tisdag 20 januari 2015

ยุค " ปฎิรูปประเทศ " ให้ประชาชนกินอ้อยแทนข้าว รัฐบาลเผด็จการให้ชาวนา "เลิกปลูกข้าว" มาปลูกอ้อยแทนเพราะปีนี้ได้อ้อยราคาดี? คิดได้ไงใช้อะไรคิด? สินค้าทุกชนิดต้องแข่งขันหาตลาดไม่ใช่ให้ตลาดวิ่งมาหา..ไอ้โง่เหลือบศักดินาค้าขายไม่เป็นดีแต่สั่งการ...

คลิกอ่าน-หม่อมอุ๋ย เล็งถกชาวนา เดือน มี.ค. 2558 ขอให้ไปปลูกอ้อยแทนข้าว เพราะอ้อยเป็นพืชเกษตรชนิดเดียวที่ราคาไม่ตกในปีนี้... หม่อมอุ๋ยก็น่าจะกินอ้อยแทนข้าวนะ


ThaiE - News
ระดับ "รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ" ทำได้แค่นี้ คนจบ ป.4 ก็เป็นรัฐมนตรีได้   (นี่บอกเลย  ให้พ่อมึงกินหญ้าแทนชิไอ้ควาย.)









หม่อมอุ๋ย เล็งถกชาวนา เดือน มี.ค. 2558 ขอให้ไปปลูกอ้อยแทนข้าว
เพราะอ้อยเป็นพืชเกษตรชนิดเดียวที่ราคาไม่ตกในปีนี้

วิธีแก้ปัญหาแบบคนฉลาดเขาทำกัน! ข้าวราคาตกสั่งห้ามปลูกข้าว
หม่อมอุ๋ยก็น่าจะกินอ้อยแทนข้าวนะ

ชาวนาเขาก็บอกแล้วว่าถ้าเขาทำอย่างอื่นได้ เขาทำไปแล้ว แต่ลองแล้วมันไม่ได้ผล พอคนหันไปปลูกอ้อย เดี๋ยวราคาอ้อยตก ก็ไล่ไปปลูกข้าวอีก วนเวียนซ้ำซาก




‪#‎หยุดดัดจริตประเทศไทย‬
...................................................................

เบื้องหน้าเบื้องหลังทำกันเป็นขบวนการ  บอกประชาชน"ให้เลิกปลูกข้าว มาปลูกอ้อยแทน"  เรื่องนี้ฝากให้ ชาวนา ประชาชนไทยได้อ่าน.

ซวยละซีชาติไทย.."อุ๊ย"ให้ปลูกอ้อย.!!



by พิเภกInter
1.ตั้งโรงงานน้ำตาลใกล้เขตป่าเสื่อมโทรม...
2.กว้านซื้อที่มีเอกสารสิทธิ์ สค.๑ ภบท. ๕ หรือ ๖
3.นำเกษตรกรต่างถิ่นเข้าสวมสิทธิ์ แล้วมาทำสัญญากู้ซื้อที่ ...
4.เวลาผ่านไป 10 ปี กรมที่ดินเปลี่ยนใบ สค.๑ และ ภบท.๕ และ ๖ เป็นโฉนด เราก็ได้ครอบครองที่ดินอย่างถูกกฏหมาย
5.ส่วนเกษตรกรเดิมที่กู้เงินไปซื้อที่ก็ถึงเวลาล้มละลายหนี้สินล้นพ้น เราก็เปลี่ยนชื่อผู้กู้เป็นคนใหม่ เราอย่าไปใส่ชื่อเอง ภาษีมรดกไม่มี ค่าใช้จ่ายเป็นของลูกหนี้...
6.เราจับกลุ่มเกษตรกรเป็นสมาคม ให้พวกเขาค้ำประกันไปมา แต่อำนาจสั่งจ่ายและขายเช็ค ตกแก่เราเป็นผู้สั่งจ่าย... ... ยังมีต่ออีกยาว...!!! -
7.ปล่อยเงินกู้ในรูปแบบขายลดเช็ค(เรียกว่าเงินเกี้ยว) หลังปิดหิ่บค่อยหักหนี้กัน(ส่วนใหญ่ชำระไม่หมด พอกหางหมูไปปีถัดไป...
8.ตั้งญาติมิตรให้เปิดร้านจำหน่ายเครื่องมือเกษตร เครื่องอุปโภคบริโภคขายแก่เกษตรกร...
9.ตั้งญาติมิตรให้เป็นเกษตรกรเทียมเพื่อเป็นเจ้าของโควต้า(ไว้แอบรับซื้ออ้อยที่เกษตรกรขาดเงินหมุนเวียนนำมาแอบขาย)... -
10.ญาติของเรารับซื้ออ้อยที่เกษตรกรนำมาขายเราก็กดราคาให้ต่ำ เงินเพิ่มปลายปีก็ตกเป็นของเรา...(ญาติมิตรเกษตรกรเทียมก็กำไรปีละหลายสิบล้าน)
11.ญาติมิตรของเราอีกส่วนก็ให้ไปคุมตาชั่ง แบ่งปันการโกงน้ำหนักกันสามส่วน ญาติมิตรเราส่วนหนึ่ง ตัวแทนจากสมาคมฯส่วนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ราชการอีกส่วนหนึ่ง กินตาชั่ง 3% โดยประมาณ ให้สัมพันธ์กับการยักยอกน้ำตาลทราย คือ 3% โดยประมาณ... -
12.พอถึงคราวผลิตเป็นน้ำตาล เวลานับจำนวนกระสอบ มีเจ้าหน้าที่สามฝ่าย คือตัวแทนจากสมาคมชาวไร่อ้อย โรงงาน เจ้าหน้าที่ราชการฯเราก็คัดน้ำตาลทรายเข้ากระเป๋าเสีย 3% เพื่อให้สัมพันธ์กับตอนชั่งอ้อย... -
13.เมื่อถึงเวลาปิดหิ่บ ก็นำราคาซื้ออ้อยหักออกจากราคาขายน้ำตาลทราย กำไรเท่าไหร่ก็นำมาแบ่ง 70/30 ผลผลิตที่หายไปจ้างให้เกษตรกรก็ไม่รู้..
14.การจำหน่ายยังแบ่งเป็นสองส่วน คือ โควต้า ก.และ โควต้า ข. โควต้า ก.จำหน่ายในประเทศ ราคา กก.ละ 24 บาท โควต้า ข.จำหน่ายออกต่างประเทศ กก.ละ 6 บาท นำสองส่วนมาบวกกันแล้วหารสอง นั้นคือราคาสุดื้ายที่ทางการนำมาแบ่ง 70/30 ... ทีเด็ดสำคัญ คือการลักลอบโควต้า ข.ที่ส่งนอก ย้อนกลับมาจำหน่ายในประเทศ(เพราะได้ราคาดี)... -




-ยังมีลูกเล่นอีกมากมายให้ญาติมิตรได้ทำกำไร...วันหลังค่อยมาบอก... ... เวลานี้ที่ดินในไทย ตกเป็นของโรงงานน้ำตาลนับล้านไร่... โดยการใส่ชื่อเกษตรกร ภาษีมรดกก็ไม่ต้องเสีย ภาษีที่ดินเกษตรกรก็รับภาระไป... ดอกเบี้ยซื้อขายลดเช็คก็งุบงิบแบ่งกัน... ... โรงงานน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดชื่อ"มิตรผล"เมื่อก่อนจนจะตาย... มีนาย อิสระ ว่องกุศลกิจ เป็นเจ้าของ... และยังดำรงตำแหน่ง"ประธานหอการค้าไทย"ตัวดี... -
-เมื่อก่อนใบอนุญาตตั้งโรงงานอ้อย อยู่ในกำมือบรรหารพรรคชาติไทยผ่านนายประพัฒน์ขาเป๋ ปัจจุบันโรงงานน้ำตาลลงมาเล่นการเมืองเอง... คุ้มกว่าให้พรรคการเมืองนำไปเสวย... เพราะเหตุนี้เอง พรรคชาติไทยโดยนายบรรหาร จึงจองกระทรวงเกษตรตลอดมา...(อร่อยดี)..
ช่วงนี้เข้าฤดูหนาว ไม่เหมาะแก่เล่านิทาน... จึงนำเรื่องชาวไร้อ้อยตกเป็นเบี้ยล่าง เป็นทาส เป็นผู้ถูกกระทำมานำเสนอ... ยินดีรับผิดชอบในบทความนี้ ใครว่าไม่จริงก็แสดงตัวมา... งวดหน้ามาว่ากันถึงวิธีการฮุปที่ของเจ้าสัวเป็ดไก่,เจ้าของเมรัยตราช้าง,และ อีกบานตะเกียง... -

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar