måndag 16 februari 2015

ฤๅ ประเทศไทยใกล้ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง??? หนทางสู่ความมั่งคั่ง...!!!

คลิก-หนทางสู่ความมั่งคั่ง...!!!
by พิเภกInter  
จ 16 ก.พ. 2015


"หนึ่งนิ้วของเติ้ง ที่ทำโลกตะลึง"วันที่ 4 มิ.ย. 1985 (2528)ในการประชุมใหญ่คณะกรรมการธิการทหารกลางณ มหาศาลาประชาคม กรุงปักกิ่ง...ขณะนั้นเติ้ง เสี่ยวผิงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธิการทหารกลางค่อยๆชูนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว แล้วกล่าวว่า......“กองทัพปลดแอกประชาชนจีน ตัดลดกำลังทหารลง 1,000,000 คน”...พลัน...ผู้สื่อข่าวแห่งสำนักข่าวซินหวาก็ได้เก็บภาพประวัติศาสตร์ในชั่วขณะที่ลั่นวาจานี้ไว้...ต่อมา กลุ่มสื่อเทศจึงได้ขนานนามเติ้ง เสี่ยวผิง ว่า...“นิ้วเดียว ที่ลดกำลังทหารถึงหนึ่งล้านคน” สร้างความตื่นตะลึงแก่ชาวโลก......ผลจากการลดกำลังทหารลงหนึ่งล้านคนในครั้งนั้น...ได้กลายเป็นต้นทุนบุกเบิกในการปฏิรูปเศรษฐกิจจีน...ให้ มั่งคั่ง,ยังยืน,และมั่นคง สืบมาถึงปัจจุบันนี้......เราท่านจึงอย่าหลงไหลได้ปลื้มกับการฝึกซ้อม"รบ"กันเลยผู้เสวยประโยชน์ นอกจากขุนหาญใหญ่และผู้ค้าอาวุธ...เรายังไม่เห็นช่องทางใดเลย ในอันก่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ... -


เมื่อครั้ง รศ.112 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จอมพล ป.แก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการก่อสงคราม... คล้ายเมื่อครั้ง ประชาธิปัตย์สั่งทหารไปรบเขมร... ... ด้วยการเสี้ยมให้นักศึกษา จุฬาฯธรรมศาสตร์ฯ ปลุกระดมให้เกิดความรักชาติอย่างบ้าคลั่ง ทวงสิทธิ์ดินแดน เสียมเรียบ,ศรีโสภณ,พระตะบอง,จากฝรั่งเศษ... ... อันเป็นกำเนิดวีรกรรมเกาะช้าง... ปฐมเหตุแห่งการสร้างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อมาถึงการเปิดทางผ่านแก่ญี่ปุ่นไปตีพม่า... ... วันนี้ขุนหาญกล้าเดินรอยเดิม... พาประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่พันธมิตรกับจีน... ย้อนรอยสงครามเมื่อครั้งร่วมญีปุ่นไม่ผิดเพี้ยน... ... สงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายตะวันตกหนุน"เสรีไทย"... ครั้งนี้เช่นกัน... ..."เสรีไทย"กำลังได้รับการหนุนจากตะวันตก... -


ครั้งก่อน จารุบุตร ครั้งนี้ใช้ จารุพงษ์... ความเงียบงันแห่ง"ทักษิณ"มีนัยยะ... การยั่วยุจากอำมาตย์เพื่อหวังกวาดเสี้ยนหนาม... ... ไม่ได้รับการตอบสนอง... ยังคงสงบสยบในที่ตั้ง... ไม่มีการต่อกร... ... จับตาไว้ให้ดี... สัญญาณ"นกแสกร้อง"คือนัดหมาย... "ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม"...!!! -


ผลแห่งกรรมของการเข้าสู่ความมั่งคั่งผิดหลักโยนิโสฯ อันเป็นไปโดย... ...ผิดระบบ,ไม่ถูกวิธี,ไม่มีเหตุผล,และไม่เป็นกุศล ... ลูกหลานเป็นคนเสเพลไม่ยินดีในธรรม... ขาด หิหริโอตัปปะเห็นกงจักรเป็นดอกบัว... ตั้งตนเป็นศัตรูกับบุพการี แลญาติมิตร... ... ผู้คนในชาติที่ทอดธุระไม่ใส่ใจจับตาแก้ไข พลอยได้รับบาป ทำมาหากินฝืดเคือง สูญสิ้นอนาคตไร้ความเจริญทั้งหน้าที่แลชิวิตถดถอย -


มิใช่เพิ่งเกิดแต่เกิดมานานแล้ว... เริ่มเกิดมาเมื่อปลายราชวงศ์ธนบุรี... ... เหมือนหนึ่งการกลัดกระดุมเม็ดแรกที่ผิดเพี้ยน พลอยทำให้กระดุมเม็ดถัดไปผิดเพี้ยนตาม... การแก้ให้ตรงในเม็ดท้าย แก้ไปก็ป่วยการ... ... กล่าวคือ... ต้องทวงคืนความเป็นธรรมแก่พระเจ้ากรุงธนฯเสียก่อน เสมือนการไล่รื้อของเก่า แล้วกลัดกระดุมเสียใหม่... ให้ความเป็นธรรมบังเกิด แก่ผู้ทรงพระกรุณาฯที่แท้จริง... ... จึงกลับพบความวัฒนาผาสุข ลูกหลานรุ่งเรือง... ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง... พ้นจากบาปกรรม อันบรรพบุรุษกระทำมา...!!! -


ในการเลี้ยงม้าเพื่อให้ได้พันธุ์ที่ดียิ่งขึ้นไป ผู้เลี้ยงใช้วิธีคัดสรร... แบ่งมาออกเป็น 4 เหล่าดังต่อไปนี้.... มาดี ไม่ต้องลงแส้ มาฝึกหัดเพียงบังคับระยะแรก... ... ม้าลงแส้ ต้องบังคับเฆี่ยนตีลงโทษให้อดอาหาร จึงสามารใช้งานได้ ม้าชนิดสุดท้าย เป็นม้าดื้อด้านสันดานทราม แม้ลงทัณฑ์เฆี่ยนตีก็ไรผล ยังคงความเลวคงที่ไม่เปลี่ยนนิสัย ม้าเช่นนี้ไม่ควรเลี้ยงไว้ให้เปลืองแรง ควรนำไปฆ่าเสียเพื่อมิให้สืบลูกหลาน แพร่พันธุ์อีกต่อไป.... ... เป็นที่น่าเสียดาย ที่ขุนศึกที่มีจิตใจกล้าหาญประดุจม้าพันธุ์ดี... อันเป็นทหารคู่พระทัยในพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้ถูกกำจัดไปเสียสิ้น ที่เหลือจึงคงไว้แต่ สายเลือดแห่งม้าประเภทที่สี่ เพราะสายเลือดดีเข้าฆ่าทิ้งไปเสียแล้ว... -


ยามใดที่ท่านทั้งหลาย ขึ้นเหนือล่องใต้ จากตะวันออกไปยังตะวันตก... ท่านเดินทางโดย เรือ,รถยนต์,หรือเครื่องบิน ขอท่านจงจำใส่ใจ... ถึงพระราชกรณีย์กิจที่พระเจ้ากรุงธนได้ทรงพากเพียรสร้างชาติ... ... ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ทรงเหนื่อยยาก พระองค์ทรงม้าเป็นพาหนะ ทุกตารางนิ้วในแผ่นดินไทย พระองค์เดินทางไกลเพื่อชาวไทยได้เป็นสุข ยามใดที่ท่านถึงที่หมาย จงเข้าใจเถิดว่าพระราชาผู้กล้าเดินทางมาด้วยม้า... ... นั้นคือกระดุมเม็ดแรกที่ทรงกลัดแก่ลูกหลานชาวไทย.... น่าเสียดายที่มี"คนซันไลท์"มารื้อเสีย... ดังนั้น...หยดเหงื่อที่ปลายจมูก หรือหาญสู้หยาดเหงื่อทั่วพระวรกาย...!!! -


การกล่าวโทษผู้เห็นต่างก็คล้ายอดีตที่มีมา... เมื่อครั้งสังหารพระเจ้าตากฯก็ออกมาแนวนี้... ... อ้างว่าเป็นการช่วยชาติเพราะพระองค์มีพระสติวิปลาสเฆี่ยนตีพระสงฆ์... ทั้งที่พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้ทรงทำนุบำรุงพุทธศาสนา เป็นเอกอัครศาสนูประถัมภ์... ... ...มาวันนี้อ้างอีกว่าช่วยชาติ กำจัดทักษิณเพราะคตโกง... อันหาที่มามิได้ หาที่ไปไม่เจอ... นอกจากใส่ร้ายป้ายสี ยังมีจิตมโน... ... จงระวังเรื่องบาปบุญให้ดีอ้ายไข่ฝ่อ... กฏหมายอาจทำอะไรเอ็งไม่ได้... แต่กฏแห่งกรรมตามถึงแน่นอน..!!! -


นาทีนี้เหล่าสมุน และตัวอำมาตย์.... คล้ายสำนึกรู้ว่าตัวนั้นตกเข้าไปในกับดักแม้ว... ต่างประสานเสียงเรียกร้องขอเจรจาหาข้อยุติ... ... ปากร้องหาปรองดอง การกระทำกลับตรงข้าม ยังหาเศษหาเลยไปพลาง เรียกร้องนั่งโต๊ะเจรจาพลาง หน้าไหว้หลังหลอก มือถือสากปากคาบคำภีร์.... ... ทั้งที่รู้ว่าจนแต้มถึงทางตัน ยังปากแข็งขาสั่นส่งเสียงขู่ จากวันนั้นกระทั้งถึงวันนี้ ยังไม่ได้ยินเสียงตอบรับสักคำ... "แม้ว"ยังคงสงบสยบเคลื่อนไหว ปล่อยให้อำมาตย์ไล่งับเงา... ... เหมือนพ่อลูกอ่อนมีบ้านหลังคารั่ว ไม่รู้ทำอะไรก่อนหลัง... ฝนก็ตก,หลังคาก็รั่ว,หม้อข้าวก็เดือด,ลูกก็ร้อง,หมาก็เห่า... ไม่รู้หยิบจับอะไรก่อนหลัง ทั้งต่างชาติก็เร่งรัดให้คืนประชาธิปไตย... ... เมื่อเวลากระชั้นไม่รู้หันหน้าไปพึ่งใคร พึ่งได้แต่"ทักษิณ"... ต้องไปกราบวิงวอนขออภัย ที่แล้วมาผิดไปขอให้เห็นใจรากหญ้า รอให้"เอกทัศน์"ไปปากน้ำโพ รออย่างไรก็ไม่ไป อ้ายสล๊อตแมชชีนยังอยู่ที่เก่า..!!!?? -

(หมายเหตู ไปเจอมาจากประชาทอล์ก)

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar