ทหารบุกพบพ่อแม่นักศึกษา? เผด็จการคือเผด็จการ พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่มีมานานแล้ว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันผ่านมาหลายยุคหลายสมัยไม่เคยเปลี่ยนแปลง สมัยนี้ยังดีมาที่บ้านบอกว่าเป็นใครมาจากไหนทำตามตามคำสั่งเจ้านาย ไม่เหมืนสมัยถนอมประภาสเมื่อสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ให้ทหารให้สันติบาลปลอมตัวมาเป็นลูกจ้างขออยู่อาศัยทำนากับครอบครัวผู้ถูกกล่าวหาคดีหมิ่นคดีคอมมิวนิสต์เพื่อสืบข่าวยังเคยทำมาแล้ว ให้ญาติพี่น้องเป็ยสายสืบอีกต่างหาก สารพัดวิชามาร การกระทำของคสช.เช่นนี้บอกอะไร? บอกว่าฝ่ายแก็งค์"ระบอบภูมิพล" กำลังอยู่ในภาวะคับขันคลุมเคลือ เนื่องจากหัวหน้าผู้สั่งการป่วยหนักขั้นโคม่าเก็บอำนาจไว้กับตัว ไม่ยอมเซ็นมอบอำนาจสั่งการเด็ดขาดให้กับผู้ใด ขอให้พี่น้องประชาชนไทยจงตั้งสติ อดทน เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ด้วยการติดตามข่าวก้าวทันสถานการณ์ ไม่มีอะไรแน่นอนบนความไม่แน่นอน อย่าได้หลงทางเข้าไปเป็น"เชื้อไฟ"สร้างความชอบธรรมให้พวกแก็งค์"ระบอบภูมิพล" ทำลายบ้านเมืองทำร้ายประชาชนได้อีกต่อไป จงมีสติก้าวผ่านความกลัวร่วมกันเดินหน้าเร่งสร้างความเป็นเอกภาพทางความคิดเพื่อปลดปล่อยตัวเองและประเทศชาติต่อไป ...

-ทหาร บุกบ้านถามแม่ลูกเกด ทำไมปล่อยลูกต้านรัฐบาล ด้านประวิตร ยัน ไม่ได้คุกคาม

  คลิก-http://dlvr.it/BPFfhP

-นอกเหนือจากนั้น วิบูลย์ บุญภัทรรักษา บิดาของ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน เล่าว่าทางบ้านที่ภูเขียว โทรศัพท์มาว่ามีตำรวจในเครื่องแบบ 5 นาย และนอกเครื่องแบบอีก 5 นาย ซึ่งนอกเครื่องแบบนั้นคาดว่าเป็นทั้งปลัดอำเภอและทหารมาที่บ้าน

  

"สันติบาล" เรียกอาจารย์คุย หาข่าว บอก พื้นที่มหา′ลัย เป็นของคนให้กำลังใจ รบ. เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม นายยอดพล... http://fb.me/27BvkRmvJ 

3 Retweets Expand
(http://news.voicetv.co.th/thailand/226743.html)

Thu, 2015-07-02 13:13

เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 แจ้งวัฒนะ (ร. 1 พัน 2) จำนวน 3 นาย เข้ามาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและกิจกรรมทางการเมืองกับทางเว็บไซต์ประชาไท โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 20 นาที และได้ขอเบอร์โทรศัพท์ และชื่อของผู้ที่สามารถติดต่อได้ประจำ พร้อมถ่ายรูปของเจ้าหน้าที่บางส่วนและภาพภายนอกสำนักงาน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารที่เข้ามาทำการตรวจสอบเป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาตรวจสอบและเก็บข้อมูลประชาไทเป็นประจำทุกครั้งที่ประชาไทจัดกิจกรรมสาธารณะ

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้เข้ามาในส่วนของสำนักงาน แต่ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ของประชาไทถ่ายภาพให้ และยังคงสังเกตการณ์อยู่ภายนอกสำนักงานhttp://prachatai.org/journal/2015/07/60120

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนักศึกษาที่ถูกคุมขังเรือนจำ กล่าวว่า วานนี้ (1 ก.ค.2558) เวลาประมาณ 11.00 น.ได้รับแจ้งจากนางลมุน แจ้งเร็ว มารดาของ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว (หรือน้องลูกเกด) ซึ่งเป็น 1 ใน 14 นักศึกษา ที่ถูกควบคุมตัวตามคำสั่งของศาลทหารว่า มีทหารในเครื่องแบบ 3 นายไปพบที่บ้านพักที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดยนายทหารที่เป็นหัวหน้าชุดอ้างว่า ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้มาพบเพื่อสอบถามผู้ปกครอง ของน.ส.ชลธิชาว่า ทำไม น.ส.ชลธิชา จึงมีพฤติการณ์ต่อต้าน คสช. และสอบถามเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูว่า เหตุใดจึงไม่ควบคุมดูแลลูกสาวไม่ให้มีพฤติการณ์ต่อต้านรัฐบาล ขณะเดียวกันยังมีการสอบสวนด้วยว่า มีผู้ใดอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนักศึกษา ซึ่ง นางลมุน เล่าให้ฟังด้วยว่า ได้ตอบโต้ไปว่า การเคลื่อนไหวทั้งหมดเป็นความคิดของเด็กเอง พ่อแม่ไม่อาจบังคับได้ และนางลมุน ยืนยันว่า ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังเด็กอย่างแน่นอน ทั้งนี้ มารดาของ น.ส.ชลธิชา ใช้เวลาพูดคุยกับทหารเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่ทหารจะเดินทางกลับไป อย่างไรก็ตาม ตนยังได้รับแจ้งจากญาติของนายพรชัย ยวนยี 1 ใน 14 นักศึกษาที่ถูกคุมขังในเรือนจำด้วยว่า ที่บ้านก็มีทหารเข้ามาพบในลักษณะดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน

นายกฤษฎางค์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ให้สัมภาษณ์ว่า อยากถามนักศึกษาที่ถูกจับกุมว่าทำไมถึงไม่ประกันตัว ปกติคนที่ถูกจับกุมตัวต้องขอประกันตัว และตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการปลุกกระแสหรือไม่ด้วยว่า เลขาธิการสมช.วิตก เรื่องการขอประกันตัวของนักศึกษามากเกินไป เลขาธิการสมช.ควรทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่รัฐบาลทหารว่า ควรจะปฏิบัติต่อ 14 นักศึกษาอย่างไรมากกว่าที่จะมาสนใจเรื่องการขอประกันตัว เพราะเหตุทั้งหมดเกิดขึ้นจากรัฐบาลจับนักศึกษาที่แสดงความคิดเห็นตามกฎหมาย ดังนั้น การขอประกันตัวน่าจะเป็นเรื่องที่นักศึกษาต้องพิจารณาเอง ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลทหารจะมาขอให้นักศึกษาขอประกันตัว ทั้งนี้ นักศึกษาได้ยืนยันกับทนายความมาตลอดว่า เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย คนที่จับเขาทำผิดกฎหมายมากกว่า

วันที่โพสข่าว : 2 กค. 2558 เวลา 10:23 น.http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=762462