söndag 27 november 2016

ศาสนาพุทธสอนสูงสุดคือตัดภพชาติ หรือนิพพาน ไม่ใช่ ขอเป็นโน่น เป็นนี่ อันนี้จะขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป ....จะตามทันเหรอ รีบๆหน่อย


ในภาพอาจจะมี 1 คน  
ศาสนวิทยา dr.Sinchai Chaojaroenrat 
พระพยอมชี้ “ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป” ไม่ถูกหลักพุทธศาสนา
"...ผิดหลักธรรมคำสอนที่บอก “ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป” นี่ไม่ถูก เพราะเกิดเป็นข้าใครหรือไม่เป็นข้าใครก็ไม่เป็นสุข เพราะชีวิตเราต้องเกิดมาเพื่อดับทุกข์และเพื่อหยุดการเกิดที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์อีกต่อไป
เราน่าจะพูดว่า “ขอให้พระองค์ถึงชาติสุดท้ายโดยฉับพลัน” หรือ “ข้าพระบาทจะตามรอยเพื่อให้ภพชาติการเวียนว่ายตายเกิดสิ้นสุดเร็ว”
ถ้าเราย้อนคิดดูพระองค์ท่าน ผ่านทุกข์ ผ่านโศกไม่ใช่น้อย อย่างหมอประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ยังพูดว่าพวกไม่รักสถาบันก็มี ดังนั้นพระองค์ทรงประคับประคองชาติบ้านเมืองอยู่ได้ยังไง
ตรงนี้เราเอามาคิดดูว่า เราอย่าเกิดมารับทุกข์ รับเวร รับกรรมต่อภพต่อชาติ เหมือนที่ชอบพูดเมื่อคนรักตายว่า ชาติหน้าขอให้เจอกันอีกนะ
ยิ่งรักมากก็ทุกข์มาก ถ้าเกิดมารัก มาชอบ มาเกลียด มาชังกัน เสียเวลาที่ต้องเวียนว่ายตายเกิด
แบบนี้ไม่ถูกหลักพระพุทธศาสนา..."
 
·พระมหาราชาในดวงใจ / โดย พระพยอม กัลยาโณ
On November 25, 2016
4460p
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
ช่วงที่เศร้าโศกก็มีคนที่สร้างสรรค์ อย่าง คุณอรอุมา เกษตรพืชผล จัดงานมหกรรมเทศนา 9 ชั่วโมงกับ 9 พระนักเทศน์ระดับประเทศ ที่ห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ มีเทศน์ มีทอล์ค “พระมหาราชาในดวงใจ” วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 8 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม อาทิ พระพรหมบัณฑิต พระราชวิจิตรปฏิภาณ พระราชญานมนตรี พระครูปลัดราชันย์ พระธัม์มหิโป พระพยอม และพระมหาสมปอง ฯลฯ
โอกาสอย่างนี้หายากที่จะเทศน์เรื่องพระราชาในดวงใจ แต่ละองค์แต่ละท่านมีประสบการณ์ มีมุมมองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมา เห็นพระองค์ทรงลำบากตรากตรำต่างๆเพื่อประชาชน ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านความยุ่งยากลำบากต่างๆ ถ้ามีการสาธยายเอามาบอกเล่าให้คนไทยได้เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท อาตมาว่าจะทำให้สามารถทดแทนที่เราเศร้าโศกเสียใจ
ใครที่ได้ไปฟังหรืออ่านบทความนี้ก็หมุนเวียนกันมาฟังเทศน์ฟังทอล์ค อาตมาว่าโอกาสแบบนี้ล่ะที่เขาเรียกว่าพลิกวิกฤตเป็นโอกาสจริงๆ ทำให้คนคิดจะหาอะไรทำ เจ้าภาพก็ต้องทำให้ประชาชนได้ประโยชน์มากกว่าจะนั่งทุกข์นั่งโศกอย่างเดียว เปลี่ยนจากสนามหลวงมาไว้ในห้างเซ็นทรัลสักวัน บรรยากาศจะได้คลี่คลายไม่ต้องไปนั่งรอคอยตั้ง 7-8 ชั่วโมง ฟังเทศน์ฟังทอล์คไปก็ได้ความรู้ความชื่นใจ พระดังๆมาพร้อมกันถึง 9 รูป ทัวร์ 9 วัดก็ยังเท่าไม่ได้ ครบ 9 วัดก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอพระที่อยากเจอหรือเปล่า แต่คราวนี้เจอแน่ แล้วยังนักพูดชั้นนำ เช่น คุณกรรณิกา ธรรมเกสร คณถาวร โชติชื่น เรียกว่างานนี้สะพรั่งไปหมด
ใครพลาดก็ถือว่าเสียโอกาสนาทีทองเลย จึงอยากบอกว่า การสูญเสียเนี่ย ถ้าเราจะนั่งเสียอกเสียใจก็อาจเสียสุขภาพ แต่ถ้าเป็นพุทธบริษัท จะไม่มานั่งบ่น นั่งเพ้อว่าเราหมดที่พึ่งแล้ว ไม่มีที่พึ่งแล้ว ทั้งที่พระพุทธเจ้าสอนให้เราพึ่งตนเอง ในหลวงก็ตรัสให้พึ่งตนเอง เพราะฉะนั้นอย่ามัวรำพึงรำพันว่าเราหมดที่พึ่งแล้ว
ที่ผิดหลักธรรมคำสอนที่บอก “ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป” นี่ไม่ถูก เพราะเกิดเป็นข้าใครหรือไม่ เป็นข้าใครก็ไม่เป็นสุข เพราะชีวิตเราต้องเกิดมาเพื่อดับทุกข์และเพื่อหยุดการเกิดที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์อีกต่อไป เราน่าจะพูดว่า “ขอให้พระองค์ถึงชาติสุดท้ายโดยฉับพลัน” หรือ “ข้าพระบาทจะตามรอยเพื่อให้ภพชาติการเวียนว่ายตายเกิดสิ้นสุดเร็ว”
ถ้าเราย้อนคิดดูพระองค์ท่าน ผ่านทุกข์ ผ่านโศกไม่ใช่น้อย อย่างหมอประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ยังพูดว่าพวกไม่รักสถาบันก็มี ดังนั้นพระองค์ทรงประคับประคองชาติบ้านเมืองอยู่ได้ยังไง ตรงนี้เราเอามาคิดดูว่า เราอย่าเกิดมารับทุกข์ รักเวร รับกรรมต่อภพต่อชาติ เหมือนที่ชอบพูดเมื่อคนรักตายว่า ชาติหน้าขอให้เจอกันอีกนะ ยิ่งรักมากก็ทุกข์มาก
ถ้าเกิดมารัก มาชอบ มาเกลียด มาชังกัน เสียเวลาที่ต้องเวียนว่าย ตายเกิดแบบนี้ ไม่ถูกหลักพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้นขอให้ไปฟังกันเถอะ จะมีการพูดให้ข้อคิดที่เราเข้าใจผิด หลงผิด เพื่อจะได้นำมาปฏิบัติเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ เป็นศาสนิกชนที่ดีของศาสนา เป็นพสกนิกรที่ดีของสถาบันพระมหากษัตริย์
เจริญพร

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar