อันนี้น่าสนใจ ลองอ่านดู (ยาวนิดหน่อย)
https://facebook.com/saiseema.p/pos
PPTV
ทำสกู๊ปต่อเนื่องเรื่องเบื้องหลังกรณีหุ้น ITV
โดยได้ไปสัมภาษณ์ทนายความของนิกม์ แสงศิรินาวิน อดีตผู้สมัคร สส
พรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทยของเสี่ยหนู ทำให้ทราบว่า
หุ้น ITV ที่ "ภาณุวัฒน์"
คนที่เข้าไปตั้งคำถามในที่ประชุมผู้ถือหุ้นถืออยู่นั้น
คือหุ้นเดิมที่เคยเป็นของ "นิกม์" นั่นเอง
นอกจากนี้ทนายยังเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้นิกม์เคยมาปรึกษาเรื่องจะร้องเรียนกกต.ว่าพิธาถือหุ้นITV
แต่ทนายเห็นว่าหลักฐานยังไม่ชัดเจนจึงไม่ได้รับเรื่องมาดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ได้คุยกับนิกม์หลังเห็นข่าวเรืองไกรร้องเรียนเรื่องนี้
ทางนิกม์ก็ยืนยันว่าไม่รู้จักกับเรืองไกร
และไม่ได้รู้เห็นไม่ได้ให้ข้อมูลกับเรืองไกรแต่อย่างใด
ตอนแรกที่เห็นข่าวว่า
"ภาณุวัฒน์" คนที่ไปยกมือถามในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ITV
นั้นทำงานเป็นผู้จัดการคลีนิคที่มี"นิกม์"เป็นเจ้าของ ก็คิดไว้แล้วว่าหุ้น
ITV ที่ภาณุวัฒน์ถือนั้นน่าจะเคยเป็นหุ้นของนิกม์มาก่อน เพราะ ITV
ถูกเพิกถอนจากตลาดไป 15 ปีแล้ว
ถ้าไม่ใช่นักลงทุนระยะยาวที่ถือหุ้นมาเป็นสิบๆปี
"นักลงทุนเฉพาะกิจ"หน้าใหม่คงไม่สามารถไปหาซื้อหุ้นมาได้ง่ายๆ
เพราะเมื่ออ่านรายงานการประชุมแล้วรู้สึกว่า
"ภาณุวัฒน์" น่าจะเป็น "นักลง่ทุนเฉพาะกิจ"มากกว่า
เนื่องจากในระหว่างประชุม "ภาณุวัฒน์"
ค่อนข้างกระตือรือร้นมีการยิงคำถามไปยังผู้บริหารถึง 3 คำถาม
แต่ว่าแต่ละคำถามนั้นมันแปลกๆ เหมือนเป็นคำถามของ "นักลงทุนเฉพาะกิจ"
ที่สนใจถามในเรื่อง "เฉพาะเจาะจง" ที่ไม่เกี่ยวกับผลการดำเนินงานบริษัท
คือ
1. มีกรรมการที่เป็นนักการเมืองหรือไม่? เป็นคำถามในวาระการแต่งตั้งกรรมการบริษัท ซึ่งผู้บริหารตอบว่าไม่มี
2.
ผู้ถือหุ้นจะเข้าไปช่วยเหลือ(ในทางคดี)ได้อย่างไร?
เป็นคำถามในวาระรายงานผลความคืบหน้าคดีพิพาทกับ สปน ซึ่งผู้บริหารตอบว่า
ผู้ถือหุ้นแค่รอรับฟังคำพิพากษา
3.
ITV มีการดำเนินงานเกี่ยวกับสื่อหรือไม่?
เป็นคำถามส่งท้ายก่อนปิดการประชุม ซึ่งผู้บริหารก็ตอบว่า
บริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท
ซึ่งคำถามข้อสุดท้ายนี้ถูกนำคำตอบมาตีความแบบความจริงครึ่งเดียว
ให้กลายเป็นว่าผู้บริหารยอมรับว่ายังดำเนินธุรกิจสื่ออยู่
ทั้งที่จริงๆวัตถุประสงค์ของบริษัทมีทั้งหมด 45 ข้อ
มีเรื่องการทำสื่อทีวีจริง แต่ก็มีเรื่องการหาดอกผลจากทรัพย์สิน
การให้กู้เงิน ซึ่งคือเรื่องเดียวที่ ITV
ยังดำเนินการอยู่ในช่วงสิบกว่าปีมานี้ หลังจากโดน
สปน.ยกเลิกสัญญาในอนุญาตสถานีโทรทัศน์ และยุคเผด็จการ คมช ออกกฎหมายโอน
คลื่นความถี่ ทรัพย์สิน อุปกรณ์ ที่ใช้ในการทำทีวีทั้งหมดเป็นของรัฐ จน ITV
ไม่เหลือสินทรัพย์ถาวรที่ใช้ประกอบธุรกิจอะไรแล้ว
และถึงศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้ชนะคดีก็ไม่มีทางที่จะได้สัญญา หรือ
ทรัพย์สินเหล่านั้นคืน อย่างดีสุดคือ ITV
ไม่ต้องจ่ายเงินค่าปรับเกือบแสนล้านบาทที่ สปน.เรียกร้องเท่านั้น
"หมาแก่" ยืนยันว่ามีการประชุมที่ลังกาวีจริง แต่เป็นประชุมก่อนการเลือกตั้ง
วันที่ประชุม 6 พค. มีชาย3คนไปร่วมประชุม มีชายตามไปฟังด้วย1คน
"หมาแก่" ไม่ยืนยันว่าเป็นการประชุมเดียวกับชูวิทย์หรือไม่
และเป็นการประชุมนานแล้วสถานการณ์เปลี่ยนไปมากจึงไม่อาจทราบว่าคงยืนยันตามที่ประชุมหรือไม่
Thai E-News
ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี
1d
·
ผีดิบคืนชีพเพราะกล้วย
เกิดข่าวลับลวงพรางออกมา ไม่พูดไม่ได้ มีการนัดทานข้าวกันถี่มากตามบ้านบุคคลสำคัญ สรุปออกมาเป็น MOU ฉบับทิพย์ดังนี้
1. ห้ามลุงโยนผ้าขาว
2. ลุงต้องออกไปตรวจราชการตามปกติ แต่ห้ามพูดมากและให้หลีกเลี่ยงด้อมส้ม
3. ใครสัญญาจะแจกกล้วยกับใครไว้ ก็อย่าเบี้ยว
4. ไปสืบหาด้อมส้มและติ่งแดงที่มีใจแปรพักตร์
เหตุการณ์อย่างนี้ประมาทไม่ได้เด็ดขาด อยากเตือนเจ้าบ่าวเจ้าสาวว่า
แม้เธอทั้งสองจะไม่ได้รักใคร่กันมาก่อน
คือเป็นแค่เพื่อนบ้านกันแถวถนนเพชรบุรี
แต่ตอนนี้สถานการณ์มันบังคับให้ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกัน หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่งแล้วก็อยู่คนละบ้าน(กระทรวง) อาทิตย์หนึ่งเจอกันเฉพาะวันอังคาร(ครม.)
ก็น่าจะ OK. นะ
ส่วนเจ้าบ่าวซึ่งยังซิงๆอยู่ ก็เบาๆหน่อย
อย่าหักโหมโจมตีบ่อยนัก
สำหรับเจ้าสาวหม้ายเนื้อหอมเป็นรัฐบาลมาแล้วหลายครั้งก็ขอให้ใจเย็นๆ
เอ็นดูเด็กมันหน่อยก็แล้วกัน คิดเสียว่า มันยังไม่เคย (เป็นรัฐบาล
เป็นรัฐมนตรี) ส่วนลูกเต้าก็อย่าเพิ่งคิดมี เพราะอีก 2ปีมีกฎบ้านใหม่
(รัฐธรรมนูญ)ออกมา ยังไงก็ต้องแยกทางกันอยู่ดี ทำไงได้
บุญวาสนามันมีกันเพียงเท่านี้
เพียงแต่ตอนนี้ต้องระวังอย่าให้ผีดิบคืนชีพมาก็แล้วกัน
เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็พอได้แล้ว พวกคุณไม่ได้ร่วมหอลงโลงกับเขาสักหน่อย
เวลานอนเขาก็อยู่กันสองคน คุณไปอยู่กับเขาด้วยหรือ มันสมรสเดี่ยวนะครับ
ไม่ใช่สมรสหมู่เหมือนบวชพระหมู่ อีกเรื่องคือ
แกนหนุ่มทั้งหลายหยุดพูดบ้างก็จะดี เห็นว่า
กำลังเจรจาสินสอด(ตำแหน่ง)กันอยู่มิใช่หรือ มันเป็นความลับนะ
ระวังตอนประชุมครม. เขาห้ามใช้โทรศัพท์(มีเครื่องตัดสัญญาณ)
เดี๋ยวตอนนั้นจะลงแดงกันหมด
ส่วนสองลุง ผมก็บอกไปหลายทีแล้วว่า พอเถอะ
อายุอานามก็เลข 7 จะเป็นเลข 8 อยู่แล้ว จะไปแข่งแต่งงานกับเขาทำไม
มีแรงแยะหรือไง แถมคงจะไม่แข็งแรงอีกด้วยต่างหาก
ผมขอยืนยันครั้งที่
501 (เลขที่บ้านผมที่ประตูน้ำ) เจ้าสาวผมจะแต่งกับรูปหล่อพิธาน้องเลิฟ BCC
(กรุงเทพคริสเตียน)ของผมแน่นอน สำหรับผู้อยากได้กล้วยก็ให้มาเอาที่บ้านผม
หากมีบุญวาสนาเอาไปบ่ม อาจจะกลายเป็นทองก็ได้นะ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar