fredag 23 januari 2015

ชัดเจน ทหาร"ยึดอำนาจ" เพื่อใคร? วันนี้ทุกคนต้องเปิดใจให้กว้างยอมรับกับสภาพความเป็นจริง ว่าวิกฤติอันเลวร้ายของประเทศไทยวันนี้เกิดจากเกมการเมืองของการแย่งชิงอำนาจระหว่างสองขั้ว โดยยึดประเทศชาติและประชาชนไทยเป็นตัวประกัน และวิกฤติยังไม่สิ้นสุดนับวันจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ .ยังๆไม่จบ แค่เคสแรก..ประชาชนโปรดเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมอย่ากระพริบตา...

เปิดแผนระยำ เตรียมคว่ำยิ่งลักษณ์
- - - - - - - - - -
คลิกอ่านเพื่อติดอาวุธทางปัญญา...Läs mer
จะได้ระมัดระวังช่วยเหลือตนเองไม่เดินหลงทาง

เปิดแผนระยำ เตรียมคว่ำยิ่งลักษณ์

#กูปลูกปัญญาด้านกฎหมาย

- - - - - - - - - - 

เดิมนั้น กลุ่มอำมาตย์ วางแนวทางการกำจัดยิ่งลักษณ์ ไว้สองแนวทาง สำหรับเรื่องคดีจำนำข้าว ดังนี้ 

๑. #หาเรื่องลงโทษทางการเมือง 

ให้ ปปช.โดยนายวิชา มหาโพย/ มหาโจร  ยื่นถอดถอนต่อ สภา สนช. โดยเป็นการใช้กระบวนการถอดถอนตามรัฐธรรมนูญ ปี ๕๐ มาตรา ๒๗๔ โดยที่ไม่มีรัฐธรรมนูญแล้ว แต่แถจนสีข้างถลอกว่า ใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมาถอดถอน (อ้างอิง จาก พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ (กฎหมายของ ป.ป.ช.) มาตรา ๖๕)  

หากการถอดถอนสำเร็จ  ว่าง่ายๆ คือ โดน สนช. ลงมติถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ จะเป็น ส.ส. หรือ ครม. ไม่ได้ตาม รธน.๕๐มาตรา ๒๗๔ เป็นเวลา ๕ ปี นับจากวันที่มีประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา

ทว่ายังมี สนช. ที่มีใจเป็นกลาง และมีความเกรงกลัวต่อบาป ยึดหลักนิติธรรมอยู่บ้าง เมื่อฟังเหตุและผล ดูหลักฐานของยิ่งลักษณ์ที่นำเสนอต่อสาธารณะแล้ว การจะโหวตถอดถอน ก็ดูว่าจะขัดกับมโนธรรมและขัดกับหลักนิติธรรม จึงมีกลุ่ม สนช.กลุ่มหนึ่งที่จะ "ไม่ยอมโหวตลงมติ ถอดถอนยิ่งลักษณ์" เพราะเป็นการโหวตถอดถอนที่ขัดกับหลักนิติธรรม และมโนธรรมมันจะผิดบาป ติดไปในใจไปตลอดชีวิต

กูมีข้อสังเกต ให้ทุกท่านร่วมพิจารณา คือ นายวิชา เปิดปากกลางสภาว่า " ปู ไม่ได้ทุจริต" แต่ " ต้องถอดถอน " เพราะว่า " ส่อ " ทุจริต และการแถลงต่อสภาของ ป.ป.ช. แทนที่จะเป็นการ "ชี้มูลความผิด" อันมีหลักฐานเชิงประจักษ์ มาประกอบ ว่า ต้องถอดถอนเพราะความทุจริตอย่างไร กลับกลายเป็น "การอภิปรายไม่ไว้วางใจ"  เหมือนกับอภิปรายบอกสังคมว่า ผู้หญิงกับผู้ชายคบกัน  เดินด้วยกันมันจะต้องท้องแน่ๆ แต่ในความเป็นจริงมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่มโน

การยื่นถอดถอนครั้งนี้  จึงเป็นการ "มโนทุจริต" หรือ "มโนให้ทุจริตให้ได้" ของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ทั้ง ๙ คน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ของ สำนักงาน ป.ป.ช. เรียกได้ว่า "เป็นองค์กร มโนทุจริต" ไม่ยึดถือหลักนิติธรรม มีแต่ " นิติระยำ " ที่ทำงานสนอง รับใช้อำนาจมืด มือที่มองไม่เห็น  

ทีนี้ " หาก" การถอดถอน ในวันพรุ่งนี้  " ไม่สำเร็จ " 
เพราะข่าวที่ได้มานั้นบอกว่า คะแนนเสียง สนช. 
ยังไม่พอ จะถอดถอน ๓ ใน ๕ เพราะยังมีคนที่มีมโนธรรมอยู่
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้น ก็จะนำไปสู่กระบวนการขั้นต่อไป 

- - - - - - - - - - 

๒. นำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ที่เรียกว่า " #กฎหมายอยุติธรรม "

ก๊อกสองของ ป.ป.ช. ก็คือการเอายิ่งลักษณ์ เข้าสู่กระบวนทางการฟ้องร้องคดี ทาง ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  ในข้อหา ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม ป.อาญา ม.๑๕๗  (มาตรา ๑๕๗ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ / หมายเหตุ มาตรา ๑๕๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ปอ. พ.ศ.๒๕๐๒)

- - - - - - - - - - 

และข่าวกรองล่าสุด ที่ได้รับมาในตอนนี้  หากอัยการสูงสุดไม่สั่งฟ้องคดี ก็มีคำสั่งรอไว้แล้วว่า จะต้องหาทางเปลี่ยนทีมอัยการที่ทำคดี ให้เป็นคนของเรา เพื่อให้ฟ้องยิ่งลักษณ์ต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้จงได้  ... และหากเปลี่ยนทีมอัยการที่ทำสำนวนไม่ได้  ก็ให้ ป.ป.ช. ตั้งทนาย และยื่นฟ้องเอง โดยข้ามขั้นตอนของสำนักงานอัยการสูงสุดไปเสีย   

- - - - - - - - - - 

ถ้า ป.ป.ช. หรือ อัยการสูงสุด ส่งฟ้อง 

และ " หาก " ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษา ตัดสินว่า " นายกยิ่งลักษณ์ มีความผิด " 

ผลที่จะตามมา ก็คือ การลงโทษ ตามคำพิพากษา 
อาจจะต้องถึงกับติดคุก โดย " อาจจะ " ไม่มีการรอลงอาญา
และถูกตัดสิทธิทางการเมือง หลังจากวันที่พ้นโทษ อีก ๕ ปี

- - - - - - - - - - 

ซึ่งผลทางกฎหมายก็เป็นไปตามคำพิพากษา และผลทางการเมืองก็คือ ชนักที่เป็นตราบาปปักหลังนายกยิ่งลักษณ์ ไปตลอด หากรัฐธรรมนูญปี ๕๐ ยังอยู่ผลทางการเมืองก็คือ ยิ่งลักษณ์ จะเล่นการเมืองไม่ได้ตลอดชีวิต แต่นี่รัฐธรรมนูญปี ๕๐ ไม่อยู่แล้ว ผลการห้ามเล่นการเมืองก็เลยยกเลิกไปด้วย

- - - - - - - - - - 

แต่ช้าก่อน หากใครติดตามการเมือง การให้ข่าวเรื่องรัฐธรรมนูญอย่างใกล้ชิด อาจจะเคยได้ยินก็ได้ว่า ...ในรัฐธรรมนูญใหม่ นายวิชา และ กมธ. ยกร่างบางคน เคยบอกว่า จะมีมิติใหม่ ในการลงโทษคนที่ทุจริต ให้รุนแรงขึ้น หนักขึ้น โดยคนที่ทุจริต หรือเคยต้องโทษทุจริต จะถูกแบนทางการเมืองตลอดชีวิต และจะเอาโทษย้อนหลังได้ด้วย และอาจมีผลถึงแบนครอบครัวญาติพี่น้อง หรือเรียกง่ายๆ ว่า กฎหมายเจ็ดชั่วโคตร นั่นเอง

(อันนี้คือข่าวว่า รธน.ใหม่ จะมีการเพิ่มโทษ และให้มีการผิดย้อนหลัง บางส่วน
๑. http://www.msn.com/th-th/news/other/ร่างกฎหมาย-ปปชใหม่-เพิ่มโทษแบนตลอดชีวิต/vi-BBg2shy?refvid=BB9mpZN
๒. http://news.ch7.com/detail/105360/กมธ.ยกร่างร่างรัฐธรรมนูญ_บัญญัตินิยาม_หลักนิติธรรม_เ.html)

- - - - - - - - - - 

มาถึงตรงนี้คงจะเห็นความโหดเหี้ยม 
และการเอากฎหมายที่ไม่เป็นกฎหมาย 
ขัดกับหลักนิติธรรมทั่วไป มาเป็นเครื่องมือ
เพื่อทำลายล้าง โดยไม่คำนึงถึงเรื่องใดๆ กันแล้วใช่ไหม ... 

ไม่แน่นะว่า ตัวท่าน สนช. เอง ก็อาจะตกเป็นเครื่องมือ และตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น กฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ ที่เมื่อประกาศปุ๊บ ท่าน สนช.จะมั่นใจได้อย่างไร ว่าไม่โดนดักฟังโทรศัพท์  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีทุจริต หากเอาผิดย้อนหลังได้ ท่าน สนช. มั่นใจนะ ว่าตัวท่าน สนช.เองจะไม่โดนเข้ากับกฎหมายนี้  

- - - - - - - - - - 

ถ้า คสช.อยากเอาผิดจริงๆ หัวหน้า คสช. องค์รัฏฐาธิปัตย์ ก็แค่ออกประกาศ ตามมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ๒๕๕๗ เลยว่า ยิ่งลักษณ์ คอรัปชั่น ให้ติดคุก ๒๐ ปี และยึดทรัพย์สิน ...นี่ไง ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวด้วย อย่างไรเสีย บวรศักดิ์ กับ วิษณุ ก็รับสนองท่านหัวหน้า คสช.อยู่แล้ว 

- - - - - - - - - - 

ดังนั้น ท่าน สนช. และท่านที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย อย่าไปรับใช้อำมาตย์บางตัว เพราะไอ้อำมาตย์บางตัวนั้น มันขอเพียงให้บรรลุวัตถุประสงค์ เพื่อกำจัดคู่แข่งทางการเมือง การกระทำเช่นนี้ จะส่งผลให้ความเชื่อถือต่อความยุติธรรมทางกฎหมายของประเทศนี้สั่นคลอน

- - - - - - - - - - 

วันพรุ่งนี้ อสส. จะแถลง ๙ โมงเช้า 
เคลียร์ว่าจะฟ้องหรือไม่ 

- - - - - - - - - - 

หลังจาก ฟังการแถลงปิดคดี 

สนช. สายทหาร แบ่งออก ๓ กลุ่ม 

กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่ตั้งใจทำงาน กำลังคิดทบทวน ถึงเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ที่จะยืนบนความถูกต้อง พวกนี้ไม่ยอมลงชื่อถอดถอน แม้จะมีการลอบบี้ 

กลุ่มที่ ๒ พวกรักตัว กลัวตาย ในอนาคต มองเห็นตัวเองไปยืนแถลงปิดคดี ในอีก ๕ ปี ข้างหน้า ถ้ามีการถอดถอนสำเร็จ หลักการความยุติธรรมต่างๆ ก็หายไป ดังนั้นโอกาสที่ตัวเองจะโดนของกลับก็มีเหมือนกัน เหมือนเรื่องกฏหมายไซเบอร์ ป่านนี้ มือถือ สนช. ทุกคน โดนดักฟังหมดแล้ว กลุ่มนี้ ยัง ๒ จิต ๒ ใจ ไม่กล้าลงชื่อถอดถอน เพราะ อนาคต อะไรก็เกิดขึ้นได้ เกียรติยศ ทรัพย์สิน ที่สะสมมา อาจถูกย้อนหลังยึดทรัพย์ หมดตัวก็ได้ พวกกลัวกรรมตามทัน 

กลุ่มที่ ๓ พวกสุดท้าย พวกนี้ ลูกขุนพลอยพยัก นายว่าขี้ข้าพลอย น้ำขึ้นให้รีบตัก พวกนี้ ลงชือ ตามใบสั่ง รอปูนบำเน็จรางวัล  ไม่สนความถูกต้อง...

หวังว่าพวกที่ผ่านสงคราม ผ่านการเป็น ผบ.หน่วย ผ่านหลักสูตรต่างๆ ทั้ง เสนาธิการ ทั้ง วปอ. มามายมาย คงจะคิดได้ ว่าควรทำสิ่งใดเพื่อประเทศชาติ ทันเวลา....

กูฝากไว้ให้ทุกท่านทราบ 

ช่วยกันแชร์ ให้คนได้เห็น ให้คนได้อ่านด้วย

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar