได้ โดยเฉพาะในยุคสมัยที่กองทัพและชนชั้นนำกำลังสร้างรัฐแห่งความมั่นคง ชูอุดมคติชาติศาสนาเป็นหนึ่งเดียว
นี่ไม่เหมือนสันติอโศก เคยถูกมองว่านอกรีต เป็นภัย แต่สันติอโศกก็สร้างคอมมูนของตัวเองไป ไม่ยุ่งกับวงการสงฆ์ ซ้ำยังสนับสนุนรัฐแห่งความมั่นคง
ในทางกลับกัน เราจะเห็นว่ารัฐไทย สังคมไทย ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย กับการตีความพุทธศาสนาผิดๆ หรือการหาผลประโยชน์ พุทธพาณิชย์ เข้าพกเข้าห่อ ตราบใดที่ไม่รู้สึกเป็นภัยต่อความมั่นคง ตราบใดที่ไม่เกิดข่าวอื้อฉาวจนลูกขุนออนไลน์จี้ให้จัดการ
คำถามคือ เราจะปฏิรูปศาสนากันจริงไหม หรือแค่จัดการธรรมกาย คำถามคือ จัดการธรรมกาย จัดการ ปรองดอง ภายใต้ ม.44 แล้วจะบรรลุอุดมคติรัฐแห่งความมั่นคงได้จริงหรือ หรือยิ่งแตกแยกไปกันใหญ่
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar