torsdag 9 juni 2016

หงุดหงิดไม่มีคนกลัว...



หงุดหงิดไม่มีคนกลัว

ใบตองแห้ง

"ปลื้ม" เรตติ้งกระฉูดไปเลย เขียนบทความไม่กี่บรรทัด โดนรุมอัดตั้งแต่โฆษกรัฐบาล รองโฆษก โฆษก คสช. ไปจน ม.จ.จุลเจิม ยุคล และ คำ ผกา

อ่านไปอ่านมา คำ ผกา กลับให้เหตุผลดีที่สุด ว่าอย่าเอา "มาตรฐานผู้ดีมีการศึกษา" มาตัดสิน พล.อ.ประยุทธ์ แบบคนชั้นกลางในเมืองตัดสินยิ่งลักษณ์ ทักษิณ ถ้าจะไม่ยอมรับก็เพราะท่านเป็นนายกฯ จากรัฐประหาร แต่เรื่องคุณสมบัติ "สำรวม สุภาพ สุขุม ท่วงทำนองที่ผู้นำไทยไม่มี" เธอกลับเห็นว่าเป็นส่วนดีที่สุดของ พล.อ.ประยุทธ์

ใช่เลยครับ ท่านผู้นำน่ารักตรงนี้แหละ ตรงจริงใจไม่เสแสร้งมีอะไรก็แสดงออก ไม่ต้องมาทำเป็นพูดนิ่มๆ เนิบๆ แบบพวกผู้ดี มีอารมณ์ไม่พอใจก็ระเบิดได้ทุกวัน ไม่เว้นกระทั่งเวที G77 สื่อพาดหัวข่าวซ้ำๆ "บิ๊กตู่เดือด" "บิ๊กตู่จวก" "บิ๊กตู่ลั่น" แต่คะแนนนิยมไม่ยักตก นักข่าวถูกด่าก็ไม่ยักโกรธ กลับขบขันรู้สึกเป็นกันเอง

อันที่จริง ผมว่าคนชั้นกลางในเมืองก็เปลี่ยนรสนิยมแล้วเหมือนกัน จากที่เคยชื่นชอบผู้ดีรัตนโกสินทร์อย่าง อานันท์ ปันยารชุน หรือเคยกรี๊ดรูปหล่อนักเรียนนอกอย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตอนนี้ตกกระป๋องหมด แพ้พระเอกตัวจริง "ลุงตู่" คนชั้นกลางดูท่านหงุดหงิดออกทีวีแล้วมีความสุข เหมือนดูละครย้อนยุค พิศาล อัครเศรณี ช่วงไหนท่านงดให้สัมภาษณ์ ประเทศชาติจืดชืดไปหลายวัน

นอกจากฟาดฟันนักการเมือง ท่านก็ยังอุตสาหะสอนคติธรรมชาวบ้าน เช่น ออกทีวีสอนให้ทำความดีเยอะๆ เผื่อฝนจะตก สอนคนไทยอย่างมงาย ไม่ต้องห้อยพระเครื่อง 10-20 องค์ สอนให้อดทนอย่างพระมหาชนก ว่ายน้ำ 7 วัน 7 คืนไม่มีหงุดหงิด ไม่บ่นซักคำ แล้วบอกว่าจะพาคนไทยข้ามน้ำเหมือนพระมหาชนก แต่ชาวบ้านฟังแล้วหนาว เอ๊ะ เรื่องพระมหาชนกนี่เรือล่มตายหมดทั้งลำ รอดคนเดียวไม่ใช่เรอะ

น่าเห็นใจว่าหลายวันมานี้ ลุงตู่หงุดหงิดทุกวัน เพราะหลังจากผ่อนคลาย ให้นักการเมืองเดินทางไปต่างประเทศได้ เลิกใช้คำว่าปรับทัศนคติ เลิกใช้ค่ายทหาร นักการเมืองก็ดูเหมือนจะ "เหิมเกริม" วิพากษ์วิจารณ์รายวัน ปลอดประสพซัด "3 แล้ง" ไม่แค่แล้งน้ำแต่แล้งปัญญา พรรคเพื่อไทยก็ออกมาเรียกร้องประชามติเสรีเป็นธรรม เข้าตำราได้คืบจะเอาศอก ตีเข่าเสียดีไหม แต่ทำไงได้ก็ได้แต่กัดฟัน ไหนๆ จะสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

ข้าง "อีปู" ก็เดินสายรายวัน ไปตลาดสำโรง พ่อค้าแม่ค้าทิ้งร้านมาขอถ่ายรูปยิ่งกว่าซุปตาร์ ไม่มีหน้าม้าส่งสัญญาณ ไม่มีส่วนราชการเกณฑ์คนมาต้อนรับ แต่เล่นการเมืองชัดๆ ดัดจริตจะไปซื้อของ เอาเข้าจริงคนแห่แหนจนไม่ได้ซื้อ

แต่ทำไงได้ จะห้ามออกจากบ้านไหม ก็กลายเป็น ซู จี สิ เดี๋ยวซู จี มาเยือนไทยจะว่าไง

ล่าสุด "ไอ้ตู่" ก็ตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ อ้างวาจาสัตย์ลุงตู่ไม่ห้าม ลุงตู่กัดฟัน เออ ไม่ห้ามแต่อย่าทำผิดก็แล้วกัน ทีโกงจำนำข้าวทำไมไม่ตั้งศูนย์ปราบบ้าง อ้าว ก็เขาบอกแล้วไง รัฐบาลเดียวกัน แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ให้เสรีภาพสื่อ เสรีภาพฝ่ายค้าน ตรวจสอบเต็มที่ แถมมีองค์กรอิสระจ้องฟาดฟัน แล้วรัฐบาลนี้ใครตรวจสอบได้บ้าง

ดูไปดูมา คสช.กำลังจะเข้าสู่ยุคที่ไม่มีคนกลัว ต่อให้ตั้งตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ออกประกาศคำสั่งเป็นกฎหมาย แต่อำนาจถ้าใช้โดยขาดเหตุผลก็ไม่มีคนกลัวมีแต่คนกล้าท้าทาย เศรษฐกิจฝืดเคืองกระทั่งแบงก์เกือบลดดอกเบี้ย 0% จะห้ามคนวิจารณ์ได้ไง ม.44 ย้ายตำรวจ ตั้งคนตายตั้งคนหนีคดีตั้งคนซ้ำตำแหน่ง จะปิดปากใคร ถ้ายืนเฉยๆ ก็ผิด มอบช่อดอกไม้ก็ผิด อำนาจอย่างนี้อยู่ตลอดไปไม่ได้ ยิ่งเข้าใกล้ประชามติ ยิ่งจับกุมปราบปรามใครลำบาก

ในมุมหนึ่งก็ถูกแล้ว หาก คสช.อยากลงจากอำนาจได้ ก็ต้องเริ่มผ่อนคลาย ต้องอดทนเรียนรู้ที่จะอยู่กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้ได้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง อย่าลืมว่าคนชั้นกลางในเมืองนิยมทหารเพราะสามารถใช้อำนาจบังคับสังคมให้สงบ หมดจากข้อนี้แล้ว มีข้อไหนบ้างได้รับความนิยม ผลงานหรือ คุณธรรมความดีหรือ ความฉลาดปราดเปรื่องเหนือประชาชนหรือ

ช่วงเวลาต่อไปนี้จะพิสูจน์ ถ้าเข้าสู่ยุคที่ไม่มีคนกลัว มีแต่คนกล้าท้าทาย ถ้ามีคนกล้ามากๆ เข้าจะทำอย่างไร จะอยู่อย่างไร จะกลับไปใช้ไม้แข็งใหม่ สถานการณ์ก็ผ่านเลยไปแล้วครับ

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar