โอ้อนิจจาชายชราผู้น่าสงสาร ตัวคนเดียวไร้ครอบครัว ชั่วชีวิตอาศัยอยู่บ้านหลวง นั่งส่องกระจกพร่ำบ่นบอกตัวเองทุกวัน ว่าเป็นคนเก่ง คนดี รักชาติรักแผ่นดิน ซื่อสัตย์ไม่โกงไม่กิน มีความจงรักภักดีใช้อำนาจสั่งการแทนพระองค์ได้ ...ชายแก่ผู้ยึดติดจมปลักอยู่กับห้วงกาลเวลาแห่งอดีต ชายชราผู้เกลียดและกลัวไม่ยอมรับรู้การหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก ...โอ้อนิจาชายชราผู้น่าสงสารที่ชั่วชีวิตมัวเมาหลงไหลใน"อำนาจ"สิ่งสมมุติที่ไม่จีรังยั่งยืนขอให้ท่านจงเป็นข้าทาสรับใช้ฝุ่นใต้ตีนทุกชาติทุกภพตลอดไปเทอญ...สำหรับประชาชนไทยส่วนใหญ่ได้ก้าวผ่านพ้นสิ้นรักเสื่อมศรัทธาสิ่งสมมุติเหล่านี้ไปนานแล้ว เพราะสร้างประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติและประชาชน...

ชายชราผู้น่าสงสารพร่ำบอกคนอื่น "เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน"
แต่ไม่เคยมองสำรวจดูการกระของทำตัวเอง...เศร้าใจ....

                    

พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ขอประเทศร่วมกันผลิตคนดี เอาผิดคนโกงชาติ เปิดโปง และแสดงความขยะแขยง และไม่แสดงความเคารพแม้เป็นคนมีบารมี แนะตั้งศาลฉ้อราษฎร์บังหลวง ลดขั้นตอนและกระบวนการ พร้อมแสดงความเสียใจคนไทยเฉยเมยต่อคนโกงชาติ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นประธานกล่าวปฐกถาพิเศษ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรสถาบันวิชาป้องกันประเทศ หรือ วปอ.สปท. ครบรอบ 60 ปี เพื่อให้ วปอ. เป็นสถาบันศึกษาระดับสูงของกระทรวงกลาโหม ในการพัฒนาให้ผู้บริหารระดับสูงของประเทศมีพื้นฐานความรู้ด้านยุทธศาสตร์ และความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ภายหลังการปฐกถาพิเศษของพลเอกเปรม แล้ว ยังมีงานเสวนาหัวข้อ เพียรพร้อมเพรียงกัน ชาติมั่นคง วปอ. จาก 2498 สู่ 2598 โดยมีผู้ร่วมเสวนาที่น่าสนใจอาทิ พลเอกเลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ปรอ. รุ่น 5 พลเอกบุญสร้าง เนียประดิษฐ์ วปอ. 36 นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปรอ. 19 โดยมีนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ วปอ.กิตติมศักดิ์เป็นผู้ดำเนินรายการ พลเอกเปรม กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อที่คิดขึ้นเอง "เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน" โดยเน้นไปที่เรื่องการโกงชาติ เพราะเป็นเรื่องสำคัญต่อความมั่นคง ซึ่งประเทศไทยมีปัญหา 2 อย่าง ยากจน โกงชาติ ปัญหายากจนเป็นภาระของรัฐบาล และการโกงชาติเป็นภาระของทุกคนต้องช่วยกันแก้ไข ดังนั้นต้องช่วยกันทำความดี สร้างคนดี รู้จักตอบแทนคุณแผ่นดิน คือไม่ทำชั่ว ทำความดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ การโกงคือการฉ้อราษฎรบังหลวงซึ่งเป็นของคู่โลกขของเรา ไม่มีประเทศใดไม่มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง อยู่ที่มีมากหรือน้อย คนเป็นผู้จัดการอย่าโทษเทคโนโลยีหรือตำราใดๆ ซึ่งคนไทยไม่สนใจ เรื่องปราบปรามคนโกง นั่นเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เมื่อดูตัวเลขจะพบว่า คนไทยเฉยเมยต่อคนโกงชาติ โดยบอกว่าไม่ใช่เรื่องของตนเอง การปราบปรามไม่เกี่ยวกับตนเอง เขาโกงคนอื่นไม่ได้โกงตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่ประชาชนคิดเช่นนี้ ดังนั้นถ้าหากไม่เกรงกลัวลูกปืนอยากให้เปิดโปงคนโกง ไม่ว่าจะใหญ่โตแค่ไหน ไม่ต้องไหว้ หรือแสดงความเคารพ แสดงความขยะแขยงรังเกียจต่อคนโกงชาติบ้านเมือง เพราะเชื้อโรคการโดงจะติด ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อคนโกง พร้อมเสนอให้ตั้งศาลฉ้อราษฎรบังหลวง เพื่อเร่งขั้นตอนของบางคดี คนบางคนที่ชอบอ้างตนเป็นคนดี อยู่บ้านหลวง ใช้น้ำฟรี ไฟฟรี จากภาษีประชาชน คนแบบนี้สมควรได้รับการยกมือไหว้หรือไม่? นี่ก็คือการโกงอย่างหนึ่ง แต่โกงแบบเนียนๆ หน้าด้านๆ อ้างว่าทำความดีมาเยอะ ทั้งชีวิตพูดเป็นอยู่ไม่กี่ประโยค เกลียดคนโกง กับ แทนคุณแผ่นดิน แต่คนพูดไม่เคยแทนคุณประชาชน ซ้ำร้ายยังปล้นอำนาจอธิปไตย ปล้นประชาธิปไตยจากประชาชน เพราะคิดว่าตนคือคนดี ประชาชนส่วนใหญ่ยังโง่ ประเทศไทยยังไม่เหมาะกับประชาธิปไตย คนแบบนี้อยู่ไปก็หนักแผ่นดิน เปลืองอากาศหายใจเปล่าๆ ก็แค่เศษมนุษย์ ที่อยู่มานานเท่านั้นเอง ลึกๆมันก็คือคนใจสัตว์ เลือดเย็น ฉายา "นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา" มหาอำมาตย์ใหญ่ท่ี่กดหัวคนไทย และสร้างวิกฤตการณ์ทางการเมืองมาตลอดระยะเวลา 10 ปีนี้ มันก็คือ "เปรม ติณสูลานนท์" ผู้นี้นี่เอง ‪#‎หยุดดัดจริตประเทศไทย‬ คลิก-ดูเพิ่มเติม