tisdag 6 september 2016

อวสานผ้าพันคอสีฟ้า เมื่อปลาวาฬเกยตื้น...

'ตูนเก่าเล่าใหม่:อวสานพันธมิตร
 

สนธิ quotes: "... เป็นผ้าพันคอพระราชทาน..."
สนธิ quotes
".....จนกระทั่ง มีสัญญาณบางสัญญาณมาถึงผม จู่ๆ ผมสู้อยู่ #ก็มีของขวัญชิ้นหนึ่งมาจากราชสำนักผ่านมาทางท่านผู้หญิงบุษบาซึ่งเป็นน้องสาวพระราชินี ปรากฏว่าผมแค่ได้รับวันเดียว #ผมเข้าไปรับด้วยตัวเองกับท่านผู้หญิงบุษบา โทรศัพท์มาหาผมเต็มเลย ป๋าเปรมให้คนสนิทโทรมา พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ทุกคนโทรมาหมด ถามว่า จริงหรือเปล่า ...." (20 สิงหาคม 2550)
"....ผ้าพันคอสีฟ้านั้น ผมได้รับมา ก่อนเหตุการณ์วันที่ 19 กันยายน วันที่เราเปิดแถลงข่าวและชุมนุมกันครั้งสุดท้าย ที่หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ จำได้มั้ย ผ้าพันคอนี้ ข้าราชบริพารในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้เอามาให้พวกเราคืนนั้น แล้วบอกว่า #พระองค์ท่านพระราชทานมา เป็นผ้าพันคอพระราชทาน..." (1 มิถุนายน 2551)

อวสานเมื่อปลาวาฬเกยตื้น... คือวันสิ้นสุดของพวกผ้าพันคอสีฟ้า    

โดย   แสงตะวัน

ไอ้สนธิ ลิ้มดอกทอง  ก้าวเข้าสู่วงการเมืองนอกสภาด้วยวิธีที่สกปรกที่สุด  โดยใช้เล่ห์หลอกหลวงตาเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาดเป็นสะพานเชื่อมเดินเข้าสู่ ประตูวัง หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้เป็นกิ๊กสมสู่กับพวกหญิงชาววังศักดินาชั้นสูง   ต่อ มากลายเป็นพระยาเทครัว ไม่เว้นจากแม่จนถึงลูกหลาน  ไอ้ลิ้มชัดเรียบ จนคนเล่าลือรู้ไปหมดทั่วบ้านทั่วเมือง  เช่นตัวอย่างเรื่องการเอาเบียร์ลาดหน้าท้องปลาวาฬแล้วถ่ายคลิปลับเอาไว้ เพื่อเป็นการต่อรอง  ไอ้ลิ้มจอมแบล๊คเมล์ถือเป็นไพ่อยู่ในมือซึ่งทำให้พวกกิ๊กหญิงชาววังสูง ศักดิ์ต้องยอมไอ้ลิ้มทุกอย่าง  ไอ้ลิ้มดอกทองจึงกลายมาเป็นบุคคลที่มีอำนาจ โดดเด่นขึ้นในสังคมวงการเมืองนอกสภา มีอำนาจข่มขู่ได้ทั้งทหารและตำรวจรวมไปจนถึงพรรคประชาธิปัตย์  ไม่ ว่าไอ้ลิ้มจะทำอะไรผิดก็ไม่ได้รับโทษเพราะได้รับการช่วยเหลือทุกอย่างจาก หญิงสูงศักดิ์ โกงเงินธนาคารก็ไม่ผิด   พาลูกน้องยึดสนามบินก็ไม่ผิด  มีคดีติดตัวอยู่จนนับไม่ถ้วนแต่ก็ได้รับความช่วยเหลือทั้งสิ้นเพราะเป็นคน ของวัง   ไอ้ลิ้มก็กระโดดออกมาจัดตั้ง        "องค์กรพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย" ขึ้น เพื่อขับไล่รัฐบาล ทักษิณ   จนกระทั่งมาถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์  ก็อาศัยการสนับสนุนจากทางวังหนุนหลังทำให้ไอ้ลิ้มกลายเป็นบุคคลสำคัญขึ้นมา ทันที   ทำให้ไอ้ลิ้มดอกทองมีอำนาจชี้นำทางการเมืองให้แก่พรรคประชาธิปัตย์แบบสกปรก ที่สุด     ตามแนวคิดแบบเก่าของพวกจีนโพ้นทะเล สมัย พรรคก๊กมินตั๋ง ( กั๋วหมินตั๋ง )  จีนชาตินิยมที่พ่อของไอ้ลิ้มเคยสังกัดอยู่ในเวลานั้น  จน มาถึงขณะนี้เมื่อทางวังโดยเฉพาะหญิงสูงศักดิ์ นางมารี อังตัวเนต (  Marie Antoinette )  ของเมืองไทยมีอาการป่วยหนัก   หมดสิ้นอำนาจลง เปรียบเสมือนปลาวาฬเกยตื้น   ดังนั้นไอ้ลิ้มดอกทองก็หมดที่พึ่งไม่มีอำนาจหนุนหลังเหมือนเดิม จึงจำเป็นต้องประกาศยกเลิก" องค์กรพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย "

ศาลฎีกาพิพากษาคุก 20 ปี "สนธิ ลิ้มทองกุล" คดีทำเอกสารเท็จกู้กรุงไทย ส่งตัวเข้าเรือนจำทันที...
http://www.matichon.co.th/news/275150
ในที่สุดวันนี้ผลจากการกระทำผิด...กรรมที่เคยก่อไว้ก็ตามสนองไอ้ลิ้มดอกทองทันที  เมื่อไร้อำนาจคุ้มครอง
จากแม่ทูลหัวของมัน" นางปลาวาฬ "ที่กำลังป่วยหนักมีอาการ"สติฟั่นเฟือน" ?ผลกรรมตามสนองจากความ "กระหายอำนาจ"จนตามืดบอดที่ทำร้ายประชาชนและประเทศชาติ
กฎธรรมชาติ.-กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นตามสนอง  ไม่ช้าก็เร็วไม่มีใครหลีกหนีพ้นได้
 " กฎแห่งกรรม "คืออะไร กรรม คือกฎของเหตุและผล นั่นคือเหตุที่ได้กระทำนำมาซึ่งผลที่ต้องได้รับ ผลที่ได้รับอยู่ในขณะนี้แสดงถึง เหตุที่เคยกระทำไว้แต่ก่อน มันเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ...
 
................................................

โดย   ปั้นจิ้ม
พธม.
การประกาศ บาทบท หมดลงสิ้น
แท้คือดิ้น หนีตาย หมายสังหาร
อุตริ อวดฤทธิ์เดช มาช้านาน
เหมือนอันธพาล ครองเมือง เรื่องจัญไร...
พอเรื่องแดง เพราะเสื้อแดง แผลงฤทธิ์บ้าง
หมดสิทธิ์อ้าง โหนฟ้า มาปราศัย (ขอแก้คำ...เดิมคือ....ขานไข)
ดึงฟ้าต่ำ มาละเลง ลุกเป็นไฟ
ทำไปได้ ทำร้ายใจ ไทยทั้งมวล...
เมื่อฟ้าลอย สูงลับ จับไม่ถึง
ต้องตลึง กรรมเคยก่อ ก็เริ่มหวล
ไม่มีสิทธิ์ โต้แย้งกรรม หรือคร่ำครวญ
มันจึงชวน กันถอยทัพ กลับพารา...
กูรู้...แท้จริง วิ่งหนีผิด
สุดชีวิต รักษาไว้ ไอ้พวกหมา
แต่เอาเหอะ มึงรอดตาย ได้สักครา
กูมองว่า มึงตายโหง พวกโกงเมือง...
หรืออย่างน้อย คอยร่อนเร่ พเนท่อง
ที่เคยจ้อง ระรานแกล้ง แก๊งค์เสื้อเหลือง
กรรมเคยก่อ ให้ร้าย ระคายเคือง

หลากหลายเรื่อง สลื่มทำ สวนกรรมดี...

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar