สิบปีรัฐประหาร 19 กันยายน 2559
โดย จักรภพ เพ็ญแข
โดย จักรภพ เพ็ญแข
มาบัดนี้ เรารู้กันทั้งบ้านเมืองแล้วว่า การยึดอำนาจของทหารหรือรัฐประหาร
ทั้งโดยพลเอกสนธิ บุญยรัตกลินและพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
การเกิดขึ้นของกลุ่มพันธมิตรฯ และ กปปส.
การเข้าแทรกแซงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วยกลไกของศาลบ้าง
ขององค์กรอิสระบ้าง และของระบบราชการบ้าง
มาจนถึงระบอบทหารที่กำลังพองขนอยู่ในขณะนี้ ฯลฯ
คือหนังเรื่องเดียวกันทั้งสิ้น ไม่ใช่แม้แต่หนังภาคต่อ
แต่เป็นหนังซี่รี่ย์ที่ถูกควบคุมโดยบริษัทศักดินาและอำมาตย์ไทยรายเดิม เพียงแต่แก่งแย่งกันกำกับอยู่บ้างตอนนี้ เพราะเจ้าของบริษัทและหุ้นใหญ่กำลังจะหมดลมหายใจเท่านั้นเอง
สิบปีที่ผ่านมามีคุณค่าสูงยิ่งในการทำให้ประชาชนรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
และออกมารณรงค์ทวงสิทธิ์ของตนเองอย่างแข็งแรง
ส่วนคนที่ยังโง่งมงายก็ปล่อยให้เวลาช่วยกัดเซาะไปเรื่อยๆ
เพราะในโลกนี้ไม่มีใครจะโง่ยิ่งไปกว่าคนที่ไม่อยากฉลาด
ความรับรู้ในสิทธิ์ของตนในสิบปีนี้ คืออาวุธที่ร้ายแรงยิ่งกว่ากองทัพบก
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ศาล
และผู้รับใช้ทุกส่วนของบริษัทศักดินาและอำมาตย์ไทยรวมกัน
เพียงแต่เราต้องพัฒนาอาวุธนี้ไปเรื่อยๆ จากแนวสู้แบบบ้านๆ
พื้นฐานที่เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง ไปสู่การจัดตั้งทางความคิดและอุดมการณ์
จนถึงขั้นที่เกิดความพร้อมในการเป็นระบบทดแทนในระดับรัฐ (state-wide regime
substitution)
รัฐบาลทักษิณเป็นเพียงบันไดขั้นแรกของแนวคิดใหม่ของภาคประชาชน ไม่ควรด่วนสรุปว่าสมหวังหรือผิดหวัง แต่ควรใช้เป็นทุนขั้นต้นเพื่อก้าวให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ต่อไป ผู้นำคนใดและองค์กรการเมืองใดที่เรารู้สึกว่าอ่อนและเบาเกินไปสำหรับการ ปฏิวัติประชาธิปไตย เราก็ถือเขาเป็นแนวร่วม และนำไปประกอบส่วนกับสิ่งอื่นๆ ให้สมบูรณ์ขึ้น ไม่มีอะไรที่สูญเปล่าหรือไร้ค่าในสิบปีที่ผ่านมา เพราะเราก็ได้ฉายไฟใส่ตัวเองเท่าๆ กับฉายไฟใส่ฝ่ายตรงข้าม
สิบปีที่ผ่านมาทำให้ 1) รู้เขา 2) รู้เรา ถึงขนาดนี้ เราควรเฉลิมฉลองสิบปีที่ผ่านมานี้อย่างภาคภูมิใจยิ่ง
ย้ำ: ไม่มีอะไรสูญเปล่าในสิบปีที่ผ่านมาครับ.
จักรภพ เพ็ญแข
19 กันยายน 2559
นอกราชอาณาจักรไทย
รัฐบาลทักษิณเป็นเพียงบันไดขั้นแรกของแนวคิดใหม่ของภาคประชาชน ไม่ควรด่วนสรุปว่าสมหวังหรือผิดหวัง แต่ควรใช้เป็นทุนขั้นต้นเพื่อก้าวให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ต่อไป ผู้นำคนใดและองค์กรการเมืองใดที่เรารู้สึกว่าอ่อนและเบาเกินไปสำหรับการ ปฏิวัติประชาธิปไตย เราก็ถือเขาเป็นแนวร่วม และนำไปประกอบส่วนกับสิ่งอื่นๆ ให้สมบูรณ์ขึ้น ไม่มีอะไรที่สูญเปล่าหรือไร้ค่าในสิบปีที่ผ่านมา เพราะเราก็ได้ฉายไฟใส่ตัวเองเท่าๆ กับฉายไฟใส่ฝ่ายตรงข้าม
สิบปีที่ผ่านมาทำให้ 1) รู้เขา 2) รู้เรา ถึงขนาดนี้ เราควรเฉลิมฉลองสิบปีที่ผ่านมานี้อย่างภาคภูมิใจยิ่ง
ย้ำ: ไม่มีอะไรสูญเปล่าในสิบปีที่ผ่านมาครับ.
จักรภพ เพ็ญแข
19 กันยายน 2559
นอกราชอาณาจักรไทย
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar