นิยาม...คำว่าคนดี....
ความรู้ดี..ฐานะดี..หน้าตาดี
เป็นคนดี..ได้ทันที..ศรีสมัย
เครื่องวัดค่า..ความโสมม..สังคมไทย
ถูกเหยียบไว้..ใต้ตีนงาม..นามคนดี
คุกเข่าก้ม..พนมมือ..คือดีแล้ว
ยิ่งหมอบราบ..กราบเป็นแนว..แถวเป็นสี
ยิ่งเรืองรอง..ผ่องอำพัน..นั่นคนดี
รัศมี..สีทองทา..ค่าของคน
ด่าทักษิณ..เซนต์ซื้อที่..นี่ดีเลิศ
สุดประเสริฐ..เหยียบหัวไพร่..นี่ได้ผล
ด่าสีแดง..แต่งสีเหลือง..รุ่งเรืองตน
นี่อีกคน..ดียิ่งหนัก..นักวิชาการ
ประกาศตน..เป็นคนดี..นี่คือข้า
รักขึ้นหน้า..ขี้ข้าไพร่..ไล่ออกบ้าน
ฆ่าคนตาย..กลายเป็นเทพ..เสพวิมาน
มาตรฐาน..แห่งความดี..ศรีสังคม
พระเจ้าตาก..ฝากมาบอก..ว่าชอกช้ำ
ผลที่ทำ..กรรมที่ได้..ไม่เห็นสม
เสียบ้านเมือง..เพียงคนดี..ศรีสังคม
ใจโสมม..สมคบคิด..ปลิดชีพกู
มนุษย์เอ๋ย..ไหนเลยเจ้า..จึงเขลานัก
ทุ่มเทรัก..ภัครูปภาพ..กราบลูบถู
ลูบไล้ลอง..ทองลอกชุป..รูปเป็นรู
โง่แท้กู..รูแมลงสาบ..กราบตั้งนาน....เซ็งเลยตรู...
โดย หนานเมือง
![[IMG]](http://s22.postimage.org/nl0z51ok1/530892_171110769703444_1514741416_n.jpg)
นี้คือนิยาม คำว่าคนดีที่ให้คนไทยกราบไหว้และจงรักภักดี
ประหารผู้บริสุทธิ์ เพื่อให้ท่านหลุดพ้นจากคดี
ได้เป็น......ที่สง่างามสืบต่อไป
เช้ามืด ของวันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ 2498
นักโทษชายที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางบางขวาง 3 คน
ได้ถูกนำตัวไปยังหลักประหารของเรือนจำ คือ
เฉลียว ปทุมรส ชิต สิงหเสนี และบุศย์ ปัทมศริน ผู้ถูกกล่าวหาว่า
มีส่วนลอบปลงพระชนม์ในหลวงอานันท์ รัชกาลที่ 8
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489 หรือเป็นเวลา 8 ปี 8 เดือน 8 วันก่อนหน้านั้น
การสวรรคต ของในหลวงอานันท์
เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์สังคมและการเมืองไทย
แต่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดแต่ห้ามพูดถึงโดยเด็ดขาด
ก่อนหน้ากรณีสวรรคตไม่กี่ปี ในช่วงที่คณะราษฎรยังเข้มแข็งสามัคคีกันดี
สามารถปราบกบฏบวรเดชลงได้และศาลพิเศษ 2482
ยังได้วินิจฉัยว่ารัชกาลที่ 7 เป็นกบฏด้วยการบ่อนทำลายระบอบใหม่และ
ช่วยเหลือกบฏบวรเดช แต่กรณีสวรรคตเกิดขึ้นในปี 2489
ในเวลาที่เริ่มเกิดการแตกหักระหว่างจอมพล ป.กับนายปรีดี
และการเริ่มกลับมีบทบาทของกลุ่มนิยมกษัตริย์ที่เสียอำนาจไปเมื่อ 2475
กรณีสวรรคตจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นและสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่
สร้างประเพณีห้ามพูดเรื่องของ.......
และเป็นโอกาสที่ฝ่ายนิยม.....ได้หวนกลับมารื้อฟื้นทวงคืนอำนาจและ
อิทธิพลของระบอบราชาธิปไตยให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ในความเงียบงันของคดีสวรคต
ผู้ที่ได้รับผลโดยตรงหนักที่สุดก็คือ ผู้บริสุทธิ์ที่ถูกประหารชีวิตไปทั้ง สามคนนั่นเอง
แม้ว่าจะมีการรณรงค์เพื่อกู้ชื่อเสียงของนายปรีดีจนเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป
ว่านายปรีดีไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสวรรคต
นายปรีดีต้องสูญเสียอำนาจทางการเมืองและเสียชื่อเสียงเป็นเวลาหลายปี
แต่ก็ไม่ได้สูญเสียอย่างถึงที่สุด คือเสียชีวิตต่างกับผู้ถูกประหารทั้งสามคน
แต่สังคมไทยให้ความสำคัญกับชนชั้นนำอย่างนายปรีดีมากกว่าผู้บริสุทธิ์สามคนที่ต้องถูกประหารชีวิต
ประเทศไทยไม่มีประเพณีการแก้คำตัดสินที่ผิดของศาลฎีกา
หรือรื้อฟื้นชื่อเสียงอย่างเป็นทางการให้กับผู้ที่ถูกตัดสินไปผิดๆ
โดยเฉพาะถ้าคดีผ่านไปหลายสิบปีอย่างกรณีสวรรคต
แต่การที่เฉลียว ชิต และ บุศย์ ถูกตัดสินว่ามีส่วนในการลอบปลงพระชนม์
เป็นการตัดสินที่ผิดอย่างแน่นอน
คำพิพากษาคดีสวรรคตควรถือเป็นโมฆะ
เพราะทั้งศาลชั้นต้น และศาลฎีกา
ได้ทำผิดกระบวนการพิจารณาคดีตามกฎหมาย
นอกเหนือจากขัดกับหลักกฎหมายแล้ว
ในแง่สามัญสำนึก
ทุกวันนี้มีใครบ้างที่ยังสติดี
จะคิดว่าคนอย่างชิต สิงหเสนี ที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลที่รับใช้ราชวงศ์มาหลายชั่วคน
ผู้ซึ่ง “ตอนที่ทรงพระเยาว์อยู่ ในหลวงรัชกาลที่ 8 ทรงขี่ข้าพเจ้าเล่นต่างม้า ”
หรือคนอย่างบุศย์ ปัทมศริน ที่ “ บางเวลาเข้าที่สรงคืออาบน้ำแล้ว โปรดให้ข้าพเจ้าเช็ดพระวรกายทั่วทุกส่วน
และบางทียังโปรดให้ข้าพเจ้าหวีพระเกษาถวายคือหวีผมให้ ”
จะมีส่วนร่วมในแผนปลงพระชนม์ แล้วจะมีใครที่วาง “แผนปลงพระชนม์”
ได้อย่างโง่เขลาเบาปัญญาเช่นนั้น
![[IMG]](https://fbcdn-profile-a.akamaihd.net/hprofile-ak-ash4/186224_627196153_1347285904_q.jpg)
![[IMG]](https://sphotos-a.xx.fbcdn.net/hphotos-ash4/483785_10151510488886154_701806154_n.jpg)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar