Khaosod - ข่าวสด
ความช่วยเหลือชาวนาเพื่อรับมือในสถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำมีมาตรการออกมาเป็นระลอก
จากข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกเจ้าจนมาถึงข้าวเหนียว
มาตรการต่างๆ นี้ ใช้กลไกของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ในส่วนของเกณฑ์ราคาข้าวเหนียว ธ.ก.ส.ให้สินเชื่อรับซื้อตันละ 9,500 บาท
และจะมีเพิ่มเติมช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพให้อีกตันละ 2,000
บาท ค่าขึ้นยุ้งเก็บรักษาตันละ 1,500 บาท รวมเป็น 13,000 บาท
กรณีที่ไม่มียุ้งฉางจะลดในส่วนของเงิน 1,500 บาทลงมา
จึงเป็นเรื่องที่น่าติดตามว่า มาตรการเหล่านี้จะมีผลช่วยชาวนาอย่างไร
แต่สิ่งที่รัฐบาลกังวลเพิ่มเติมขึ้นมา กลับเป็นคำอธิบายในมาตรการที่ไม่ปรารถนาให้มีคำว่าจำนำยุ้งฉาง
คําอธิบายของรัฐที่ไม่ต้องการให้ใช้คำว่า รับจำนำยุ้งฉาง เพราะเกรงว่าประชาชนจะสับสนกับโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลชุดก่อน
ในโครงการรัฐบาลไม่ได้ซื้อมาเก็บไว้เองทุกเมล็ดแบบโครงการจำนำข้าว
และรัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบ อีกทั้งมีกำหนดระยะเวลา 3 เดือนให้มาไถ่ถอน
ถ้าไม่มาไถ่ถอน ธ.ก.ส.จึงจะขาย
ดังนั้นจึงต้องการให้เรียกว่าเป็นมาตรการชะลอการขายโดยเก็บไว้ในยุ้งฉาง
เช่น ในส่วนของข้าวเปลือกหอมมะลิ มี เป้าหมายให้สินเชื่อชะลอการขาย 2
ล้านตัน และข้าวเปลือกเจ้า/ปทุมธานี มีเป้าให้สินเชื่อชะลอการขาย 1 ล้านตัน
แม้จะเป็นที่เข้าใจกันว่าวิธีการดังกล่าวนี้คล้ายกับการจำนำ แต่คำว่าจำนำกลับกลายเป็นคำที่มีปัญหา
การที่คำว่าจำนำกลายเป็นเงื่อนไขที่ไม่สมควรใช้ เนื่องจากคำคำนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประเด็นทางการเมือง
บุคคลในรัฐบาลชุดโครงการรับจำนำข้าวกำลังถูกฟ้องร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย แม้ว่าจะเป็นค่าที่รัฐใช้จ่ายตามนโยบาย
นโยบายดังกล่าวเป็นเรื่องที่พรรคการเมืองรณรงค์ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง
จึงเป็นเรื่องที่สังคมรับทราบโดยแพร่หลายว่า
รัฐจะเป็นฝ่ายยอมขาดทุนเพื่ออุดหนุนเกษตรกร
ดังนั้นเป้าหมายและวิธีการของจำนำข้าวโดยรัฐบาลชุดก่อนจึงเป็นเรื่องต้นทาง
ส่วนมาตรการชะลอการขายข้าวปัจจุบันนี้เป็นเรื่องปลายทาง ย่อมไม่เหมือนกันอย่างชัดเจน
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar