onsdag 7 januari 2015

ข่าวต่างประเทศ เหตุเกิดที่ใจกลางกรุงปารีส


มือปืนก่อเหตุยิง สนง.นิตยสารในฝรั่งเศส-เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย-รวม บก.

มือปืนปิดบังใบหน้า 3 ราย บุกถล่ม สนง.นิตยสาร "ชาร์ลี เอบโด" ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย รวมบรรณาธิการ "สเตฟาน ชาบอนนิเยร์" และนักวาดการ์ตูนรวม 4 ราย ตำรวจ 2 ราย ขณะทีมีผู้บาดเจ็บ 10 คน ปธน.ฝรั่งเศสประณามว่าเป็นเหตุก่อการร้ายที่ป่าเถื่อน ด้านคณะกรรมการปกป้องสื่อมวลชน หรือ CPJ แถลงว่าเหตุการณ์นี้ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่การสังหารหมู่นักข่าวที่ฟิลิปปินส์เมื่อปี 2552



สเตฟาน ชาบอนนิเยร์ (Stéphane Charbonnier) หัวหน้ากองบรรณาธิการนิตยสารชาร์ลี เอบโด (Charlie Hebdo) และนักวาดการ์ตูน ซึ่งใช้นามปากกาในการวาดการ์ตูนว่า "Charb" เขาถูกข่มขู่บ่อยครั้งเนื่องจากผลงานตีพิมพ์ในนิตยสาร จนกระทั่งมาเสียชีวิตจากเหตุยิงปืนเข้าใส่สำนักงานนิตยสาร "Charlie Hebdo" ในวันนี้ (ที่มาของภาพ: แฟ้มภาพ/วิกิพีเดีย)



เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารักษาการในพื้นที่หลังเกิดเหตุมือปืนยิงถล่มสำนักงานนิตยสารชาร์ลี เอบโด ที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2558



นักศึกษาวารสารศาสตร์ ในปารีส ชุมนุมในบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุมือปืนยิงถล่มสำนักงานนิตยสารชาร์ลี เอบโด ที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2558 มีการแจกสติ๊กเกอร์ "Je Suis Charlie" หรือ "ฉันคือชาร์ลี" เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเหยื่อในสำนักงานนิตยสารชาร์ลี เอบโด ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุมือปืนยิงถล่ม

7 ม.ค. 2558 - ในกรุงปารีสวันนี้ (7 ม.ค.) มีมือปืนปิดบังใบหน้า 3 ราย ยิงปืนเข้าใส่สำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์ชาร์ลี เอบโด (Charlie Hebdo) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย ในจำนวนนี้มีสื่อมวลชน 4 ราย ได้แก่ นักวาดการ์ตูนและบรรณาธิการ "สเตฟาน ชาบอนนิเยร์" และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 ราย นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บ 10 คน
โดยคณะกรรมการปกป้องสื่อมวลชน หรือ CPJ ออกแถลงการณ์หลังเกิดเหตุทันทีและว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหตุโจมตีผู้สื่อข่าวร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่การสังหารหมู่ที่มากินดาเนา เกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อปี 2552 (อ่านคำแถลงของ CPJ)
หลังเหตุดังกล่าว บีบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสออกปฏิบัติค้นหามือปืน 3 รายดังกล่าว ซึ่งหลบหนีโดยรถยนต์ ขณะที่ประธานาธิบดีฟรองซัว ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส กล่าวว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย "ซึ่งป่าเถื่อนอย่างยิ่ง"
ทั้งนี้ มือปืนสามรายซึ่งอำพรางใบหน้าได้ยิงปืนไรเฟิลแบบอัตโนมัติเข้าใส่สำนักงานนิตยสารดังกล่าวและยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจบนถนนภายนอก ก่อนที่จะหลบหนีไปโดยรถยนต์ โดยต่อมามีการพบรถยนต์ที่ใช้ขับขี่ดังกล่าวถูกทิ้งไว้ข้างถนน "Rue de Meaux" ทางตอนเหนือของปารีส
นอกจากนี้มีพยานระบุว่า พวกเขาได้ยินมือปืนตะโกนว่า "เราได้แก้แค้นให้ศาสดามูฮัมหมัด"
โดยตอนแรกมีการรายงานว่าจำนวนผู้ก่อเหตุมีสองราย แต่รัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศส Bernard Cazeneuve ระบุว่ากำลังไล่ล่าผู้ก่อเหตุรวมสามราย
ขณะเดียวกันในช่วงค่ำวันที่ 7 ม.ค. มีผู้ออกมาชุมนุมที่จัตุรัส Place de la Republique เพื่อไว้อาลัยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


(หมายเหตุ: ประชาไทกำลังรายงานเพิ่มเติม)

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar