ประเมิน 2 ปีหลังการรัฐประหาร
บทความนี้ไม่ใช่บทรำลึกวันครบรอบ 2 ปีของการรัฐประหาร มีหลายฝ่ายประเมินว่าการรัฐประหารผ่านมา 2 ปีแล้ว มีผลอย่างไรบ้าง ประกอบกับช่วงนี้ถือได้ว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมือง การเสนอบทความนี้จึงอาจเป็นประโยชน์สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งเป็น สิ่งจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน
1.การปฏิรูป : ข้ออ้างที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง
2.การแก้ปัญหาคอรัปชั่น : ยิ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ยิ่งป้องกันคอรัปชั่นยาก
3.การทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย : ไม่สงบจริง ไม่ยั่งยืนและค่าใช้จ่ายแพง
4.การแก้ปัญหาความขัดแย้งและการทำให้เกิดการปรองดอง : ขาดความเข้าใจอย่างสิ้นเชิง
5.การละเมิดสิทธิมนุษยชน : มากเป็นประวัติการณ์
6.การคืนประชาธิปไตย : ยืดออกไปเรื่อยๆ
7.การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ : ข้อจำกัดจากระบบการปกครอง
คลิกอ่านรายละเอียดทั้งหมด...Continue Reading
บทสรุป 2 ปีหลังการรัฐประหาร
การรัฐประหารและการดำเนินการต่างๆที่ต่อเนื่องจากการรัฐประหารในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จดังที่กล่าวอ้าง เกิดเป็นความเสียหายต่อประเทศชาติในทุกด้าน
2 ปีมานี้ ไม่มีการปฏิรูปเกิดขึ้นแม้แต่เพียงเรื่องเดียวและไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้น ได้ การปฏิรูปเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อให้เกิดการเข้าสู่อำนาจและการมีอำนาจต่อไป อีกยาวนานเท่านั้น
ไม่มีหลักประกันว่าการคอรัปชั่นจะลดน้อยลงและยังเกิดระบบที่เอื้อต่อการ คอรัปชั่นเสียเองอีกด้วย ระบบกลไกในการจัดการกับปัญหาคอรัปชั่นได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การใช้อำนาจเบ็ดเสร็จใน 2 ปีมานี้ ทำให้ไม่มีองค์กรอิสระ การบริหารราชการไม่มีการถ่วงดุลและไม่มีใครตรวจสอบได้ การใช้คำสั่งต่างๆไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรมซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการ ป้องกันปราบปรามคอรัปชั่น
ผู้มีอำนาจไม่ได้แสดงความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการแก้ปัญหาความขัดแย้งและการ ปรองดอง ทั้งยังสร้างความขัดแย้งด้วยการใช้อำนาจตามอำเภอใจและเลือกปฏิบัติ ทำให้ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งเสียเอง
มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากเป็นประวัติการณ์ ประเทศไทยตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในเวทีโลกอย่างไม่เคยมีมาก่อน สถานะของประเทศตกต่ำและเป็นอุปสรรคต่อความร่วมมือกับประเทศต่างๆ
หลังจากผ่านไป 2 ปี การขอเวลาอีกไม่นานกำลังจะกลายเป็นการขอเวลาควบคุมอีก 5 ปีที่อาจมีผลต่อเนื่องไปเป็น 10 ปีหรือ 20 ปี สิ่งเหล่านี้ถูกบรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่กำลังจะมี การลงประชามติแบบไม่เสรีและเป็นธรรม
สิ่งที่ทำให้คนจำนวนมากพอใจเพียงสิ่งเดียว คือ การยุติความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมือง แต่สิ่งนั้นไม่ใช่ความสงบที่ยั่งยืน หากเป็นความสงบราบคาบที่รอวันปะทุ เนื่องจากความสงบที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย หากเกิดจากการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จที่คำพูดกลายเป็นกฎหมาย ปิดกั้นการแสดงความเห็นที่แตกต่าง การร้องเรียนถึงความเดือดร้อนกระทำไม่ได้ สังคมไม่ได้เตรียมการเข้าสู่สภาพที่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเป็นธรรม และระบบยุติธรรมไม่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น
การทำให้เกิดความสงบราบคาบโดยอำนาจเบ็ดเสร็จนี้ ไม่ต่างอะไรจากคนไข้หนักที่เป็นโรคร้ายแรงและต้องการการผ่าตัด แต่กลับได้รับยาระงับปวดที่เป็นยาเสพติดที่ให้โทษร้ายแรงแต่ขาดไม่ได้
สิ่งที่ประชาชนคาดหวังอย่างมาก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งนอกจากเป็นเพราะขาดวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ความรู้ ความสามารถแล้ว ยังถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาความไม่ยอมรับต่อการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและ การละเมิดสิทธิมนุษยชน
สองปีที่ผ่านมา ไม่มีอะไรทำได้ตามที่อ้าง ที่ดูเหมือนทำได้ก็ไม่ใช่ของดีจริง ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายสูงมากคือทำให้เกิดความเสียหายในทุกด้าน
000000000000000000
#2ปีหลังรัฐประหาร #ปฏิรูป #คอรัปชั่น #ความสงบเรียบร้อย #ความขัดแย้งและปรองดอง #คืนประชาธิปไตย #ละเมิดสิทธิมนุษยชน #ปัญหาเศรษฐกิจ #จาตุรนต์ ฉายแสง
บทความนี้ไม่ใช่บทรำลึกวันครบรอบ 2 ปีของการรัฐประหาร มีหลายฝ่ายประเมินว่าการรัฐประหารผ่านมา 2 ปีแล้ว มีผลอย่างไรบ้าง ประกอบกับช่วงนี้ถือได้ว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมือง การเสนอบทความนี้จึงอาจเป็นประโยชน์สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งเป็น สิ่งจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน
1.การปฏิรูป : ข้ออ้างที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง
2.การแก้ปัญหาคอรัปชั่น : ยิ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ยิ่งป้องกันคอรัปชั่นยาก
3.การทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย : ไม่สงบจริง ไม่ยั่งยืนและค่าใช้จ่ายแพง
4.การแก้ปัญหาความขัดแย้งและการทำให้เกิดการปรองดอง : ขาดความเข้าใจอย่างสิ้นเชิง
5.การละเมิดสิทธิมนุษยชน : มากเป็นประวัติการณ์
6.การคืนประชาธิปไตย : ยืดออกไปเรื่อยๆ
7.การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ : ข้อจำกัดจากระบบการปกครอง
คลิกอ่านรายละเอียดทั้งหมด...Continue Reading
บทสรุป 2 ปีหลังการรัฐประหาร
การรัฐประหารและการดำเนินการต่างๆที่ต่อเนื่องจากการรัฐประหารในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จดังที่กล่าวอ้าง เกิดเป็นความเสียหายต่อประเทศชาติในทุกด้าน
2 ปีมานี้ ไม่มีการปฏิรูปเกิดขึ้นแม้แต่เพียงเรื่องเดียวและไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้น ได้ การปฏิรูปเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อให้เกิดการเข้าสู่อำนาจและการมีอำนาจต่อไป อีกยาวนานเท่านั้น
ไม่มีหลักประกันว่าการคอรัปชั่นจะลดน้อยลงและยังเกิดระบบที่เอื้อต่อการ คอรัปชั่นเสียเองอีกด้วย ระบบกลไกในการจัดการกับปัญหาคอรัปชั่นได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การใช้อำนาจเบ็ดเสร็จใน 2 ปีมานี้ ทำให้ไม่มีองค์กรอิสระ การบริหารราชการไม่มีการถ่วงดุลและไม่มีใครตรวจสอบได้ การใช้คำสั่งต่างๆไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรมซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการ ป้องกันปราบปรามคอรัปชั่น
ผู้มีอำนาจไม่ได้แสดงความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการแก้ปัญหาความขัดแย้งและการ ปรองดอง ทั้งยังสร้างความขัดแย้งด้วยการใช้อำนาจตามอำเภอใจและเลือกปฏิบัติ ทำให้ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งเสียเอง
มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากเป็นประวัติการณ์ ประเทศไทยตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในเวทีโลกอย่างไม่เคยมีมาก่อน สถานะของประเทศตกต่ำและเป็นอุปสรรคต่อความร่วมมือกับประเทศต่างๆ
หลังจากผ่านไป 2 ปี การขอเวลาอีกไม่นานกำลังจะกลายเป็นการขอเวลาควบคุมอีก 5 ปีที่อาจมีผลต่อเนื่องไปเป็น 10 ปีหรือ 20 ปี สิ่งเหล่านี้ถูกบรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่กำลังจะมี การลงประชามติแบบไม่เสรีและเป็นธรรม
สิ่งที่ทำให้คนจำนวนมากพอใจเพียงสิ่งเดียว คือ การยุติความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมือง แต่สิ่งนั้นไม่ใช่ความสงบที่ยั่งยืน หากเป็นความสงบราบคาบที่รอวันปะทุ เนื่องจากความสงบที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย หากเกิดจากการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จที่คำพูดกลายเป็นกฎหมาย ปิดกั้นการแสดงความเห็นที่แตกต่าง การร้องเรียนถึงความเดือดร้อนกระทำไม่ได้ สังคมไม่ได้เตรียมการเข้าสู่สภาพที่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเป็นธรรม และระบบยุติธรรมไม่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น
การทำให้เกิดความสงบราบคาบโดยอำนาจเบ็ดเสร็จนี้ ไม่ต่างอะไรจากคนไข้หนักที่เป็นโรคร้ายแรงและต้องการการผ่าตัด แต่กลับได้รับยาระงับปวดที่เป็นยาเสพติดที่ให้โทษร้ายแรงแต่ขาดไม่ได้
สิ่งที่ประชาชนคาดหวังอย่างมาก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งนอกจากเป็นเพราะขาดวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ความรู้ ความสามารถแล้ว ยังถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาความไม่ยอมรับต่อการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและ การละเมิดสิทธิมนุษยชน
สองปีที่ผ่านมา ไม่มีอะไรทำได้ตามที่อ้าง ที่ดูเหมือนทำได้ก็ไม่ใช่ของดีจริง ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายสูงมากคือทำให้เกิดความเสียหายในทุกด้าน
000000000000000000
#2ปีหลังรัฐประหาร #ปฏิรูป #คอรัปชั่น #ความสงบเรียบร้อย #ความขัดแย้งและปรองดอง #คืนประชาธิปไตย #ละเมิดสิทธิมนุษยชน #ปัญหาเศรษฐกิจ #จาตุรนต์ ฉายแสง
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar