måndag 21 oktober 2013

สื่อจีนย้ำ ซื้อข้าวไทยปีละ ๑ ล้านตันเป็นเวลา ๕ ปี

สองสำนักข่าวจีน ไชน่าเดลี่ และซินหัว ย้ำยืนยันจีนมีโครงการซื้อข้าวจากประเทศไทยปีละ ๑ ล้านตันเป็นเวลา ๕ ปี 

ภาพประกอบของสำนักข่าวซินหัว แสดงถึงชาวนาจีนในมณฑลกวนหยุน จังหวัดเจียงสู กำลังเก็บเกี่ยวข้าวเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม
ทั้งนี้หลังจากที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้เสนอข่าวก่อนหน้านี้ ว่าโครงการซื้อข้าวดังกล่าวยังไม่มีความแน่นอน โดยนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี รายงานว่า "จากการสำรวจข่าวการมาเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีจีนจากเว็บไซ้ท์ของ สำนักข่าวซินหัว ซึ่งเป็นสำนักข่าวใหญ่ซึ่งเป็นทางการของจีน ปรากฏว่าไม่พบข้อความในส่วนที่พูดถึงความเข้าใจ หรือเอ็มโอยูที่จีนบอกว่าจะรับซื้อข้าวจากประเทศไทยเลย ไม่ว่าจะเป็นปีละ ๑ ล้านตัน หรือ ๑ ล้านตันภายใน ๕ ปีนั่นเอง เลยแม้แต่น้อย"

หากแต่ความเป็นจริงปรากฏว่า ในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ สำนักข่าวซินหัวนั้นได้นำเสนอข่าวเรื่องทางการจีนตกลงซื้อข้าวไทยปีละ ๑ ล้านตัน เป็นเวลา ๕ ปีโดยเป็นการรายงานซ้ำจากข่าวของสำนักข่าวไชน่าเดลี่ (China Daily USA) อันเป็นสำนักข่าวทางการของจีนเช่นกัน

ผู้อ่านไทยอีนิวส์ท่านหนึ่ง (ซึ่งใช้นามว่า Prasong Suwanpanich -Red USA) ได้ กรุณาแนะนำข่าวเกี่ยวกับโครงการซื้อข้าวไทยของสำนักข่าวจีนทั้งสอง ไทยอีนิวส์เห็นว่าสมควรถ่ายทอดให้ผู้บริโภคข่าวชาวไทยได้รับทราบข้อเท็จจริง อย่างครบถ้วน จึงมอบหมายให้ ระยิบ เผ่ามโน ทำการถอดความข่าวของไชน่าเดลี่มานำเสนอดังนี้

ประเทศเราเริ่มเพิ่มจำนวนนำเข้าข้าว

โดย ซอง นาน (ไชน่าเดลี่ ยูเอสเอ) อัปเดท ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖

รัฐบาลคาดหมายว่าจะผ่อนผันข้อจำกัดในการนำเข้าข้าว ในความพยายามเพิ่มปริมาณข้าวสำหรับการบริโภคภายในประเทศ ผู้เชี่ยวชาญในกิจการด้านนี้กล่าว

ภาพประกอบข่าวไชน่าเดลี่ จากงานไชน่า-อาเซียนเอ็กซ์โป ในนานหนิง เขตปกครองพิเศษกวงสีซวง
ศูนย์ข้อมูลเรื่องข้าว และน้ำมันแห่งชาติของจีน ประเมินว่าผลผลิตข้าวในประเทศจะลดลงปีต่อปีเป็นจำนวน ๐.๗ เปอร์เซ็นต์ ไปสู่อัตรา ๒๐๒.๘ ล้านเมตริกตัน ในปี พ.ศ.๒๕๕๖ นี้ แสดงว่าปริมาณการผลิตข้าวกำลังลดลง หลังจากที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมานับทศวรรษ

ติง เช็งจุน นักวิจัยอาวุโสประจำสถาบันบริหารจัดการเรื่องข้าวแห่งชาติกล่าวว่า ผลกระทบจากภาวะผิดปกติของดินฟ้าอากาศ และอุทกภัยในพื้นที่ปลูกข้าวของจีน เช่นฮูนาน เจียงสี และเสเจียง เป็นข้อจำกัดต่อปริมาณการผลิตข้าวของประเทศ และทำให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าข้าวจากภายนอก

ระหว่างการเยือนกรุงเทพฯ ในเดือนนี้ของนายกรัฐมนตรีหลี เค่อเฉียง จีนตกลงที่จะเพิ่มปริมาณการนำเข้าข้าวจากประเทศไทยในช่วง ๕ ปีข้างหน้าเป็น ๑ ล้านเมตริกตันต่อปี

หลังจากความพยายามนับสิบปีที่จะเพิ่มปริมาณการผลิต อุตสาหกรรมข้าวของจีนได้พบกับภาวะด้อยประสิทธิภาพในการแข่งขัน นายติงกล่าว รัฐบาลตระหนักว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวของประเทศต้องการพักฟื้นจากการโหมใส่ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง และอาหารพืชอย่างหนักหน่วง

ปริมาณการผลิตข้าวของจีนเป็นจำนวน ๒๖ เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตทั่วโลก

เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในเอเซีย จีนใช้นโยบายกระตุ้นการปลูกข้าวในประเทศด้วยการประกันราคาซื้อขั้นต่ำ นับแต่ที่มีการเพิ่มปริมาณมาเกือบทศวรรษ ราคาข้าวของจีนขึ้นสูงมากกว่าราคาเฉลี่ยในตลาดนานาชาติ

ศูนย์ข้อมูลแห่งชาติเกี่ยวกับข้าว และน้ำมันของจีนเผยด้วยว่าผลผลิตต่อพื้นที่ ๑ เฮคตาร์ลดลงไปเช่นกัน ปีนี้ปริมาณการผลิตข้าวต่อเฮคตาร์ของจีนลดลง ๑.๗ เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ ๖.๗ ตัน อย่างไรก็ดี ผลผลิตข้าวโพด และข้าวสาลีต่อเฮคตาร์กลับเพิ่มขึ้น ๒.๖ และ ๑.๖ เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ

การพัฒนาอุสาหกรรม และการขยายชุมชนเมืองอย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวจำนวนมากเปลี่ยนไปเป็นแหล่งโรงงานประกอบสินค้าอุตสาหกรรม และโครงการถิ่นที่อยู่อาศัยในเมือง การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เป็นผลให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวของจีนย้ายศูนย์จากภาคใต้ไปสู่ภาคเหนือ เว็น ทีจัน คณบดีของคณะเศรษฐกิจการเกษตร และการพัฒนาชนบท แห่งมหาวิทยาลัยเร็นมินในกรุงปักกิ่งกล่าว

เว็นยังบอกอีกว่า การจัดการด้านโลจิสติกส์เรื่องข้าวที่ล้าสมัยมีส่วนทำให้ประสิทธิภาพในแบบแผนการผลิตข้าวของจีนด้อยลงไป

ท้องที่ปลูกข้าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็อยู่ห่างไกลจากจังหวัดที่เป็นพื้นที่ผู้บริโภค ซึ่งระบบโลจิสติกส์ของจีนยังไม่พร้อมสำหรับการแก้ปัญหานี้

ยก ตัวอย่างเช่น ต้นทุนการขนส่งข้าวจากจังหวัดไฮลองเจียงไปสู่ท้องที่ผู้บริโภคหลักอย่าง จังหวัดเซเจียง และเจียงสู ปัจจุบันมีมูลค่าเป็นจำนวน ๓๐ เปอร์เซ็นต์ของราคาขายปลีกข้าว ตามข้อมูลที่มาจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือในฮาร์บิน นี่เป็นผลให้เกิดความกดดันต่อบริษัทที่จัดการเรื่องโลจิสติกส์ในอันที่จะ อำนวยปริมาณอุปทานตอบสนองความต้องการบริโภคในช่วงที่อุปสงค์สูงสุด เปิดช่องให้พ่อค้าข้าวในทางตอนใต้ของจีนไปหาซื้อข้าวเพิ่มจากประเทศเพื่อน บ้าน เช่นกัมพูชา พม่า และเวียตนาม

ติง ลิซิม นักวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรของจีนในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า การเพิ่มปริมาณนำเข้าข้าวเป็นเพราะความแตกต่างอย่างมากระหว่างราคาข้าวภายใน และต่างประเทศ

เขาเพิ่ม เติมว่าปริมาณการนำเข้าจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปถ้าหากราคาข้าวในประเทศ ขึ้นต่อเนื่องไปจนกระทั่งเทศกาลตรุษจีนในปลายเดือนมกราคมปีหน้า (๒๕๕๗)

อย่างไรก็ดี ราคาข้าวในประเทศนั้นสามารถควบคุมได้ด้วยการนำเข้าจากต่างประเทศ

ในภาวะการณ์เช่นนี้ ปริมาณอุปทานข้าวที่เพียงพอจากตลาดโลก และราคานำเข้าที่ต่ำอย่างข้าวจากไทย อินโดนีเซีย และเวียตนาม ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมไม่ให้ราคาข้าวของจีนขึ้นสูงมากเกินไปด้วย เขากล่าว

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar