9 tim
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง สั่งการให้สำนักงานไปตรวจสอบเพิ่มเติมตามคำร้องให้ยุบพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่ถูกตีตกไปแล้ว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้
.
ย้อนไปเมื่อเดือน เม.ย. นายทะเบียนพรรคการเมืองมีความเห็นไม่รับคำร้องคดียุบพรรค ก.ก. จากกรณีมีนโยบายหาเสียงให้แก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยมีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เป็นเจ้าของคำร้อง
.
ต่อมา 26 มิ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้สอบถามอัยการสูงสุด (อสส.) ว่า มีคำสั่งรับหรือไม่รับดำเนินการคำร้อง กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. และพรรค ก.ก. หาเสียงด้วยการเสนอให้แก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ หลังนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ใช้สิทธิยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญให้สั่งพรรค ก.ก. หยุดการกระทำดังกล่าว
.
ทำให้ผู้สื่อข่าวนำมติศาลรัฐธรรมนูญที่ดูจะสวนทางกับความเห็นของ กกต. ไปสอบถามเลขาธิการ กกต.
.
นายแสวงชี้แจงว่า การพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นการพิจารณาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่าการกระทำนั้นมีอำนาจให้พรรคกระทำหรือไม่ และกระทำตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งเขียนต่างจากรัฐธรรมนูญ หากมีผู้เห็นว่าการกระทำนั้นใช้สิทธิเสรีภาพไม่เป็นตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ทำให้เป็นการล้มล้างระบบการปกครอง ต้องไปร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 49 ซึ่งเป็นคนละขั้นตอนกัน
.
“แม้นายทะเบียนพรรคการเมืองจะมีความเห็นไม่รับคำร้องกรณีดังกล่าวไปแล้ว แต่ขณะนี้นายทะเบียน ก็ได้ให้สำนักงานไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่าการกระทำตามคำร้องนั้น ๆ เป็นความผิดฐานไหนอีกหรือไม่ตามกฎหมายพรรค ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นฐานความผิดใดได้อีก ขอตรวจสอบก่อน” นายแสวงกล่าว
.
ดูคำร้องคดีหาเสียงแก้ ม. 112 กล่าวหา พิธา-ก้าวไกล “ล้มล้างการปกครอง” ได้ที่นี่
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar