tisdag 14 januari 2020

“ประยุทธ์” ใช้เจตนาบริสุทธิ์แจงซักฟอก พร้อมรับมือฝ่ายค้าน สั่งฝ่ายความมั่นคงเกาะติด ไล่-เชียร์ลุง ไม่ว่ากลุ่มไหนก็ไม่เกิดอะไรดีต่อบ้านเมือง มั่นใจฝีมือตำรวจจับโจรปล้นทองได้แน่ แต่ไม่อยากกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ ชี้เป็นนายกฯ ไม่มีหน้าที่เคลียร์รอยร้าวใน สตช. ย้ำ การแก้ภัยแล้งยั่งยืนต้องแผน 20 ปี วอนทุกฝ่ายช่วยกันลดฝุ่น PM2.5






คอนเฟิร์ม "เสี่ย" สั่งเล่นงานพุทธะอิสระ
คุณวาสนา นาน่วม โพสต์เมื่อชั่วโมงที่ผ่านมาว่า ทั้ง ประวิตร วงศ์สุวรรณ และ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกมาขอโทษ "พระอาจารย์" และเรียกตำรวจไปตำหนิ กระทำการเกินเลย
(ดูที่นี่ https://goo.gl/BNdP8C และที่นี่ https://goo.gl/sfy7gL)
ผมคิดว่า ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า การสั่งหรือ "ไฟเขียว" ให้เล่นงานพุทธะอิสระ มาจาก "วังเสี่ย" ไม่เช่นนั้น ทั้ง "2 ป." คงไม่ถึงขนาดรีบออกมาขอโทษพร้อมๆกันแบบนี้ ที่สำคัญ ถ้า "2 ป." สั่ง หรือรู้เรื่องนี้แต่แรก ก็คงให้ดำเนินการแบบ "ละมุนละม่อม" กว่านี้แต่แรก
อย่างที่ผมอธิบายไปก่อนหน้านี้ คดีหมิ่นฯ โดยเฉพาะคดีใหญ่ๆ คนดังๆ เส้นใหญ่ๆ (อย่างกรณีพุทธะอิสระนี้ หรือ กรณีหมอหยอง, อัครพงศ์ปรีชา ฯลฯ) เป็นเรื่องที่ตำรวจหรืออัยการ "ประสานงานโดยตรงกับวัง" ทิศทางและการตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆที่เกี่ยวกับ 112 ไม่ได้อยู่ในมือรัฐบาล แม้แต่รัฐบาล คสช. (กรณีอย่าง "ไผ่ ดาวดิน" ก็เช่นกัน มาจาก "วัง" เหมือนกัน เพราะ "เสี่ย" "ยั้วะ" เรื่องบทความบีบีซีมาก)
....................
ปล. ดู "คำอธิบาย" ของคุณวาสนา ในกระทู้ถัดมาว่า ทำไม "2 ป." ออกมาขอโทษ "พระอาจารย์" https://goo.gl/z2qNnD ตอนหนึ่ง คุณวาสนาเขียนว่า "แต่เมื่อ "พระพุทธะอิสระ" โดนตำรวจบุกจับ จึงเกิดความสงสัยกันถ้วนหน้า แต่ก็ทำให้สังคมคิดว่า ถ้าทำผิด #โดยเฉพาะแอบอ้างเบื้องสูง. #ใครก็ช่วยไม่ได้"


Image may contain: 3 people
Image may contain: 4 people
(หมายเหตุ-"2ป "  ศิษย์เอก".พระอาจารย์" กับคดีซะตากรรม "พระอาจารย์"สุวิทย์ )
Somsak Jeamteerasakul

กระทู้ที่แล้วเรื่องจับคุณสวิทย์ ผมรีบเขียน เพราะกว่าจะกลับบ้านมาเขียนได้ เห็นว่าดึกมากแล้วของเวลาไทย (ถ้าใครขยันดูประวัติการแก้ไขกระทู้ จะเห็นว่า ผมมีการแก้ไข เรียบเรียงข้อความใหม่บางจุดหลายครั้งอยู่ เพราะพยายามให้ชัดเจนรัดกุมขึ้น แต่ก็อาจจะยังอ่านยากสำหรับบางคนอยู่)
ในที่นี้ ผมสรุปให้ดูง่ายๆขึ้น (หวังว่าอ่ะนะ) ดังนี้

(1) #คดีเกี่ยวกับเจ้าและผู้ต้องหาเป็นคนสำคัญ #มีเส้นสายใหญ่โตแบบคุณสุวิทย์ (หรือนึกถึงกรณีหมอหยองหรือพวกอัตรพงศ์ปรีชาที่คล้ายกัน) ลำพังตำรวจ ไม่กล้าตัดสินใจดำเนินการอะไรเองแน่นอนครับ (ยิ่งประเภททำขึงขัง เอาคอมมานโดไปบุกพังกุฏิอย่างที่เห็น)

(2) #มิหนำซ้ำ #ตำรวจกลับไม่ตั้งข้อหา112ด้วย ทั้งที่ถ้าเป็นคดีแบบเดียวกันที่ผ่านมา ต้องมีการตั้งข้อหานี้ และมีการแจ้งความ 112 ไว้แล้วด้วย ตำรวจก็ไม่กล้าตัดสินใจดร็อปข้อหานี้ไปเองแบบนี้ (คดี 112 นั้น ที่ผ่านมา ตำรวจไม่กล้าดร็อปไปง่ายๆอยู่แล้ว ต้องทำแบบเกินไว้ก่อน คนพูดถึงกษัตริย์ตายไปแล้วเป็นร้อยปี ยังต้องทำไปเผื่อไว้) อันที่จริง แต่ไหนแต่ไร ทิศทางใหญ่เกี่ยวกับการใช้ 112 จะใช้มากน้อยอย่างไร ก็ไม่ใช่การตัดสินใจระดับรัฐบาล แม้แต่รัฐบาล คสช. แต่เป็นอะไรที่ต้องประสานถามไถ่กับทางวัง ได้รับสัญญาณจากทางวัง คดีสุวิทย์ที่ไม่ตั้งข้อหา 112 แต่ใช้ข้อหาอื่นแทน เป็นไปตามทิศทางของวังระยะหลัง ที่พยายามให้เลี่ยงการใช้ 112 แต่ใช้ข้อหาอื่นที่โทษใกล้เคียงกันได้แทน หรือให้ "ดำเนินการไปตามเนื้อผ้า" ได้ (คือไม่ต้องเอาผิด 112 หมดทุกกรณี นึกถึงกรณีหญิงตาบอด หรือกรณีการตัดสินของศาลในบางคดีในเร็วๆนี้)



Inga kommentarer:

Skicka en kommentar