onsdag 8 juni 2016

Somsak Jeamteerasakul..... A Monarchy without THE Monarch กรณีประยุทธ์ กับ "พระมหาชนก"


Somsak Jeamteerasakul's Profile Photo
A Monarchy without THE Monarch.สถาบันกษัตริย์ที่ไม่มี "องค์กษัตริย์" นั้นกรณีประยุทธ์ กับ "พระมหาชนก"
...............
ผมตามอ่านปฏิกิริยาที่หลายคนมีต่อการที่ประยุทธ์พูดเมื่อวาน เปรียบเทียบตัวเองเป็น "พระมหาชนก" ตั้งแต่ประเภทว่า "(ตรู)ไม่ลงเรือไปกับท่าน(มรึง)หรอก", ไปถึง "ท่าน(มรึง)เป็นคนคว่ำเรือเอง" ไปถึง "เรื่องมหาชนกนี่คนอื่นๆตายหมดนะ(โว้ย)" ฯลฯ อะไรทำนองนั้น
(สำหรับท่านที่สนใจกรณีนี้ แนะนำให้อ่านบทสัมภาษณ์ อ. Artit Srijan ที่นี่ http://goo.gl/xpaolN)
ความจริง ตอนผมอ่านข่าวครั้งแรกตั้งแต่เมื่อวาน ผมสะดุดใจบางอย่างขึ้นมาทันที แต่ไม่มีเวลาเขียนไป เรื่องนี้ อาจจะมีคนเมืองไทยคิดกันก็ได้ แต่พูดไม่ได้
ก่อนอื่นที่ผมสะดุดใจขึ้นมาคือ เรื่อง "พระมหาชนก" นั้น ไม่เป็นความลับที่ว่า ถ้าติดตามอ่านตัวหนังสือและเรื่องแวดล้อมของการโปรโมทพระราชนิพนธ์นั้นแล้ว จะเห็นว่า ในหลวงเองทรงคิดเปรียบเทียบตัวท่านเองในฐานะเป็น "พระมหาชนก" อันนี้ความจริงมีแบ๊คกราวน์ที่กว้างออกไปอีก คือถ้าใครสนใจติดตามศึกษาในหลวงโดยใกล้ชิด นี่เป็น "ตีม" หรือประเด็นสำคัญที่ในหลวง "มองตัวเอง" หรือมี "ภาพเกี่ยวกับตัวเอง" (มนุษย์ทุกคนล้วนมี "ภาพเกี่ยวกับตัวเอง" หรือ "มองตัวเอง" ทั้งนั้น คือมองว่าตัวเองกำลังทำอะไร เป็นคนอย่างไร ฯลฯ ในหลวงก็ไม่มีข้อยกเว้น)
คือทรงเชื่อตัวเองเป็นผู้เสียสละ อดทน อย่างใหญ่หลวง และทีสำคัญ - และนี่คือประเด็นสำคัญมากในความเข้าใจศึกษาในหลวง - มองว่าตัวท่านเอง เหมือนกำลัง "ปิดทองหลังพระ" มาโดยตลอด (เพลงอย่าง "ปิดทองหลังพระ" ของ แอ๊ด คาราบาว และ "แสงหนึ่ง" ของ บอย โกสิยพงศ์ ไมใช่อะไรที่บังเอิญ เป็นเพียงการ "รับซื้อ" ไอเดียนี้ของในหลวงและวงการเจ้าไทยมาทำในระดับ "ป๊อบปูล่าคัลเจอร์")
ถ้าพูดแบบตรงๆไม่เกรงใจ นี่เป็น self-illusion (หรือมองตัวเองแบบมีมายา) ของในหลวง (อีกครั้ง ต้องบอกว่า เราทุกคน จะมากน้อย มี self-illusion เกี่ยวกับตัวเองอยู่ เช่นบางคนคิดว่าตัวเองเก่งกว่าที่เป็นจริง บางคนคิดว่า สิ่งทีตัวเองทำมีความสำคัญใหญ่หลวงกว่าทีเป็นจริง เป็นต้น) หรือถ้าพูดในภาษาแพทย์หน่อย คือทรง delusional (หรือมีอีกคำในภาษาฝรั่ง illusion of grandeur คือมายากว่ายิ่งใหญ่)
เราทุกคน(ถ้าไม่เอาปัญญาไปเก็บเหมือนกรณีแอ๊ด คาราบาว หรือ บอย ในเพลงทีว่า) ก็รู้วา่ ไม่มีอะไรที่ในหลวงทำเป็นเรื่องของการ "ปิดทองหลังพระ" หรือ "แสงที่มองไม่เห็น" อะไรเลย เพราะสิ่งทีพระองค์ "ทำ" ในแง่เลือกสรรมา ได้รับการ "โปรแกรม" เข้าไปในหัวคนไทย ตั้งแต่ยังเป็นเด็กอนุบาลไม่รู้เรืองชนิด 24/7 คือตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดปี
ความเชื่อว่าทรง "ทำงานหนักมาก" (อยู่คนเดียว - เหมือนมหาชนก อดทนว่ายน้ำอยู่คนเดียว) ก็เป็น delusional (มีมายา หลงผิด สำคัญผิด กับตัวเอง) คือคนอื่นๆล้วนแต่ "ทำงานหนัก" ทั้งนั้น และมากกว่าในหลวงเองหลายเท่าก็มีเยอะ ทีสำคัญ เรื่องว่า ใคร "ทำงานหนัก" ในแง่บุคคลสาธารณะนั้น เป็นเรื่องที่ต้องให้คนอื่นทั้่งหมดประเมิน ไมใช่ประเมินตัวเอง แล้วบังคับหรือโปรแกรมให้คนอื่นๆเชื่อตาม โดยไม่สามารถตรวจสอบ ตั้งคำถาม หรือโต้แย้งได้
ประเด็นที่ผมสะดุดใจมากๆขึ้นมา ตอนอ่านที่ประยุทธ์พูดคือ "ประยุทธ์กำลังเปรียบเทียบตัวเองกับมหาชนก ซึ่งเป็น "ตัวละคร" ที่ในหลวงใช้เปรียบเทียบตัวท่านเอง
อันนี้ผมว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ คือประยุทธ์คงไม่ทันคิดเรื่องนี้ อย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมไม่ได้กำลังเสนอว่าประยุทธ์ "เหิมเกริม" หรือ "คิดตีตนเทียบเจ้า" เลย (ประเด็นอยู่ทีอื่นที่ผมจะพูดต่อไป) เพราะจริงๆผมคิดว่าเขาเป็นคน "จงรักภักดี" จริงๆ ชนิดที่ฝรั่งเรียกว่า one-track mind เลย คือ คิดแบบทื่อๆ คิดเป็นอยู่เรื่องเดียวแบบเดียวในแง่รักษาสถาบันฯให้เป็นแบบที่ "เคยเป็น" ชนิดชั่วกัลปาวสานต์ และนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่อธิบายว่า ทำไมเขาจึงเข้ามาเทคโอเว่อร์ทั้งๆทีตัวเอง ไม่มีความสามารถ ไม่อยากทำ ทำแล้วเครียดจัด ไม่ "เอ็นจอย" กับสิ่งทีตัวเองทำ แต่ด้วยความเป็น one-track mind ก็เลยดันทุรัง ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ one-track mind ขนาดนี้ คงหาทาง "ปรับตัว" หรือปรับวิธีการไปนานแล้ว)
แต่ที่เขา "ไม่ทันคิด" เอา "พระมหาชนก" ที่ในหลวงบอกว่าตัวท่านเองเป็น มาบอกว่าเขาเองเป็น ผมว่า เป็นการสะท้อนภาวะสำคัญในขณะนี้ คือ ถ้าในหลวงยังอยู่ปกติเหมือนก่อน ออกมาพูดอไรต่อสาธารณะได้ตามปกติ ไม่ใช่ทรงกำลังอาการหนัก และใกล้จะ "ไป" เร็วๆนี้ ผมไม่คิดว่าประยุทธ์หรือใครจะเกิดไอเดียหรือกล้าที่จะยกเอา "พระมหาชนก" มาเปรียบเทียบเป็นตัวเองแบบนี้แน่
 ความเห็นผมคือ ประยุทธ์โดยไม่รู้ตัวที่พูดออกไป แต่มีแบ๊กกราวน์ในใจตลอดเวลาเรื่องในหลวงจะ "ไม่อยู่" เร็วๆนี้แล้ว ไม่ทันคิด ก็ยกเอา "ภาพลักษณ์" ที่ในหลวงเองทรงใช้เป็น "โลโก้" ของท่าน มาใช้กับตัวเอง - เรื่องนี้มันสะท้อนความจริงทีว่า ประยุทธ์อยู่ในโหมดที่กำลังพยายามมาตลอด 2 ปีนี้ ที่ผมเคยเขียนไปก่อนหน้านี้ คือจะทำยังไง หลังในหลวงไม่อยู่ ที่จะให้สถาบันกษัตริย์ที่ไม่มีในหลวง ยังคงเป็น"อำนาจนำ"ในด้านการเมือง สังคม วัฒนธรรมอยู่ (โดยประยุทธ์หรือทุกคนย่อมรู้ว่า พระบรมฯที่ขึ้นมาใหม่ ไม่สามารถเป็นแทนในหลวงได้)
ผมเรียกภาวะหรือสิ่งที่ ประยุทธ์ และ คสช พยายามจะทำ (เช่นที่พูดออกมาเรื่อง "แผน 20 ปี") นี้ว่า A Monarchy without THE Monarch คือ สถาบันกษัตริย์ที่ไม่มี "องค์กษัตริย์" นั้น (คือไม่มีในหลวง ทีสำหรับพวกเขาคือ THE Monarch ไม่ใช่แค่ a monarch)
ผมคิดว่า ถ้าประยุทธ์จะคิดอะไร อย่างมากก็คงแค่นึกในแง่ที่ว่า เขาและ คสช กำลังรับใช้ในหลวงด้วยการ "ทำหน้าที่แทนในหลวง" (ที่กำลังป่วยหนักและจะไม่อยู่) คือทำตัวเป็น "พระมหาชนก" แทนในหลวง แต่การยกเอา "โลโก้" ของในหลวงมาใช้กับตัวเองในลักษณะใหญ่โตนี่ (จะเป็น "มหาชนก" ของประเทศไทยทั้งประเทศ) ก็เพียงสะท้อนแบ๊กกรวน์ภาวะที่ผมกล่าวข้างต้นนี้
และแน่นอน เช่นเดียวกับกรณีในหลวงเอง ประยุทธ์กำลังมี delusion of grandeur ....
 


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar