fredag 25 januari 2013

"เร่งสุมไฟก่อนกลายเป็นเถ้าถ่าน" อำมาตย์เผด็จการ คงคิดว่าประชาชนจะหนาวสั่นเพราะความกลัว เป็นความคิดของพวกไดโนเสาร์ แต่หารู้ไม่ว่าประชาชนนั้นอดทนแข็งแกร่งไม่ได้หวั่นไหวกับคำขู่ ไม่กลัวร้อนไม่กลัวหนาว ไม่กลัวอำมาตย์ ไม่กลัวเผด็จการ ไม่กลัวคำตัดสินของศาลโจร ขอเตือนนายทวี ประจวบลาภ อย่าทำตัวเป็นควายจมปลักอยู่ในโคลนตม ไม่รู้ว่าโลกเขาไปถึงไหน มัวแต่เป็นทาสรับใช้ ไม่รู้จักรักศักดิ์ศรีคุณค่าของตัวเอง ดวงตามืดบอดหลับหูหลับตาพูดออกมาได้อย่างไรว่าต่างประเทศไม่รู้จักไม่เข้าใจเรื่องเมืองไทย นายทวีช่างเป็นไอ้โง่ไม่น่าเชื่อว่ามีตำแหน่งเป็นถึง"อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา" นอกจากนี้ยังมาสำรอกข่มขู่ อ.สมสักดิ์ เจียมธีรสกุลและคณะอาจารย์อื่นๆอีก ขอเตือนนายทวีอีกไม่นานนายทวีคงมีโอกาสได้สัมผัสกับตัวเองของความหมายคำว่า"จำเลย ".

ศาลอาญาเล็งตรวจสอบ "สมศักดิ์ เจียมฯ" ว่า "มีเเนวคิดเเละบทความที่สื่อออกมาที่จะเสียหายต่อสถาบันเเละศาล"

เมื่อวันที่ 25 มกราคม นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงกรณีที่เครือข่ายกลุ่มคนต่อต้านไม่เอา ม.112 มาประท้วงหน้าศาลอาญา ว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของศาลอาญาดูเเลรักษาความสงบ ซึ่งก็ไม่มีเหตุการณ์ร้ายเเรงหรือลุกลาม ส่วนที่มีการเผาตำรา หรือเเจกเอกสารนั้นก็เป็นการเเสดงความไม่เห็นด้วยในกระบวนการยุติธรรมเเละเเสดงออกทางสัญลักษณ์ ทางศาลอาญาก็จะไม่มีการดำเนินคดีอะไรกับคนกลุ่มนี้ เพราะจะเป็นการต่อความยาว ผู้ชุมนุมก็ชุมนุมบริเวณข้างหน้าศาลไม่ได้เข้ามาชุมนุมในเขตรั้วของศาล โดยตนคิดว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์ลุกลามไปกว่านี้เเล้ว เพราะทางศาลอาญามีการชี้เเจงผ่านสื่อมวลชนไปเเล้วถึงคดีของนายสมยศ เเละเชื่อว่าประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นคนส่วนมากเเละมีความคิดเป็นกลางจะมีความเข้าใจ

"เเต่สิ่งที่ น่าเป็นห่วงก็คือคนบางกลุ่มมีการปลุกระดมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือโดยการ ดึงต่างประเทศเช่นสหภาพยุโรป(อียู)เข้ามาซึ่งก็ไม่เเน่ใจว่าทางต่างประเทศจะ มีความเข้าใจในวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมของประเทศไทยหรือไม่เเต่ที่ตนเชื่อว่าจะ ไม่บานปลายเพราะกระบวนการยุติธรรมเรามีบทบัญญัติชัดเจนเเละตรวจสอบ ได้"อธิบดีศาลอาญาระบุ

นายทวีกล่าวว่าส่วนกรณีบทความของนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฏหมายอิสระ นั้นหลังจากที่ทางสื่อมวลชนได้ลงข่าวไปเเละมีบทความชี้เเจงมาจากนายวีรพัฒน์อีกครั้งนั้น ทางศาลก็ไม่ติดใจที่จะถือสาหาความอีก เเละจะถือเป็นการเเสดงความคิดเห็นทางวิชาการ ซึ่งบทความในครั้งเเรกมีลักษณะที่สั้นเกินเเละมีความเเข็งกร้าว ส่วนบทความชี้เเจงครั้งที่สองมีการอธิบายรายละเอียดของเจตนาที่ต้องการจะสื่อสารมากขึ้น ก็ถือเป็นบทเรียนไป ซึ่งทั้งฝ่ายศาลเเละนักวิชาการต้องมองให้ละเอียดมากขึ้น

"เเต่ในส่วนของกรณีอื่นๆก็จะดำเนินการตรวจสอบต่อไปอาทิกรณีของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็มีลักษณะเเข็งกร้าวเกินพอสมควรมีเเนวคิดเเละบทความที่สื่อออกมาที่จะเสียหายต่อสถาบันเเละศาล รุนแรงและแข็งกร้าวมากว่านายวีรพัฒน์เป็นสิบเท่า ซึ่งมองว่าสุ่มเสี่ยงมาก ทางศาลกำลังดำเนินการตรวจสอบ เเละพิจารณาต่อไปว่าจะออกหมายเรียกมาสอบถามหรือไม่" อธิบดีศาลอาญาระบุ

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar