กรรมไดที่ข้ากระทำขอใช้กรรมนั้น..นิรันดร....
ขุนเขาบอก :
กรรมไดที่ข้ากระทำขอใช้กรรมนั้น..นิรันดร....
นอนแน่นิ่ง พิงร่างนอน อ่อนแรงแล้ว
พ่อแม่แก้ว ลูกเหนื่อยแล้ว อยากหลับใหล
ทนฝืนร่าง สร้างภาพลวง ผูกบ่วงไท
หลายสมัย ฤดูกาล นานเหลือเกิน
ห่วงทรัพย์สิน เงินทอง กองท่วมฟ้า
จากผืนบ่า ประชาชน มากล้นเหลือ
ห่วงลูกหลาน วานวงศ์ ทั้งพงศ์เครือ
ทรัพย์ที่เหลือ จักถูกแย่ง แบ่งแผ่นดิน
เงาในตา พร่าเลือน เหมือนภาพฝัน
คำจำนรรจ์ ที่เลือนราง ข้างๆหู
เหมือนเสียงเพรียก จากนายบาป สาปแช่งกู
วสันต์ฤดู อยู่ไม่ถึง ต้องพึ่งเมรุ
โอ้เดือนดาว หนาวสะท้าน ผ่านหมอกฝน
ชีวิตคน ยามตกตาย กายเน่าเหม็น
หลังชีพวาย ก่อนกายไหม้ ใส่โลงเย็น
ตั้งไว้เป็น อุทาหรณ์ สอนผู้คน
ร่างในโลง ที่คงนอน สอนให้รู้
ยามชีพอยู่ กูนี้หนอ ชอบฉ้อฉล
ชอบเข่นฆ่า พร่าชีวี ย่ำยีคน
หนีไม่พ้น โดนตราบาป สาปแช่งชัง
อนิจัง อนิจจา ฟ้าของฉัน
เคยอำพัน อนันต์แสง แห่งมนต์ขลัง
มาบัดนี้ มีเมฆหนา มาบดบัง
ผู้คนชัง บัลลังก์ทอง มาหมองมัว
แสงสุดท้าย ก่อนอำลา มหาเทพ
ร่างหนาวเหน็บ เจ็บกายา ตาสลัว
จิตหลุดกาย คล้ายเฟือนฟั่น สั่นระรัว
ตาหม่นมัว ค่อยปิดลง อัสดงเอย..........กรรมไดที่ข้ากระทำขอใช้กรรมนั้น..นิรันดร....
นอนแน่นิ่ง พิงร่างนอน อ่อนแรงแล้ว
พ่อแม่แก้ว ลูกเหนื่อยแล้ว อยากหลับใหล
ทนฝืนร่าง สร้างภาพลวง ผูกบ่วงไท
หลายสมัย ฤดูกาล นานเหลือเกิน
ห่วงทรัพย์สิน เงินทอง กองท่วมฟ้า
จากผืนบ่า ประชาชน มากล้นเหลือ
ห่วงลูกหลาน วานวงศ์ ทั้งพงศ์เครือ
ทรัพย์ที่เหลือ จักถูกแย่ง แบ่งแผ่นดิน
เงาในตา พร่าเลือน เหมือนภาพฝัน
คำจำนรรจ์ ที่เลือนราง ข้างๆหู
เหมือนเสียงเพรียก จากนายบาป สาปแช่งกู
วสันต์ฤดู อยู่ไม่ถึง ต้องพึ่งเมรุ
โอ้เดือนดาว หนาวสะท้าน ผ่านหมอกฝน
ชีวิตคน ยามตกตาย กายเน่าเหม็น
หลังชีพวาย ก่อนกายไหม้ ใส่โลงเย็น
ตั้งไว้เป็น อุทาหรณ์ สอนผู้คน
ร่างในโลง ที่คงนอน สอนให้รู้
ยามชีพอยู่ กูนี้หนอ ชอบฉ้อฉล
ชอบเข่นฆ่า พร่าชีวี ย่ำยีคน
หนีไม่พ้น โดนตราบาป สาปแช่งชัง
อนิจัง อนิจจา ฟ้าของฉัน
เคยอำพัน อนันต์แสง แห่งมนต์ขลัง
มาบัดนี้ มีเมฆหนา มาบดบัง
ผู้คนชัง บัลลังก์ทอง มาหมองมัว
แสงสุดท้าย ก่อนอำลา มหาเทพ
ร่างหนาวเหน็บ เจ็บกายา ตาสลัว
จิตหลุดกาย คล้ายเฟือนฟั่น สั่นระรัว
ตาหม่นมัว ค่อยปิดลง อัสดงเอย..........กรรมไดที่ข้ากระทำขอใช้กรรมนั้น..นิรันดร....
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar