Thai E- News
ดูเพิ่ม - หรือภาพนี้จะบอกอนาคต การรับซื้อไฟฟ้า 3,600 เมกะวัตต์ ?
ดูเพิ่ม - การเมืองในระบอบสองใบอนุญาต: ข้อวิเคราะห์วิจารณ์ขั้นต้น จาก อ.เกษียร
ดูเพิ่ม - "ความไม่สงบในชายแดนใต้: การทุ่มงบกว่า 400,000 ล้านบาทกับคำถามที่ยังไร้คำตอบ
ดูเพิ่ม - กลับมาทำงานแล้ว หลังคดีตากใบหมดอายุความ 1 วัน
ดูเพิ่ม - 3 ตัวเก็ง แคนดิเดท รัชกาลที่ 11
ดูเพิ่ม - "รวมรูป พลตรีหญิงท่านผู้หญิง อรอนงค์ ปิยนาฏวชิรพัทธ์ พลตรีหญิงคุณหญิง ปภัสสร สิริวชิรภักดิ์ ตอนนี้เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่แล้วล่ะค่ะ" เฌอว่าไว้
.........................................
Update : ธาตุแท้ทักษิณ
โดย แสงตะวัน
ในยุคปัจจุบัน
ชึ่งเป็นยุคไฮเทคโนโลยี่ ยุคโลกไร้พรหมแดน
การต่อสู้เรียกร้องของประเทศต่างๆชึ่งเกิดขึ้นทั่วโลกในปัจจุบันนี้
เกี่ยวกับปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ไม่
มีสูตรสำเร็จกำหนดตายตัวที่จะนำมาเป็นแม่แบบเพื่อใช้แก้ปํญหาให้ลุล่วงไป
ได้ เพราะปัญหาความต้องการของแต่ละสังคมไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ยังไม่มีทฤษฎีหรือตำราพิชัยสงครามแบบใหม่มาให้ใช้เป็นแนวทางชี้นำ
ก่อนอื่นพวกเราต้องมาทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า "นายทุนก็คือนายทุน"
พวกพ่อค้านักธุรกิจที่ลงทุนค้าขายก็เพื่อให้ได้กำไร
และกำไรเหล่านี้ได้มาจากไหนก็ได้มาจากการขูดรีดแรงงานของคนงานหรือกรรมกรที่ผลิตสินค้าให้แก่พวกนายทุนซึ่งกำไรจากมูลค่าส่วนเกินแต่ละปีได้ถูกสะสมขึ้นมาเป็นเงินทุนอันมหาศาล...
ในระบอบทุนนิยมเสรีพวกนายทุนจะมีการแข่งขันกันผลิตเพื่อหากำไรให้มากที่สุด
เมื่อมีการแข่งขันกันอย่างเสรีนายทุนที่มีความอ่อนแอกว่าก็จะแพ้และถูกนายทุนที่มีกำลังเหนือกว่ากลืนกินแล้วกลายมาเป็นนายทุนผูกขาดที่เป็นเจ้าของการผลิตสินค้าในตลาดแต่ผูัเดียว...
กลุ่มนายทุนผูกขาดในระบอบเศรษฐกิจทุนนิยม
ถ้าแข่งขันสู้กันไม่ได้ก็จะเกิดการรวมตัวกัน (ออมซอมกัน หรือปรองดองกัน)
อย่างกรณีที่อดีดนายกฯทักษิณ กำลังกระทำอยู่ในเวลานี้
โดยได้ร่วมจับมือกันกับกลุ่มทุนผูกขาดเครือข่ายของกษัตริย์
ตั้งแต่รัชกาลที่ ๙ มาจนถึง "องค์ปัจจุบัน"รัชกาลที่๑๐
นี่คือธาตุแท้ของนายทุน
เขาจะขายได้ทุกอย่างแม้แต่ "ประชาชน ประเทศชาติ ไปจนถึงอุดมการณ์ "
ต่างกับผู้นำนักปฏิวัติที่มีอุดมการณ์จะทำงานต่อสู้เรียกร้องเพื่อสังคมส่วนรวม
ทำการเปลี่ยนแปลงนำสังคมเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
"ดังนั้นความคิดแบบพ่อค้านายทุนกับนักปฎิวัติสองสิ่งนี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมี อยู่ในตัวคนเดียวกัน "
เริ่ม
แรกทักษิณเข้ามาบริหารประเทศโดยผ่านการเลือกตั้งตามวิถีทางประชาธิปไตยตาม
รัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐
ซึ่งระบอบการปกครองไทยโดยแท้จริงยังคงเป็นระบอบเผด็จการราชาธิปไตยอยู่
ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยตามที่พวกนักวิชาการทั้งหลายเข้าใจ ( แค่คำโฆษณาหลอกลวงประชาชน)
รัฐบาลนายกฯทักษิณชนะการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ
แต่มีเงื่อนไขทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้อำนาจของ "ระบอบราชาธิปไตย"
ทั้งๆที่ รัฐบาลทักษิณมีหลักนโยบายที่เห็นผลงานสามารถจับต้องได้
ทำให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์จากการบริหารของรัฐบาลนายกฯทักษิณ
เช่นระบบโครงการ 30 บาทรักษาได้ทุกโรคและโครงการโอทอป
เป็นต้น....แต่นโยบายเหล่านี้ก็ไม่ทำให้สังคมเกิดการเปลี่ยนไปสู่ระบอบประชาธิปไตยได้
ซึ่งถ้าปล่อยให้ประเทศชาติได้มีโอกาสพัฒนาต่อไปภายใต้รัฐบาลของทักษิณ
ทางด้านเศรษฐกิจประเทศชาติก็จะดำเนินก้าวหน้าวิวัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆต่อไปได้...
แต่ระบอบการปกครองแบบ"
ราชาธิปไตย" หรือ"ระบอบกษัตริย์เผด็จการ "
นั้นยังคงครอบงำสังคมไทยและครอบงำรัฐบาลทักษิณอยู่เหมือนเดิม
(หลังจากการเปลี่ยนแปลง ๒๔๗๕ เป็นต้นมา)
นี่คือธาตุแท้ของ"ระบอบราชาธิปไตย"ที่ขัดขวางต่อระบอบประชาธิปไตยมาตลอดเวลาทุกยุคสมัย
ไม่ว่าโครงการนั้นจะดีอย่างไรก็ไม่สามารถรักษาไว้และพัฒนาต่อไปได้
(ตราบใดที่ระบอบกษัตริย์เผด็จการยังดำรงคงอยู่ )
ถ้าไม่ล้มล้าง"ระบอบกษัตริย์เผด็จการ " นี้ลงเสียก่อน
ซึ่งนายกทักษิณเองเขาไม่ได้มีแนวความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงหรือล้มล้างระบอบราชาธิปไตยหรือระบอบกษัตริย์เผด็จการนั้นลง
พวกอำมาตย์ซึ่งเป็นกลุ่มทุนผูกขาดที่หล้าหลัง
เห็นว่าถ้าปล่อยให้ทักษิณบริหารประเทศต่อไปจะเป็นอันตรายแก่ พวกเขา
กษัตริย์ภูมิพลจึงสั่งให้ทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลของทักษิณ
(ที่มาจากการเลือกตั้ง) เมื่อวันที่ ๑๙ ก.ย. ๒๕๔๙
เมื่อทักษิณถูกพวกอำมาตย์โค่นล้มลง
ทักษิณเองก็ยังจะพยายามจะประณีประนอมกับพวกอำมาตย์มาตลอดเวลา
(เป็นเวลาถึง ๑๒ปี.). นี่คือตัวตนธาตุแท้ของพวกนายทุนผูกขาด
เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง "เพื่อความอยู่รอดและปกป้องรักษาผลประโยชน์ของตนเอง"
พวกเขาจะร่วมจับมือกัน...
นี่คือธาตุแท้ของพวกนายทุน
ก่อนอื่นเขาจะคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัวเท่านั้น
และมองเห็นประชาชนเป็นเพียงแค่แรงงานที่เขาขูดรีดเพื่อผลิตสินค้าสร้างความร่ำรวยให้แก่ตนเองและครอบครัวเขาเท่านั้น
ตราบจนถึงทุกวันนี้ทักษิณก็ยังเชื่อมั่นยอมรับในการปกครองแบบเดิม"ระบอบราชาธิปไตย"
ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองให้มาเป็นระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
โดยเปิดเผยตัวตนออกมาสนับสนุนร่วมมือกับรัชกาลที่๑๐
"กษัตริย์โจรทรราชองค์ใหม่"ปล้นทรัพย์สินของประเทศชาติ
ขูดรีดกดขี่ข่มเหงหลอกลวงประชาชนชาวไทยต่อไป...
ธาตุแท้
พฤติกรรมการตีสองหน้าของทักษิณคือ ด้านหนึ่งร่วมมือกับพวกเจ้า
อีกด้านทรยศหักหลังหลอกลวงประชาชนที่สนับสนุนเขา "ม็อบคนเสี้อแดง"
ไปให้ทหารฆ่าตายที่ราชประสงค์ เมื่อวันที่ ๑๙ พ.ค ๒๕๕๓ เป็นจำนวนมากกว่า
๕๐๐ คน และบาดเจ็บสูญหายอีกกว่า ๑๐๐๐ คน
โดยที่ไม่มีความรับผิดชอบแต่อย่างใด(?) ไร้ความเป็นมนุษย์ ...
นี่คือธาตุแท้ของทักษิณ
ความคิดความคาดหวังของประชาชนไทยส่วนใหญ่ของประเทศที่คิดว่าทักษิณจะเป็นผู้ที่จะนำประเทศชาติ
และประชาชนไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้น... จงลืมเสียเถิด !!
ฉะนั้นประชาชนต้องเข้าใจ จะมาเรียกร้องให้ทักษิณเปลี่ยนแนวคิดจากนายทุนมาเป็นผู้นำของ การ"อภิวัฒน์" เปลี่ยนแปลงสังคมนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เพราะเขาไม่มีความจริงใจต่อประชาชน ซึ่งเวลาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทักษิณไม่มีอุดมการณ์และความจริงใจกับประชาชน เขาเพียงต้องการรักษาอำนาจและผลประโยชน์ทางธุระกิจเพื่อทำมาหากินกับระบอบกษัตริย์เผด็จการที่กำลังเน่าเฟะอยู่ในเวลานี้ต่อไปและเพื่อสนองความกระหายอำนาจของเขาแค่นั้นเอง
ฉะนั้นการที่จะ"อภิวัฒน์"เปลี่ยนแปลงสังคมจากระบอบเผด็จการทรราชราชาธิปไตยไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้นั้น จึงเป็นหน้าที่และจิตสำนึกของคนในสังคมทุกคนทุกชนชั้นมีส่วนร่วมมือช่วยกัน ในการ"อภิวัฒน์"เปลี่ยนแปลงสังคมที่ไม่มีใครยกให้ฟรีๆ. และไม่ใช่จะนั่งรอนอนรอคอยพึ่งทักษิณและพรรคการเมืองของเขา หรือพรรคการเมืองสารพัดพิษและนักการเมืองทั้งหลายที่กำลังออกมาโฆษณาประกาศขายตัวเพื่อรับใช้ระบอบกษัตริย์เผด็จการอยู่ในเวลานี้.
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar