fredag 1 juni 2018

ประวัติศาสตร์ในราชวงค์จักรี

 ประวัติศาสตร์ในราชวงค์จักรี    ..... โดย แสงตะวัน

ประวัติศาสตร์ในราชวงค์จักรีก็เป็นเช่นนี้แหละ เริ่มต้นตั้งแต่นายทอง
ด้วง ฆ่าพระเจ้าตากสิน แล้วตั้งตัวขึ้นเป็นกษัตริย์  ก็ได้สมมุติตัวเองเป็นพระเจ้าตั้งชื่อตัวเองว่า " พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก " อุปโหลก
ตัวเองว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่เขียนบิดเบือนประวัติศาสตร์หลอกลวงคนรุ่นหลังมาโดยตลอด จนทุกวันนี้ ที่แท้จริงตัวเองก็เป็นเพียงฆาตกรที่ปล้นชิงราชบัลลังก์พระเจ้าตากมา  ครั้นรัชกาลต่อมาก็มีการแย่งชิงราชบัลลังก์ทรยศหักหลังกันมาเรื่อยๆ ลูกฆ่าพ่อ อาฆ่าหลาน น้องฆ่าพี่ พี่ฆ่าน้อง 
แม่ฆ่าลูก  ... เป็นเรื่องปรกติของพวกจักรีวงค์ 

จนมาถึงรัชกาลที่ ๘ ในหลวงอานันท์ก็ถูกน้องชายฆ่าตายแล้วตัวเองก็ขึ้นเป็นกษัตริย์รัชกาลที่ ๙ ใช้ระบอบเผด็จการปกครองประเทศซึ่งเป็นระบอบเผด็จการที่ทารุณและโหดร้ายที่สุด สนับสนุนให้ทหารยึดอำนาจมาถึง18 ครั้งในช่วงเวลา 70 ปีที่ภูมิพลครองราชย์ กษัตริย์ภูมิพลพยายามสร้างภาพโฆษณาตัวเองหลอกลวงประชาชนว่าตัวเองเป็นเทพเจ้า เพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง เมื่อเป็นกษัตริย์ ภูมิพล ได้ควบคุมอำนาจทุกอย่างไว้ในมือ  มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ เป็นเจ้าของอำนาจเหนือรัฐบาล เหนือศาล เหนือทหาร ควบคุมอำนาจ การเมือง การเศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไปจนถึงข้าราชการทุกระดับ เป็นนายทุนผูกขาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยไม่ต้องเสียภาษี ไม่มีการตรวจสอบ มีชีวิตอยู่อย่างเสพสุข ฟุ่มเฟือยหรูหลาฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ใช้เงินงบประมาณของชาติไปปีละหลายหมื่นล้าน แต่สั่งสอนให้ประชาชนมีการกินอยู่อย่าง " พอเพียง " ตาม "ลัทธิของภูมิพล " ( Phumipholism )
 

จะเห็นว่าในความเป็นจริงแล้วกษัตริย์ก็ไม่ได้เป็นคนดีเด่อะไร ไม่ใช่ " เทวดา " เหมือนที่โฆษณากล่าวอ้าง แม่ของกษัตริย์ภูมิพลเอง นาง สังวาล ตะละภัฎ ก็เป็นเพียงสามันชนธรรมดาแล้วจะมาโฆษณาหลอกลวงประชาชนไปทำไม ?  กษัตริย์ภูมิพลเองได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ก็โดยการแย่งชิงบัลลังค์มาจากพี่ชายของตนเองตามทำเนียม น้องฆ่าพี่ พี่ฆ่าน้องของจักรีวงค์

ถึงตอนปลายรัชกาลที่ ๙ เมื่อกษัตริย์ภูมิพลป่วยหนัก กำลังมีอันจะเป็นไปเพราะชราภาพมากแล้ว ร่างกายก็ทรุดโทรม เป็นโรคสารพัดอย่าง แต่ก็ยังหวงอำนาจไม่ยอมปล่อยวางเพราะกลัวว่าความลับของตนจะถูกเปิดเผยเกี่ยวกับกรณีฆ่าพี่ชาย มาถึงรุ่นลูกจึงเกิดการแย่งชิงบัลลังก์กันขึ้นระหว่างพี่กับน้องท้องแม่เดียวกัน เหมือนกับที่เคยเป็นมาในทุกรัชกาลของจักรีวงค์ ...



จนถึงเวลาปัจจุบันเมื่อสิ้นยุคสมัยของพ่อ วชิราลงกรณ์ ลูกชายก็ขึ้นมาเป็นเทวดาสมมติสรวมหัวโขนครองบัลลังก์แทนพ่อกลายเป็นจอมมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่แห่งชาติ ค้ายาเสพติดเล่นการพนัน ปล้นทรัพย์สมบัติของชาติมาเป็นของส่วนตนจนร่ำรวยอย่างมหาศาลมีฮาเรมและนางบำเรอจนนับไม่ถ้วนที่นครมิวนิคประเทศเยอรมัน มีคุกเป็นของส่วนตัว นอนสั่งการอยู่ในต่างประเทศปล่อยให้ลูกสมุนรับใช้ คสช.ทำงานแทนทุกอย่างโดยมอบม. 44 และ ม. 112  ให้เป็นเครื่องมือ สั่งฆ่าใครก็ได้จะออกกฏหมายบังคับใช้อย่างไรก็ได้ กษัตริย์ วชิราลงกรณ์ คือหัวหน้าหรือจอมทัพทั้งสามเหล่าทัพ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจและข้าราชการทุกระดับ ตามกฏหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เป็นเจ้าของศาล เจ้าของศาสนาจะตั้งใครให้เป็นสังฆราชก็ได้ เจ้าของสื่อสารมวลชน รวมถึงวัฒนธรรมของสังคมเหมือนเหมือนกับกษัตริย์ภูมิพลผู้เป็นพ่อ คือกษัตริย์ปัจจุบันมีอำนาจควบคุมทุกอย่างในประเทศนี้ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรม 
 
ดังนั้กษัตริย์องค์ปัจจุบันก็คือการสร้างภาพให้เขาสรวมหัวโขนเป็นเทวดาแต่ตัวจริงเขาคือจอมเผด็จการใจโหดเป็นบรมทรราชทีเลวทรามที่สุดแห่งยุค เพราะเขาปล้นอำนาจไปจากประชาชนและได้ใช้อำนาจทุกอย่างแทนประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศที่เสียภาษีเลี้ยงดูพวกราชวงค์จักรีนี้มาแล้วหลายชั่วโคตร์ เราจึงให้สมญากษัตริย์องค์นี้ว่า กษัตริย์ทรราช และ อาชญากรโดยธรรมชาติ ไม่มีสิทธิ์ในการที่จะเป็นเจ้าปกครองของสังคมนุษยชาติในประเทศนี้อีกต่อไป เนื่องจากระบอบการปกครองกษัตริย์เผด็จการเป็นระบอบการปกครองที่ป่าเถื่อนเหี้ยมโหด ทารุนเหมือนกับระบบทาส จะเห็นได้จากการที่วชิราลงกรณ์กำลังใช้อำนาจอย่างป่าเถื่อนปกครองประเทศอยู่ในเวลานี้ 
ฉนั้นมนุษย์ในสยามประเทศทุกคนจึงมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะโค่นล้มกษัตริย์จอมเผด็จการนี้ลง และโค่นล้มระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ( ระบอบกษัตริย์เผด็จการ )  ลงให้ได้แล้วเอาอำนาจกลับคืนมาเป็นของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ สถาปนาระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจทุกอย่างเป็นของปวงชนขึ้น.

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar