ระบอบสฤษดิ์น้อย :ใบตองแห้ง
นิตยสาร Time ฉบับไก่อูภาคภูมิใจ เอาลุงตู่ขึ้นปก Democrat Dictator พร้อมตั้งฉายา “สฤษดิ์น้อย” ลุงป้อมโต้ว่า ไม่ใช่สฤษดิ์ซักหน่อย เพราะไม่ได้ดุร้าย ไม่เคยเอาคนไปยิงเป้าอ้าว ไปว่าสฤษดิ์ดุร้ายได้ไง คนไทยชอบสฤษดิ์เยอะไป ยกย่องว่าทำให้ชาติเจริญ ใช้ ม.17 จับผู้ร้ายไปยิงเป้า นี่ถ้าลุงตู่เอามั่ง ใช้ ม.44 จับคนข่มขืนฆ่า ฆ่าหั่นศพ ไปยิงปุปุ เผลอๆ คนไทยจะนิยมชมชอบด้วยซ้ำ
Time คิดผิด คิดว่าคนไทยไม่ชอบสฤษดิ์ ที่ไหนได้ ต่อให้ไปอาศัยประเทศคนอื่นอยู่ อาศัยแผ่นดินอังกฤษ ฝรั่งเศส ก็ยังชื่นชอบระบอบเผด็จการ คนไทยเกลียดนักการเมืองต่างหาก อยากย้อนไปอยู่ยุคสฤษดิ์ ที่สร้างถนนสร้างเขื่อนน้ำไหลไฟสว่าง ส่งเสริมการลงทุน จนจีดีพีโตปีละ 7% ทุกวันนี้คนตั้งมากก็ยังยกย่อง อ.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ แต่ไม่ใช่ตอนด่าเผด็จการ ยกย่องว่าช่วยสฤษดิ์สร้างชาติต่างหาก
คนไทยเพียงอยากลืมเรื่องจอมพลผ้าขาวม้าแดง ตายคาทรัพย์สิน 2 พันกว่าล้าน แต่ก็มั่นใจว่าลุงตู่ไม่เป็นอย่างนั้น ลุงตู่มีหิริโอตตัปปะ ปัดโธ่ แค่ใส่ผ้าพันคอหลุยส์ วิตตอง ยังต้องลบภาพ
ลุงตู่จึงเป็นที่รัก เป็นความหวัง ของคนมีการศึกษายุคดราม่า ออนไลน์ ตื้นตันง่ายกับความดีมีศีลธรรม รักษ์โลกรักสัตว์รัก สิ่งแวดล้อม พร้อมไลฟ์สไตล์ชิกๆ ชิลๆ โดยไม่ต้องมีเลือกตั้ง
เพียงแต่คนไทยลืมง่าย หรือไม่เคยอ่านประวัติศาสตร์ยุคสฤษดิ์เกิน 8 บรรทัด ไม่เคยรู้ว่าการพัฒนาทุนนิยมก้าวกระโดดในยุคเผด็จการ แลกมาด้วยความเหลื่อมล้ำ เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนใหญ่ที่สัมพันธ์กับทหาร ทุนท้องถิ่นที่เข้าถึงข้าราชการ จนเติบโตเป็นทุนผูกขาด และตระกูลนักการเมืองในปัจจุบัน
ส่วนที่ใช้ ม.17 ยิงเป้า “คนร้าย” นอกจากเสรีไทย ผู้คัดค้านรัฐประหาร เมื่อไฟไหม้ตลาด สฤษดิ์ก็จับเจ้าของบ้านต้นเพลิงไปยิงเป้า โทษฐานวางเพลิง โดยไม่ต้องขึ้นศาล
ที่ว่าสฤษดิ์ทำให้บ้านเมืองสงบ ก็ใช่เลย ทุกคนต้องเชื่อฟัง สฤษดิ์สถาปนาระบอบอำนาจเด็ดขาดจากบนลงล่าง ของชนชั้นนำกลุ่มเล็กๆ ปิดกั้นประชาชนไม่ให้มีปากเสียง ใครเห็นต่างก็ติดคุกติดตะรางแล้วหนีเข้าป่าแบบจิตร ภูมิศักดิ์ แต่ไม่รู้ไง พวกร้องเพลง “เขาตายในชายป่า” กลับมาเชียร์รัฐประหาร
ระบอบสฤษดิ์ยังทิ้งพิษร้ายในสังคมไทยยาวนาน ทั้งทาง การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความเชื่ออำนาจนิยม ความเป็นไทยต้องมีหนึ่งเดียว ระบอบรวมศูนย์อำนาจ รัฐราชการ ซึ่งนักการเมืองจากเลือกตั้งเข้ามาสวมต่อ
ลุงตู่เพิ่งคุยข้ามโลกว่า 4 ปี คสช.ฟื้นประเทศจากรัฐล้มเหลว จนประชาคมโลกยอมรับ ใช่เลยครับ จากรัฐล้มเหลวสู่รัฐเป็นใหญ่ แต่ไม่ใช่ประชาชนนะ รัฐราชการต่างหาก
4 ปี คสช.สถาปนารัฐราชการเข้มแข็ง เป็นใหญ่ ทั้งที่ไม่ได้ปฏิรูปอะไรเลย แต่มีการขยายอำนาจ รวมศูนย์อำนาจ ผ่านกลไกความมั่นคง ทหาร มหาดไทย เช่น ฟื้นโครงสร้างสงครามเย็น ให้ กอ.รมน.คุมทุกอย่าง ตั้งแต่ปากท้อง ไทยนิยม ไปถึงความคิดคน
รัฐราชการยุค คสช.ใช้อำนาจเข้มข้น จัดระเบียบสังคมไปทั่ว สถาปนารัฐแห่งความถูกต้อง ทำอะไรไม่เคยผิด ชาวบ้านนั่นแหละผิด และต้องปรับตัว โดยอาศัยชูภาพข้าราชการเป็นคนดี ขอให้เชื่อมั่น ถ้าไม่ดี ก็จะมีองค์กรกระหายความดีตามล่าเต็มไปหมด ทั้ง สตง.ป.ป.ช.ป.ป.ท. แถม ปปง. จนไม่เป็นอันทำการทำงาน
ระบอบรัฐราชการเป็นใหญ่สร้างขึ้นเพื่อไม่ให้ประชาชนหวังพึ่งการเมือง การใช้ความเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยผ่านการเลือกตั้ง แม้พยายามช่วยเหลือประชาชน แต่ก็ทำตัวเป็นรัฐการกุศล ที่ชาวบ้านต้องตื้นตัน ไม่ใช่การให้บริการ หรือเป็นสวัสดิการจากนโยบายพรรคการเมืองที่ชาวบ้านเลือก แล้ว “พ่อขุนอุปถัมภ์” ก็จะทวงบุญคุณแล้วสั่งให้เชื่อฟัง
โครงสร้างนี้จะอยู่เป็นปัญหาไปอีกนาน ต่อให้พ้นยุค คสช. เหมือนที่ต่อสู้กันตั้งนานก็ล้างมรดกสฤษดิ์ไม่หมด
ส่วนความเหลื่อมล้ำจะเหมือนกันไหม แบบคนรวยยิ่งรวย คนจนยิ่งจน ประชาชนคงบอกได้ หมดอำนาจแล้วจะมีใครถูกจับได้ว่าโกงอย่างสฤษดิ์หรือไม่ เชื่อว่าลุงตู่ไม่เป็น แต่คนอื่นไม่รับประกัน
ระบอบอำนาจนิยม ไม่ว่าผู้นำจะเป็นคนอย่างไร ก็ทำลายความเป็นประชาธิปไตย เพราะรากฐานประชาธิปไตยคือ ประชาชนต้องไม่ไว้วางใจรัฐ ไม่ไว้วางใจผู้มีอำนาจ มุ่งตรวจสอบ ลด และกระจายอำนาจ
เมื่อไหร่ก็ตามที่เชื่อรัฐเป็นใหญ่ รัฐคนดี รัฐถูกหมด เมื่อนั้นก็หมดกันกับคำว่าประชาธิปไตย
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar