จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ | |
---|---|
พระอิสริยยศ | พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร |
ฐานันดรศักดิ์ | พระองค์เจ้าชั้นโท |
ราชวงศ์ | จักรี |
ข้อมูลส่วนพระองค์ | |
ประสูติ | 9 ธันวาคม พ.ศ. 2514 จังหวัดสมุทรสงคราม ไทย |
พระบิดา | อภิรุจ สุวะดี |
พระมารดา | วันทนีย์ สุวะดี |
พระราชสวามี | สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร (พ.ศ. 2544 - ปัจจุบัน) |
พระโอรส/ธิดา | พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ |
พลตรีหญิง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (สกุลเดิม: สุวะดี; ประสูติ: 9 ธันวาคม พ.ศ. 2514) พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร
พระประวัติ
พระชนม์ชีพตอนต้น
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ มีพระนามลำลองว่า อี๊ด ประสูติเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2514 เป็นธิดาคนที่สามของอภิรุจ และวันทนีย์ สุวะดี พื้นเพเดิมเป็นชาวจังหวัดสมุทรสงคราม มีพี่น้อง 5 คน โดยพระองค์เป็นบุตรคนที่สาม มีพี่สาวและพี่ชายคือ สุดาทิพย์ ม่วงนวล, ณรงค์ สุวะดี และน้องชายคือณัฐพล และสิทธิศักดิ์ สุวะดี ซึ่งณัฐพลเป็นอดีตราชองครักษ์เวร ส่วนพลตำรวจโท พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ เป็นน้าของพระองค์
พระองค์เข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนเทศบาลบ้านมหาชัย (อนุกูลราษฎร์) จังหวัดสมุทรสาคร ทรงสำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพจากโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย ก่อนจะทรงเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีที่ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการจัดการทั่วไป (หลักสูตร 4 ปี) เมื่อปี พ.ศ. 2540 และได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2545 และทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาโท หลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (คหกรรมศาสตร์) ภาคพิเศษ สาขาวิชาการพัฒนาการครอบครัวและเด็ก คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยคะแนนเฉลี่ย 3.94
เข้าสู่พระราชวงศ์
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เริ่มเข้าถวายการรับใช้ในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 โดยรับผิดชอบหน้าที่การงานในฐานะข้าราชการพลเรือนในพระองค์ นอกจากนี้ ยังได้ถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในด้านศิลปาชีพ และได้ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย ต่อมาเข้ารับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น "หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา" เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงกล่าวว่า
เราอยากจะสร้างครอบครัวขึ้นมาให้ดี หม่อมมีหน้าที่ดูแลเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้าน ดูแลข้าราชบริพาร รวมทั้งถวายงานสมเด็จฯ (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ) เราใช้ชีวิตกันแบบสบาย ๆ ไม่มีอะไร...เราอายุ 50 ปีแล้ว ไม่อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ อยากได้ครอบครัวที่ดี ที่คนพอใจเป็นประโยชน์ คบได้ ไม่ใช่เป็นการเอาอะไรมาใส่ประชาชน แต่ขอให้ประชาชนยอมรับว่าคนนี้ใช้ได้ ถ้าเป็นหม่อมในพระบรมฯ ทุกคนก็ต้องกราบไหว้ มันก็พัง | ||
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, 23 มกราคม 2545 |
พระบิดาและพระมารดาของพระองค์รวมทั้งสมาชิกในครอบครัวได้รับพระราชทานนามสกุลจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมารว่า "อัครพงศ์ปรีชา" เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 หม่อมศรีรัศมิ์ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้าฝ่ายใน เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 และได้ประสูติกาลพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระราชโอรส เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2548 การนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนา หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา ขึ้นดำรงพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2557 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงขอให้รัฐบาลริบนามสกุลพระราชทานของพระวรชายา ก่อนหน้านั้น มีการกวาดล้างญาติใกล้ชิดของพระองค์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการฉ้อราษฎร์บังหลวง โดยทั้งหมดกลับไปใช้สกุลเดิมก่อนพระราชทานคือ "เกิดอำแพง" ต่อมาข้อมูลนามสกุลนั้นผิด เมื่อตรวจสอบแล้วจึงเปลี่ยนให้ใช้ชื่อสกุลว่า "สุวะดี" อันเป็นชื่อสกุลเดิมทีแท้จริง ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ซึ่งสำนักข่าวบีบีซีมองว่า นี่อาจเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การหย่าร้างของทั้งสองพระองค์
พระกรณียกิจ
พระกรณียกิจส่วนใหญ่ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ นั้น จะเน้นในด้านครอบครัวและเด็กเป็นหลัก โดยโครงการแรกของพระองค์คือ โครงการสายใยรักจากแม่สู่ลูก ที่รณรงค์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ต่อมาได้มีพระดำริ โครงการศูนย์สามวัยสานสายใยรักแห่งครอบครัว จัดตั้งขึ้นจากแนวคิดที่ว่า "ควรมีศูนย์กลางในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เน้นความต่อเนื่องเชื่อมโยง เป็นวงจรทุกช่วงวัย ภายใต้การดำเนินของหลักเหตุผล ตั้งแต่การสร้างความคิดรอบยอด (Concept) การกำหนดคำจำกัดความที่ชัดเจน (Definition) และการถ่ายทอดลงสู่ระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม (Implementation) โดยคำนึงถึงปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จ ตลอดจนข้อดี ข้อเสียต่างๆ มาดำเนินการในการให้บริการแก่ประชาชน”
ด้านการต่างประเทศ
วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต นำผ้าห่มกันหนาว 20,000 ผืน ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีกษิต ภิรมย์ เป็นผู้รับมอบ
มูลนิธิ/องค์กรในพระอุปถัมภ์
- ศูนย์ ๓ วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว
- มูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล
- กองทุนทีปังกรนภัทรบุตร
พระเกียรติยศ
ธรรมเนียมพระยศของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ | |
---|---|
ธงประจำพระอิสริยยศ
| |
ธงประจำพระองค์
| |
การทูล | ฝ่าพระบาท |
การแทนตน | กระหม่อม |
การขานรับ | เกล้ากระหม่อม |
ลำดับโปเจียม | 7 |
พระอิสริยยศ
- นางสาวศรีรัศมิ์ สุวะดี (9 ธันวาคม พ.ศ. 2514 — 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544)
- หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา (10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 — 15 มิถุนายน พ.ศ. 2548)
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ (15 มิถุนายน พ.ศ. 2548 — ปัจจุบัน)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2547 : เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าฝ่ายใน (ป.จ.)
- พ.ศ. 2548 : เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- พ.ศ. 2548 : เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฏ (ม.ว.ม)
- พ.ศ. 2555 : เหรียญลูกเสือสดุดี ชั้นที่ 1
- พ.ศ. 2550 : เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 (ภ.ป.ร.1)
พระยศทางทหาร
- ว่าที่ร้อยตรีหญิง
- ทรงได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ทรงเป็นราชองครักษ์พิเศษ (5 เมษายน พ.ศ. 2555)
- ร้อยตรีหญิง และทรงได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (12 เมษายน พ.ศ. 2555)
- พันเอกหญิง (4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555)
- ทรงได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักเวชศาสตร์กองทัพบก กรมแพทย์ทหารบก (1 พฤศจิกายน 2556)
- พลตรีหญิง (1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar