måndag 16 februari 2015

ข่าว...จากองค์การเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย



เลขาธิการไทยฯ ส่งหนังสือถึง นายกฯญี่ปุ่น เตือนการคุยทวิภาคีกับ"ประยุทธ์"อาจจะไม่ได้รับความเห็นชอบจากประชาชนไทย

เลขาธิการ ไทยฯ ร่อนหนังสือถึง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เตือนการพูดคุยทวิภาคีกับรัฐบาลเผด็จการทหารไทยอาจจะไม่ได้รับความเห็นชอบจากประชาชนไทย
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ได้ทำหนังสือถึง นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เพื่อแสดงความขอบคุณที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ที่รัฐบาลเผด็จการทหารไทย ยังคงใช้อำนาจเผด็จการข่มเหงประชาชน ละเมิดสิทธิ เสรีภาพของประชาชน และในฐานะที่ตนเคยเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวงในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งใจถึงการที่รัฐบาลของท่านได้แสดงท่าที ออกแถลงการณ์ยืนยันหลักการที่เผด็จการทหารไทย จะต้องคืนอำนาจอธิปไตย ให้ปวงชนชาวไทยโดยเร็ว ก่อนที่ญี่ปุ่นจะสานความสัมพันธ์และช่วยเหลือด้านต่าง ๆ อย่างปกติในอนาคต
“ กระผมเป็นกังวล ในประเด็นที่ได้มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างผู้นำคณะรัฐประหาร ของประเทศไทยกับคณะรัฐบาล ของประเทศญี่ปุ่น เนื่องด้วยตามหลักกติกาสากลนั้น การเจรจาในระบบทวิภาคีจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อรัฐบาลนั้น เป็นตัวแทนของปวงชน ตามกรอบประชาธิปไตย โดยผ่านการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ และกรอบกฎหมายที่สอดคล้องกับ หลักประชาธิปไตยสากล ที่อารยประเทศทั่วโลกยอมรับและยึดถือปฏิบัติ ตลอดจนต้องได้รับการยอมรับจากประชาชนในชาติด้วย กระผมเกรงว่าการลงนามตลอดจนการทำสนธิสัญญาฉบับต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้คณะรัฐประหาร จะนำมาซึ่งความไม่สบายใจและไม่เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชนคนไทยตลอดจนรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศภายใต้การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่เป็นสากล และเป็นที่แน่นอนว่า การได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญของรัฐ มีความจำเป็นต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยสากลและเป็นที่ยอมรับได้ทั้งภายในประเทศและนานาอารยประเทศด้วย” นายจารุพงศ์กล่าว
เลขาธิการเสรีไทย ยังกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณด้วยความจริงใจต่อรัฐบาลญี่ปุ่นในการแสดงออกอย่างชัดเจน และมีเข้าใจในวิกฤติทางการเมือง ของประเทศไทย ที่ปัจจุบันมิได้เป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากล และได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการให้ประเทศไทย มีการเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และเป็นสากล และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสัมพันธ์อันดีที่แนบแน่นและยาวนาน ของทั้งสองประเทศ จะดำเนินอยู่ตลอดไป และขอขอบคุณอีกครั้ง ที่รัฐบาลญี่ปุ่นเห็นถึงความต้องการของประชาชนไทย ที่ต้องการมีรัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเองมิใช่จากกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่มาจากการยึดอำนา


 คลิกติดตามข่าวทั้งหมด  http://www.thaivoicemedia.com/

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar