fredag 12 augusti 2016

กษัตริย์ซาอุตายปี 2558 ปี 2559 กษัตริย์ภูมิพลก็ตายแต่ไม่เปิดเผยให้สังคมรู้เพราะอะไร ?

"กษัตริย์ซาอุสิ้นพระชนม์แต่คนกลับมองย้อนมาไทย"

ข่าวลับกรองแล้ว 28มกราคม2558 

"กษัตริย์ซาอุสิ้นพระชนม์แต่คนกลับมองย้อนมาไทย"

สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/



*กษัตริย์ซาอุดิอารเบียตายข่าวเปิดเผยว่ามีลูกผู้หญิง 21คน, ผู้ชาย 16 คนมีเมีย 14 คน, แต่กษัตริย์ภูมิพลเพียงใกล้ตายข่าวเริ่มออกมาแล้วว่ามีลูกมากกว่า 4 คนแน่นอนแต่เมียยังไม่รู้ว่ามีเท่าไร? แต่รู้ว่าพระองค์ท่านสืบสายญาติจากพระยาเทครัวที่ชอบทั้งพี่ทั้งน้องนามสกุล เดียวกัน


*คู่แรกนามสกุลกิติยากร เป็นที่รู้กันค่อนข้างแน่ชัดแต่มีวิธีการจัดไม่ให้ชัดด้วยใช้กฎหมาย 112 คอยฟัดแต่สังคมสื่อออนไลน์ลือกันมาหนาหูเรื่อง มรว.บุษบา กิติยากร (น้องสาวราชินี) ที่มีลูกสาวชื่อ สุธาวัลย์ แต่ไม่ให้ใช้นามสกุลพ่อจริง ว่า "มหิดล" แต่ให้ใช้นามสกุลลดาวัลย์ ตามบิดาทีชอบด้วยกฎหมายที่เป็นทางการชื่อ หม่อมหลวงทวีสันต์ ลดาวัลย์, เมื่อแต่งงานกับสุรเกียรติ์ เสถียรไทยก็ใช้นามสกุลสามีตามกฎหมายว่า เสถียรไทย แต่นอกกฎหมายสงสัยจะเป็น " ลิ้มทองกุล"


*เรื่องในวังเกี่ยวกับคู่ครองมักจะสับสน เป็นต้นแบบของพรรคประชาธิปตย์ที่สลิ่มมักไม่ยอมรับรู้เพราะถือว่าท่านเป็น เทพที่ผุดผ่อง,อยากจะให้ลองดูอีกสักคู่สกุลแต่ สปท.ยังอยากให้ลุ้นก่อนแล้วค่อยเผยทีหลังเพราะยังไม่อยากให้บางคนช็อคตาย ก่อนเวลา


*อีกคู่สองสาวนามสกุลเดียวกันที่ว่านี้มี ความงามระดับนางงามจักรวาลคนหนึ่งวันนี้แม้แก่อายุ 68 ปีแต่ไม่มีเหี่ยว  เพราะเทียวไปผ่าตัดเป็นประจำจึงทำให้งามเหมือนอายุ 38 ปี มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนแต่ก่อนคลอดก็ให้ไปแต่งอยู่กินกันโดยชอบด้วยกฎหมาย กับคนสกุลกิติยากรที่เป็นตุ๊ดอยู่สักพักพอเธอคลอดลูกแล้วได้ชื่อพ่อที่ถูก ต้องแล้วก็เลิกกันไป  โดยใช้วิธีแบบเดียวกับหม่อมบุษบาแล้วหลังจากนั้นก็ไปมีผัวใหม่อีกก็ยิ่งห่าง ตัว


*อีกคนเป็นลูกพี่ลูกน้องแต่นามสกุลเดียว กันแต่ก็สวยอย่างนางงามจักรวาลถึงขนาดทักผิดได้ในฐานะสาวเหนือจึงมีิผิวพรรณ ดีและอายุวันนี้ 67 ปีมีชื่อเปิดได้แต่ยังไม่ขอเปิดปัจจุบันมีลูกชายเกิดกับภูมิพลด้วยคนหนึ่ง เรียกขานกันในวังว่า "อภิชาติ" อายุอยู่เลข 40 ปีแต่เมื่อท้องก็ให้ไปแต่งงานกับชายหนุ่มคนหนึ่งในสายสกุล "ประภาวัต" และออกไปคลอดที่ต่างประเทศเมื่อเติบโตก็เคยมอบหมายงานให้ดูแลผลประโยชน์ใน อเมริกา แต่ล่าสุดเดินอยู่ในวังที่หัวหินแต่ที่แน่ๆคุณตาก็กลายเป็นพระญาติ และภูมิพล ก็ได้มอบหมายให้ดูแลงานด้านนิติบัญญัติในฐานะประธานสภาตั้งแต่ 2519 ต่อเนื่องยาวนานเกือบ10 ปี แต่ส่วนใหญ่เป็นประธานสภาในสมัยการรัฐประหาร...อีกไม่นานทุกอย่างจะเปิด เผย...หรือใครอยากให้เฉลยก็ไปเปิดดูว่าประธานสภาหลังเหตุการณ์6ตุลามหาโหด ชื่ออะไรก็ง่ายที่จะคลำถูก


*เรื่องถอดถอนยิ่งลักษณ์ด้วยเสียงขาด ลอย190 ต่อ18เสียงวิเคราะห์เท่าไรก็วิเคราะห์ไม่ออกว่าทำไมคะแนนจึงออกมาหนาแน่น เช่นนี้, ก็ไหนแหล่งข่าวบอกว่า ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความสัมพันธ์อันดีกับนายกปู,ก็ขอให้รู้ตรงนี้ว่าของจริงแกนอำนาจไม่ใช่ ประยุทธ์  เพราะพี่เหล่ทำเท่ห์แค่เป็นตัวตลกและวันนี้แหล่งข่าวที่ยืนยันได้จากสายศิริ ราชว่า พระทอมขาถ่างท่านสั่งผ่านลงมา...วิเคราะห์ดูดีๆก็มีเหตุผลเพราะการที่ตระกูล "ชินวัตร" อ่อนแอยิ่งมากเท่าไรในวังทุกสายก็ยิ่งสบายดี  ดังนั้นเลิกฝันเรื่อง ฟ้าชาย จะช่วยให้รอดพ้นสักทีจะดีใหม?, ขอฝากด้วยช่วยหน่อยถ้าคนใหนใกล้ชิด ทักษิณ ช่วยสะกิดให้ตื่นด้วย...ของจริงยังเป็นพลังจากทอมขาถ่างที่ยังมีพลังแค้นแทน พ่อไม่เปลี่ยนแปลง


*ในเรื่องทางการเมืองก็ไม่ชอบใจเรื่องภาย ในใจก็อิจฉา,เรื่องโรคอิจฉาของวังนั้นเป็นโรคติดต่อที่รุนแรงยิ่ง   เป็นเรื่องผู้หญิงสวยผู้หญิงเก่งและยิ่งเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่ประชาชนรัก ก็ยิ่งอันตราย
ดังนั้นทุกสายในวังพลังหญิงก็ยิ่งรวมศูนย์ ซัดกระหน่ำ...ลองนับนิ้วมือดูครอบครัวอลเวงเนื้อแท้วันนี้มีหญิง 5 ชาย1เดียวเท่านั้น...ยังดีนะที่คุณแม่ปลาวาฬเดี้ยงไปแล้วไม่เช่นนั้นจะเป็น มติ 220:0


*เรื่องโรคขี้อิจฉาของผู้หญิงในวังนั้นดัง มานานแล้ว...ในสมัยที่ปลาวาฬยังแข็งแรง ภรรยานายกฯคนใดถ้าเผลอไผลไปให้สื่อเรียกว่าสตรีหมายเลขหนึ่ง  เมื่อใดก็เตรียมตัวตายได้ทั้งผัวทั้งเมีย,เรื่องทำนองนี้เมียนายทหารที่หวัง จะเติบโตรู้ดีถ้าผัวเป็นใหญ่เมื่อใดต้องให้ระวังตัวเมื่อเข้าวัง


*นายกฯที่ปลอดภัยต้องไม่มีเมียดูอย่างพล เอกเปรมเป็นต้น  แต่แม้กระนั้นตอนปลายของการเป็นนายกรัฐมนตรีช่วงสุดท้ายก็เกือบตายเอาตัว เกือบไม่รอดที่ดันไปทำท่าเดินเหยียบผ้าขาวให้ชาวบ้านเอาไว้ไปบูชา



*อย่าว่าแต่นายกรัฐมนตรีที่จะมีชื่อเสียง โด่งดังจนวังอิจฉา  วันนี้ในวงการสงฆ์ก็เหมือนกันถ้าเป็นพระบารมีโด่งดังก็ให้ระวังตัวไว้, เพราะพระสงฆ์องค์ใหนที่โยมถวายเงินทำบุญมากๆชีวิตจะยากลำบากตัวอย่างมีมา แล้วทั้งธรรมกายและสันติอโศก, ถ้าคิดจะอยู่ปลอดภัยต้องถวายเงินให้วังดูอย่างหลวงพ่อคูณยังจำได้ใหมต้อง ถวายเงินให้ถึง 80 ล้านบาท  เมื่อครั้งกษัตริย์ภูมิพลยังเดินไหวก็เสด็จไปรับเงินเองถึงวัดบ้านไร่  ยังไม่นับถึงเบี้ยบ้ายรายทางที่คนในวังจะไปเที่ยวรีดไถพระกันเป็นระยะๆ  ล่าสุดสายข่าวรายงานว่าพระหลวงปู่เณรคำก็เจอเข้าอีกรอบเดียวกัน  แต่ด้วยเพราะดังมีสตางค์ตั้งแต่อายุยังน้อยที่ยอมถวายเงินแล้วแต่ฮึดฮัดไม่ ต่อเนื่องจึงเกิดเรื่องไล่ทิ่มแทง


*เรื่องนางเสี้ยน จิตภัสร์ หรือ ตั้น กฤดากร ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรโดย พลเอก ดาวพงศ์ (มือเปื้อนเลือดราชประสงค์) ลงนามเองก็ยิ่งชัดเจนเพราะนางคนนี้เป็นเด็กเทพถ่าง  ใกล้ชิดยิ่งกว่านางติ่ง"คลิปโป้" ที่เทพถ่างเปิดตัวปูนบำเหน็จจากการขึ้น เวที กปปส.ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดงานแต่งงานให้,  ดังนั้นคนใกล้ชิดในฐานะเหลนของพระองค์เจ้าบวรเดชหัวหน้ากบฏบวรเดชศัตรูคู่อา ฆาตรของคณะราษฎรเมื่อปี 2476 ทำไมจะฝากให้เป็นคณะทำงานไม่ได้เพราะร่วมเป็นกบฏต่อประชาธิปไตยมาด้วยกันกับ รัฐมนตรีว่าการเองแท้ๆ


*เรื่องมติถอดถอนยิ่งลักษณ์เป็นผลดีที่ทำให้สถานการณ์แยกมิตรแยกศัตรูแจ่มชัดขึ้นจนได้ข้อสรุปตาสว่างดังนี้
1.ชินวัตรจะฝากความหวังกับวังสายฟ้าชายฝ่ายเดียวนั้นไม่ได้แน่,
2.คู่ขัดแย้งในวังนั้นมีทั้งด้านที่ร่วม กันและแยกกันแต่ด้านแยกกันเป็นปฏิปักษ์ต่อกันในเรื่องรัชกาลที่10ยังเป็น กระแสหลักที่ยังรอวันประทุเพราะพลังฝ่าย "ทอมถ่างบ่างเปรม" ยังขับเคลื่อนพลังตลอดเวลาแต่วันนี้ด้านที่ร่วมกันเพื่อทำให้พลังของชินวัตร อ่อนตัวเป็นผลประโยชน์ร่วมจึงเกิดเอกภาพตามมติถอดถอน,
3.วันนี้พลังชี้ขาดในการขึ้นเป็นรัชกาล ที่10ในเวทีอำนาจไม่ได้อยู่ที่ชินวัตรแต่อยู่ที่คณะทหาร คสช.(ส่วนคสช.หนุนใครยังอำพรางกันในกลุ่มอำนาจ) ดังนั้นการทำลายฐานการเมืองชินวัตรจึงเป็นผลประโยชน์ร่วมของ คสช.ร่วมกับวังทั้งสองฝ่าย,
4.สถานการณ์เผด็จการทหารยาวแน่ใครที่ฝันหวานว่าสถานการณ์จะกลับมาเลือกตั้งโดยง่ายต้องตื่นได้แล้ว,
5.คสช.แสดงตัวเตรียมร่างรัฐธรรมนูญเพื่อ ความมั่นคงวังแต่แฝงสร้างฐานอำนาจให้ตัวเองมั่นคงด้วยการให้ระบบพรรคการ เมืองอ่อนแอโดยใช้กลุ่มชินวัตรเป็นเป้าล่อ...

แต่ทั้งหมดนี้เป็นภาวะ 3 ก๊กของ 3 กลุ่มอำนาจที่ช่วงชิงผลประโยชน์กันบนศาลพระภูมิที่มีเสาหลักค้ำอำนาจเพียง เสาเดียวโดยไม่สนใจปากท้องของประชาชนและเสาหลักแห่งอำนาจคือ กษัตริย์ภูมิพลใกล้สิ้นใจและมิได้จัดให้มีการสืบทอดอำนาจให้เรียบร้อยก่อนใน ขณะที่ตนยังมีสติสัมปชัญญะ ด้วยความเห็นแก่ตัวซึ่งวันนี้ได้สายเสียแล้วจึงนับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ต่อการพังทะลายของระบอบศักดินาไทย
ยิ่งกษัตริย์ภูมิพลหนุนให้ทำรัฐประหารและ ให้ประยุทธ์ที่มีภาวะสติเฟื่องเป็นนายกฯด้วยยิ่งสนุกกันใหญ่ดังนั้นการลาก สถานการณ์ต่อไปบนภาวะที่ไร้ซึ่งความถูกต้องเป็นธรรมไม่เพียงแต่ประชาชนจะ เสื่อมศรัทธาต่อสถาบันกษัตริย์แล้วเกียรติ์ภูมิของกองทัพก็พังทะลายด้วย


*ปิดท้ายวันนี้หลังจาก คสช.สั่งการเล่นงานยิ่งลักษณ์อย่างไร้เหตุผลที่ทำให้ผูคนเกลียดชังอย่างถึง ใจยังไม่พอเพียงแค่เขาจะขอโอกาสแถลงข่าวที่ โรงแรมเอสซีปาร์ค ก็ยังตามมารังควานออกคำสั่งห้ามแถลง....วันนี้กองทัพไทยแม้จะยิ่งใหญ่ใน ภูมิภาคแต่ขอบอกความจริงให้ว่าข้างในกลวง  แม้จะเพิ่มงบประมาณซื้ออาวุธมากมายแต่รบกับใครก็มีแต่แพ้  เพราะแนวหลังมีแต่คนคอยจะซ้ำเติมเนื่องจากวันๆสร้างแต่ความเกลียดชังให้กับ ประชาชนของตนเอง//



----------------จบ-------------

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar