โดย ปูนนก
เมื่อ พฤ, 31/10/2013 - 08:00
ถ้าเคยดูการแสดงหุ่นกระบอกก็จะเห็นว่าตัวหุ่นกระบอกที่เคลื่อนไหวไปตามบทได้นั้น จะต้องมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่คอยชักรอกให้ตัวหุ่นแต่ละตัวขับเคลื่อนไปตามความต้องการของผู้กำกับ.... ก่อนหน้าจะมีขบวนการคนเสื้อแดงที่ออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างมากมายมืดฟ้ามัวดินทุกวันนี้ การต่อสู้กับขบวนการเผด็จการในยุคแรกๆ ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่กลุ่มคนในระดับปัญญาชนเท่านั้น โดยอาจจะเริ่มจากราชนิกูลบางคน, เหล่านายทหารและนักศึกษาที่ได้รับการอบรมมาจากต่างประเทศ, ภายหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 การต่อสู้กับขบวนการเผด็จการก็ขยายตัวมาถึงกลุ่มนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ภายหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 การต่อสู้กับเผด็จการก็ขยายลงไปจนถึงระดับชาวบ้าน ตาสี ตาสา ระดับรากหญ้าโดยทั่วไป จากประชาชนที่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยรับรู้ว่าการเมืองคืออะไร ไม่เคยรู้ว่าประเทศนี้มีอำนาจมืดยึดครองประเทศเอาไว้ และคนกลุ่มนี้ได้เอารัดเอาเปรียบสูบเลือดสูบเนื้อประชาชนทั้งชาติมานานแสนนาน ภายใต้หน้ากากแห่งคุณธรรมและความเมตตา (เสมือนพวกที่ใส่หน้ากากขาวกายฟอกซ์นั่นแหละ) ก็ได้เข้าใจอย่างชัดแจ้ง
แต่ทว่าบางทีอาจจะบอกได้ว่า “กว่าจะรู้ก็สายเสียแล้ว” หลายสิบปีที่อำนาจมืดนี้ได้แผ่เงาแห่งอำนาจครอบครองและฝังรากลึกลงไปในทุกอณูสำนึกของประเทศนี้แล้ว แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีองคาพยพใดของประเทศนี้ที่ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำ และควบคุมของอำนาจมืดนี้ ซึ่งการถูกครอบงำและควบคุมโดยอำนาจมืดนี้ไม่ละเว้นแม้แต่บุคคลที่อยู่ในขบวนการคนเสื้อแดงที่อ้างตัวว่าต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยด้วยเช่นกัน
ผมเชื่อว่าบุคคลที่อยู่ในขบวนการคนเสื้อแดงที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่างก็ทราบและตระหนักดีว่า การที่ประเทศไทยนี้จะได้มาซึ่งประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แท้จริงนั้นจะต้องทำลาย "อำนาจมืดที่ครอบงำประเทศนี้ให้ได้เสียก่อน" แต่ทว่าอำนาจมืดที่ว่านี้มีอิทธิพลและอำนาจยิ่งใหญ่เหลือเกิน ใครล่ะที่อ้างตัวว่าเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจะกล้าหาญชาญชัยพอที่จะออกมายืนแถวหน้า แล้วซัดกับอำนาจมืดตัวจริงที่ครอบงำประเทศนี้อยู่อย่างซึ่งๆ หน้า โดยที่ตัวของเขาหรือครอบครัวของเขาจะไม่ถูกทำลายไปเสียก่อน
หนูทั้งฝูงต่างก็กลัวแมวที่คอยมาจับกินอยู่ทุกวันเพราะแมวย่องมาจับหนูกินอย่างเงียบเชียบโดยที่หนูไม่รู้ตัวเลย วันหนึ่งเหล่าหนูได้มาประชุมกันโดยมีผู้นำหนูยืนขึ้นประกาศด้วยเสียงอันดังและน่าเชื่อถือว่า “ต่อไปนี้จะเราต้องติดลูกกระพรวนไว้ที่คอของแมวเพื่อจะได้ยินเสียงเวลาแมวย่องมา เราจะได้ไม่ถูกจับกินอีก” เหล่าหนูต่างก็ฮือฮาในแผนการนี้และต่างก็โห่ร้องเห็นด้วย หนูทุกตัวดีใจกันยกใหญ่ว่าต่อไปนี้จะไม่ถูกจับกินอีกแล้ว เพราะจะได้ยินเสียงลูกกระพรวนที่คอแมวทุกครั้งที่แมวย่องมา ไม่ว่าจะมีหนูตัวอื่นเสนอแผนอื่นในการหลบหลีกหนีแมวเช่นไรก็ไม่มีหนูตัวใดเห็นด้วย หนูทุกตัวต้องการใช้แผนไปผูกลูกกระพรวนที่คอแมวทั้งสิ้น แต่พอหัวหน้าหนูถามว่า “ใครจะเป็นหนูผู้กล้าที่จะนำเอาลูกกระพรวนไปผูกคอแมว” หนูทุกตัวต่างเงียบกริบ ไม่มีหนูตัวใดกล้านำลูกกระพรวนไปผูกคอแมวสักตัวแม้แต่ผู้นำหนูที่คิดแผนนี้ขึ้นก็ตาม
มีผู้คนที่อยู่ขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจำนวนไม่น้อยที่เป็นเหมือนหนูในเรื่องนี้ ต่างก็ต้องการประชาธิปไตยโดยใช้แผนเอาลูกกระพรวนไปผูกคอแมวทั้งสิ้น แต่พอถามเข้าจริงๆ จังๆ ว่าใครล่ะจะเป็นผู้กล้าที่จะนำหน้าในเรื่องนี้ ทุกคนต่างถอยหมด แต่พอมีหนูบางตัวกล้าที่จะออกมานำโดยใช้แผนอื่นในการต่อสู้กับแมวหนูในที่ประชุมก็ “ด่าว่า..กล่าวหา..โจมตี..สั่งสอน..ตัดขาด ฯลฯ” ผมว่ามันไม่แฟร์ครับ
ประเทศนี้ไม่ใช่ของใครคนเดียว ขณะเดียวกันการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยก็ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อใครคนเดียวเช่นกัน ท่านอดีตนายกทักษิณ และนายกยิ่งลักษณ์ แสดงออกมาตลอดว่าเขาทั้งสองจะต่อสู้กับแมวตัวนี้โดยไม่ใช้แผน “เอาลูกกระพรวนไปผูกคอแมว” แต่จะใช้แผนใดนั้นก็ต้องค่อยๆ ดูกันต่อไป ซึ่งถ้าหนูตัวใดคิดว่า ท่านอดีตนายกทักษิณ และท่านนายกยิ่งลักษณ์ กำลังจะทำตัวเป็นหัวหน้าหนูที่จะจับเอาหนูในฝูงไปถวายเป็นบรรณาการให้กับแมว และจะไม่ยอมต่อสู้เพื่อให้ได้ความยุติธรรมกลับคืนมาอีกต่อไปแล้ว... ด้วยเหตุผลเพราะทั้งสองท่านพยายามผลักดันให้ พรบ. นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งนี้ผ่านสภาให้ได้... ก็เป็นสิทธิที่ท่านจะเห็นต่างได้เช่นนั้น บางท่านอาจจะลาออกจากความเป็นคนเสื้อแดง, บางท่านอาจจะเผาบัตร นปช.ทิ้ง, บางท่านอาจจะก่อม๊อบประท้วงการออก พรบ. ฉบับนี้ หรือบางท่านจะไม่ลงคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า ฯลฯ ก็ล้วนเป็นสิทธิ์ที่ท่านจะพึงกระทำได้ เพราะพื้นฐานของความเป็นประชาธิปไตยคือเช่นนั้น
แต่ทว่าในความเป็นจริงที่แท้จริงก็คือ ไม่ว่าท่านจะเลือกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หรือจะโหวตโน หรือจะเลือกพรรคใดก็ตาม ประเทศนี้ก็จะยังคงต้องมีรัฐบาลในการปกครองประเทศอยู่ดี, ท่านก็ยังคงต้องเสียภาษี, ท่านยังคงต้องอยู่ภายใต้กฏหมายที่ถูกตราขึ้นโดยสภานิติบัญญัติ, ท่านไม่สามารถจะหนีไปอยู่ที่เกาะร้างกลางทะเลตามลำพังและไม่ยอมรับการปกครองใดๆ เลยจากประเทศนี้ได้ เพราะถ้าท่านไม่สามารถเป็นผู้ปกครองได้ด้วยตนเอง ท่านก็ต้องเป็นผู้ที่ถูกปกครอง ความจริงนี้ง่ายๆ แต่เจ็บปวดนัก
ความสัมพันธ์ระหว่างขบวนการคนเสื้อแดง กับท่านอดีตนายกทักษิณ ก็เหมือนหุ่นกระบอกกับคนชักหุ่นกระบอก ต่างฝ่ายต่างก็พยายามทำตัวเป็นคนชักหุ่นให้หุ่นนั้นเล่นไปตามบทบาทที่ตนต้องการ ท่านนายกทักษิณรู้ดีว่าท่านขาดคนเสื้อแดงไม่ได้ และคนเสื้อแดงเองก็รู้ว่าถ้าขาดนายกทักษิณคนเสื้อแดงก็ขาดพลัง ทำไมล่ะครับทำไมคนบางคนในขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจึงพยายามทำตัวเป็นคนชักหุ่นกระบอกนายกทักษิณ หรือยอมเป็นหุ่นกระบอกให้ถูกนายกทักษิณชักเชิดอยู่ ทำไมคนเสื้อแดงในขบวนต่อสูนี้จึงไม่ทำตัวเป็นคนดูที่ดูละครเรื่องนี้อยู่บนเก้าอี้สบายๆ คอยดูว่าละครเรื่องนี้จะจบลงเช่นไร แล้วออกมาเป็นผู้แสดงเองเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมโดยพิจารณาด้วยความระมัดระวังและสติปัญญาอย่างรอบคอบของตนเอง
เพราะตราบใดที่ละครโรงนี้ยังไม่สามารถหาตัวผู้เล่นที่จะเป็นหัวหน้าหนูผู้กล้าเล่นเรื่อง “เอาลูกกระพรวนไปผูกคอแมว” ตามที่ผู้ชมต้องการได้ เราในฐานะผู้ดูก็คงจะได้แค่ดูละครน้ำเน่าเช่นนี้ต่อไป นอกจากเบื่อละครโรงนี้มากๆ ก็ไปนอนซะ ก็เท่านั้น... แต่ถ้าท่านแน่ใจว่าท่านสามารถแสดงละครเรื่อง “เอาลูกกระพรวนไปผูกคอแมวได้” ก็ก้าวออกมาเลยครับ ออกมาเป็นแกนนำ ไม่ใช่แกนเอียง ไม่ใช่แกนนอน ไม่ใช่นักวิชาการ ไม่ใช่กองเชียร์ เพราะคนที่แค่พูดๆ แต่ไม่สามารถออกหน้ามาทำอย่างที่เขาทำนั้นเขาเรียกว่า “ผีข้างบ่อน” ครับ
"ผู้ที่คนเสื้อแดงสมควรจะเกลียดชัง และโจมตี อาฆาตแค้น คืออำนาจมืดที่ครอบงำประเทศนี้อยู่ จนทำให้รัฐบาลต้องออกกฏหมายนิรโทษกรรม บ้าๆ นี้ออกมา ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย หรือนายกทักษิณ เพราะทั้งสองล้วนเป็นเหยื่อทางการเมืองด้วยกันทั้งสิ้น"
"ก็เรารอมาได้ตั้งหลายสิบปี จะรอต่อไปอีกสัก 3-4 ปี จะขาดใจตายเสียเหรอครับ... แต่อย่างว่าเนอะ... พระเวลาใกล้สึก ผ้าเหลืองมักจะร้อน อยู่มาได้เป็นพรรษาอยู่ได้ แต่อยู่อีกวันสองวัน จะขาดใจให้ได้ คงเป็น กรรม น่ะครับ"...ปูนนก!!!
"ผู้ที่คนเสื้อแดงสมควรจะเกลียดชัง และโจมตี อาฆาตแค้น คืออำนาจมืดที่ครอบงำประเทศนี้อยู่ จนทำให้รัฐบาลต้องออกกฏหมายนิรโทษกรรม บ้าๆ นี้ออกมา ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย หรือนายกทักษิณ เพราะทั้งสองล้วนเป็นเหยื่อทางการเมืองด้วยกันทั้งสิ้น"
"ก็เรารอมาได้ตั้งหลายสิบปี จะรอต่อไปอีกสัก 3-4 ปี จะขาดใจตายเสียเหรอครับ... แต่อย่างว่าเนอะ... พระเวลาใกล้สึก ผ้าเหลืองมักจะร้อน อยู่มาได้เป็นพรรษาอยู่ได้ แต่อยู่อีกวันสองวัน จะขาดใจให้ได้ คงเป็น กรรม น่ะครับ"...ปูนนก!!!
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar